pearleus

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นายกฯต้องเป็นผู้นำแก้ปัญหา :

cache_ea03ab4d7aeef8f08d8dd94f9b837a4fสิ่งที่นายกรัฐมนตรี รัฐบาล รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและแต่ละส่วนที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นกลไกที่จะขับเคลื่อนประเทศแสดงออกมานั้น ยังคงไม่มีสัญญาณที่จะหาทางออกร่วมกันกับทุกฝ่าย ทั้งที่สถานการณ์บ้านเมืองมาถึงจุดนี้นั้นเรียกได้ว่า ล่อแหลมเต็มทีที่จะเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คนไทยทุกคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ท่าทีจากฝ่ายรัฐบาลที่สะท้อนภาพของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาสนับสนุนอยู่ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ดูจะออกไปในทางที่สุ่มเสี่ยงกับความรู้สึก ท้าทาย พร้อมเผชิญหน้าเสียมากกว่า ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลรวมทั้งนายกรัฐมนตรี ก็เล่นบทออกมาเรียกร้องให้อย่าใช้ความรุนแรง ให้ทุกคนปรองดองสามัคคีเท่านั้น ทั้งที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้บางคนอาจจะมองว่า จะเป็นธรรมได้อย่างไร ที่ไปผลักภาระอันหนักอึ้งเช่นนี้ให้นายกรัฐมนตรี แต่เหตุผลก็เพราะว่า ในฐานะผู้นำประเทศเมื่อเกิดวิกฤติการณ์ใดขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยเพราะสาเหตุใดก็ตาม ผู้นำประเทศจะต้องเสนอตัวเพื่อออกมาคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่อาจให้ใครมาพูดได้ว่า ประสบการณ์เพียงเท่านี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะในฐานะผู้นำประเทศแล้ว ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุผลใด ประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องเข้ามาขจัดปัดเป่าปัญหาเพื่อให้ความสงบสุขบังเกิดแก่ชาติบ้านเมือง ยิ่งหากว่า ปัญหาเหล่านั้นเกี่ยวพันกับอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีโดยตรงการปล่อยให้สถานการณ์เนิ่นนานออกไป โดยที่ไม่แสดงท่าทีที่จะเข้ามาบริหารจัดการปัญหา เพื่อให้ความสงบสุขได้เกิดขึ้น ไม่เพียงแค่เป็นการละเลยอำนาจ หน้าที่และสำนึกรับผิดชอบที่ตนมีอยู่ หากแต่ยังเท่ากับจงใจที่จะปล่อยให้เหตุการณ์บานปลายออกไป ทั้งที่รับรู้ได้โดยสามัญสำนึกว่าถ้าปล่อยให้การชุมนุมของคน 2 กลุ่มยืดเยื้อออกไปเช่นนี้ บ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นอาจไปถึงขั้นนองเลือดขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้

เกิดเหตุ โจ๋แค้นถูกแย่งแฟนสาว นัดท้าดวล ก่อนดักยิงดับอนาถ บริเวณตรงข้ามกรมศุลกากร

1ร.ต.ท.ฤทธิพงศ์ ภูทอง พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต บริเวณตรงข้ามกรมศุลกากร ถนนอาจณรงค์ เขตคลองเตย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผกก.สน.ท่าเรือ พบศพ นายวัชสันต์ แตงอ่อน อายุ 16 ปี นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อกีฬาคอวีสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์สีเข้ม มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับใกล้หางคิ้วด้านขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด ตรวจสอบในร่างกายมีอาวุธมีดยาว 1 ฟุต เหน็บอยู่ที่กางเกงจากการสอบสวน นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เพื่อนผู้ตาย ทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวานเวลาประมาณ 20.00 น. กลุ่มเพื่อนตนรวมทั้งผู้ตายได้ไปมีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ที่แฟลตเอื้ออมร โดยอ้างว่า เพื่อนในกลุ่มได้แย่งแฟนไป ก่อนจะมีการท้านัดเจอกันที่บริเวณสี่แยกกรมศุล ในช่วงกลางดึกต่อมาเมื่อเวลา 22.30 น. เห็นว่ามีกลุ่มคู่อริ จำนวน 5 คนขับขี่จักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน มาวนดูบริเวณหน้าร้านที่ตนนัดรวมตัวกัน ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปดักรอภายในซอยข้างร้าน ต่อมาเพื่อน ๆ ตนได้ขับรถจักรยากลับมายังร้าน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนลั่น 2 นัดจากซอยดังกล่าว กลุ่มเพื่อนตนจึงเร่งเครื่องพยายามหลบหนีบางส่วนวิ่งหลบเข้าร้านตน โดยผู้ตายได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าโซนิค สีขาวของเพื่อนก่อนจะถูกคู่อริที่ดักรออยู่แล้วเดินเข้ามาจ่อยิง 1 นัด จากริมถนน ทำให้ผู้ตายตกจากรถเสียชีวิตทันที ส่วนกลุ่มคนร้ายยังได้วิ่งไล่ยิงกลุ่มผู้ตาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บก่อนจะพากันหลบหนีไปด้าน นางอมรรัตน์ ทานากะ อายุ 42 ปี แม่ผู้ตาย ให้การว่า ลูกชายเคยมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งไม่นานมานี้ เพิ่งเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ก่อนจะออกมาเพียงไม่ถึงเดือน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่าลูกชายถูกยิง จึงรีบมาดูด้วยตัวเอง ส่วนตัวยังทำใจไม่ได้ ขอไม่เปิดเผยกับสื่อมวลชนแต่อย่างใดขณะที่ พ.ต.อ.จักษ์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เรื่องยาเสพติด และเรื่องเขม่นกันในกลุ่มวัยรุ่น ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณข้อมูลข่าว INN

