นายเศรณี
อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้แจ้งเตือนตอนบนของประเทศสิ้นสุดฤดูฝน
และเตรียมเข้าสู่ฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ถึงแม้ว่า 4 เขื่อนหลัก
สามารถกักเก็บน้ำได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ยังขอความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมหากเกิดภัย
และรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้ปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้อย่างไม่ขาดแคลน
ในการป้องกันเพื่อรับมือเมื่อน้ำเค็มรุกพื้นที่การเกษตร
สามารถดำเนินการได้ดังนี้
1.
ปิดประตูระบายน้ำในสวนตัวเอง
พร้อมสำรองและอุดรูรั่วตามแนวคันสวนโดยรอบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มเข้าร่วงสวน
2.
ขุดสร้างคันดินล้อมรอบสวนเพื่อป้องกันการรุกของน้ำเค็ม
3.
ลอกเลนตามร่องสวนออก
เพื่อเพิ่มพื้นที่การกักเก็บน้ำและดึงน้ำจากดินชั้นล่างให้ไหลออกมาใช้ได้
4.
ดูแลสวนตนเองอย่างใกล้ชิด
ตัดแต่งกิ่งที่จำเป็นเพื่อลดการคายน้ำ ไม่ปลูกพืชใช้น้ำมากในช่วงนี้
ใช้วัสดุคลุมโคมต้น เพื่อรักษาความชื้นของหน้าดิน
5.
จัดหาแหล่งน้ำสำรอง
6.
หากน้ำเค็มเข้าสวนแล้วให้รีบระบายน้ำเค็มออกจากแปลงปลูกให้หมด
แล้วจัดหาน้ำจืดมาให้แก่ต้นไม้
7.
กรณีกล้วยไม้ให้หมั่นตรวจวัดค่าการนำไฟฟ้าของน้ำที่จะใช้รดกล้วยไม้
โดยใช้เครื่องวัดECหรือส่งตรวจห้องปฏิบัติการของหน่วยงานราชการ
เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวเพิ่มเติมอีก
ได้แจ้งเตือนให้เกษตรกรในพื้นที่เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยสังเกตน้ำที่ใช้ ถ้าเป็นน้ำเค็มจะส่งผลให้ต้นพืชมีอาการปลายใบไหม้ ต้นเหี่ยวเฉา ใบเหลือง
หากติดผลแล้วก็จะสลัดลูกร่วงทิ้ง
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์การเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร (www.TMD.go.th, www.RID.go.th, www.DOAE.go.th) หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร โทร/โทรสาร.
034-426995 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
ข่าว..
สุภาพร อินดำ กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น