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จะปิดเกมกัน..แบบไหน

7777สถานการณ์การเมืองในวันนี้ บางครั้งดูเหมือนจะถึงจุดแตกหัก ระหว่าง "รัฐบาล-กลุ่มผู้ชุมนุมราชดำเนิน" แต่บางครั้งก็ไม่ต่างจาก "แม่เหล็ก" ขั้วเดียวกันต่างก็ผลักกันออก เมื่อเข้าใกล้กัน แม้ว่าสัปดาห์นี้ มุมมองด้านความมั่นคงจะมองแทบไม่ต่างจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่าใดนัก แต่ก็มองเห็นแนวโน้มความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ ภายใต้เงื่อนไขและปัจจัยที่ยังไม่แตกต่างจากที่ผ่านมา สถานการณ์ในขณะนี้จึงเป็นการแก้ไขปัญหาแบบวันต่อวัน และเป็นการยากที่จะคาดเดาได้ล่วงหน้าว่า แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจะเอาอย่างไร แต่ที่บอกได้แน่ๆ คือ ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมที่ต้องยอมรับว่า เกือบ 100% เป็นคนชั้นกลางใน กทม. ซึ่งมีข้อจำกัดมากมายหลายอย่าง การเคลื่อนไหวของกลุ่มราชดำเนินที่มี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ ยังคงมีสภาพไม่ต่างจากการเล่น "หมากรุก" กับฝ่ายรัฐบาล ผลัดกันเดินคนละตา ตรงตามกติกา "หมากรุก" ถึงแม้ว่า เมื่อรุกเข้าไปแล้วรัฐบาลตัดสินใจถอย อยากจะยึดก็ยึด แต่ไม่ยอมสั่งให้มีการปะทะ ทั้งในแง่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือกระทั่งมวลชนคนเสื้อแดงที่ถูกสั่งเด็ดขาดให้อยู่กันเฉพาะที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน นั่นก็เพราะรัฐบาลมองท่าทีของแกนนำผู้ชุมนุมทะลุแล้วว่า มุ่งที่จะกดดันรัฐบาลด้วยวิธีการสูงสุด ที่ไม่ใช่เพียงแค่การยึด การเรียกร้องให้ประชาชนปฏิเสธอำนาจรัฐบาล มุมมองของฝ่ายความมั่นคงนั้น เห็นว่า การบุกเข้ายึดแล้วพักค้างแรม สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมวลชนบางครั้งฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ บางครั้งก็เพลี่ยงพล้ำ แต่ยังไปไม่ถึงจุดพลิกผัน หรือจุดวิกฤติที่จะชี้ขาด แพ้-ชนะ ตรงกันข้าม หากเกิดความรุนแรงจนถึงขั้นปะทะกัน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างมวลชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือระหว่างมวลชนกับมวลชนด้วยกัน ทำให้รัฐบาลไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะใช้กฎหมายพิเศษเพื่อมาบริหารราชการแผ่นดินในภาวะฉุกเฉิน สั่งการให้กองทัพออกมาปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เป็นหมากตัวสุดท้ายที่จะพลิกผันเหตุการณ์ทั้งหมด..ส่วนมวลชนผู้ชุมนุมนั้น ก็ยังเชื่อมั่นว่า ถึงอย่างไรกองทัพก็น่าจะเลือกจัดการรัฐบาล มากกว่าเข่นฆ่าทำร้ายประชาชน....อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในขณะนี้ กองทัพยังคงมีมองว่า เหลือพัฒนาการอีกพอสมควรที่จะก้าวเข้าสู่สถานการณ์วิกฤติเช่นนั้น...ฉะนั้นหากกกองทัพก้าวผิดจังหวะก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมประเทศไทย เพราะไปเพิ่มความซับซ้อนปัญหาให้มากยิ่งขึ้น จนสุดท้ายอาจบานปลายออกไปจนไม่ว่าใครก็เกินที่จะแบกรับความรับผิดชอบ...ขณะเดียวกัน การเรียกร้องหรือเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในขณะนี้ ก็ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นภาวะฉุกเฉิน การเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด .....คำว่า "จะปิดเกม..กันแบบไหน" ภายในกำหนดวันนั้นวันนี้ หากแกนนำผู้ชุมนุมเลือกที่จะเดินไปที่นั่นที่นี่ การ "จะปิดเกม..กันแบบไหน" ก็น่าจะเป็นเรื่องของการเสร็จสิ้นการเยือนในแต่ละสถานที่ แล้วมีคำถามมาอีกว่า...การชุมนุมละ..มันจะจบลงได้อย่างไร ถ้าทำเช่นนั้น.....นั้นคือคำถามที่หาคำตอบยาก..ถึงยากมากๆ...เห็นได้จากการยึดกระทรวงการคลัง (ไม่ว่าจะยึดหรือได้รับการเชื้อเชิญก็ตาม) เป็นการเดินทางไปเยือนกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ แล้วเรียกร้องให้ปฏิเสธอำนาจรัฐและมาร่วมชุมนุม นั่นก็เพราะในเวทีต่างประเทศเขาปฏิเสธการบุกยึดสถานที่ราชการ เพราะจะสร้างความเสียหายไปทั้งระบบ และสุดท้ายความเดือดร้อนจะย้อนกลับไปหาประชาชนคนทั่วประเทศ

ตร.ร่วมกับ 50 หน่วยงานประชุมเตรียมความพร้อม ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2557

274367เมื่อ 20 พ.ย.56 ณ ห้องประชุม 1 ตร. พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานจราจร เป็นประธานการประชุมระดมหน่วยงานทั้งใน ตร.และนอก ตร. จำนวน 50 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมประชุมหารือเตรียมความพร้อมเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ซึ่งปีนี้มีวันหยุดจำนวน 5 วัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ธ.ค.56 ถึงวันพุธที่ 1 ม.ค.57 โดยพิจารณาจากข้อมูลและสภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุทางถนนในช่วงปีใหม่ปีที่แล้วซึ่งเกิดอุบัติเหตุจำนวน 3,176 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3,329 คน และผู้เสียชีวิต 365 คน สาเหตุหลักเกิดจาก 3 ประการคือ 1) เมาสุรา 2) การขับรถเร็ว 3) ไม่สวมหมวกนิรภัย ดังนั้นในปีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.จึงได้ให้มีการเตรียมการเพื่อสร้างความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนล่วงหน้า โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. เร่งดำเนินการกำหนดมาตรการและบูรณาการสนธิกำลังหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันเตรียมการปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลตามเป้าหมาย คือจะต้องลดจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลงให้เหลือน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับสถิติปีใหม่ 2556 ที่ผ่านมา โดยขับเคลื่อนและรณรงค์ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ” โดยกำหนดมาตรการเข้มในการป้องกันและลดอุบัติเหตุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เรียกว่า “มาตรการ 7 วันแห่งความปลอดภัย” (27 ธ.ค.56 – 2 ม.ค.57) มาตรการนี้ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักกล่าวคือ ช่วงเตรียมความพร้อม ระหว่างวันที่ 1 - 30 พ.ย.56 (30 วัน) ช่วงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 1 - 26 ธ.ค.56 (26 วัน) ช่วงคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.56 – 2 ม.ค.57 (7 วัน) ซึ่ง 3 ขั้นตอนนี้ประกอบด้วยการบริหารจัดการจราจรที่มีประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกการจราจรและการบังคับใช้กฎหมาย โดยเน้นหนักการจับกุม 10 ข้อหาหลักได้แก่ 1)เมาสุรา 2) ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 3)ไม่สวมหมวกนิรภัย 4) ขับรถฝ่าสัญญาณไฟ 5) ขับรถแซงในที่คับขัน6)ขับรถย้อนศร 7) ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 8) ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 9) อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง และ 10) โทรศัพท์ในขณะขับรถ รวมทั้งปีนี้จะให้ทุกหน่วยเน้นกวดขันมิให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยให้ฝ่ายต่าง ๆ ร่วมรณรงค์ปลูกจิตสำนึกเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทั้งตัวคนคือผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร ยานพาหนะ สภาพถนนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั่วทั้งประเทศ

โครงการ ซีพีเอฟ มหาชัย

ปลูกป่านายวินิตย์ ปิยะเมธาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการ “ซีพีเอฟ มหาชัย ร่วมใจปลูกป่าชายเลนเทิดไท้องค์ราชัน” ในพื้นที่หมู่ที่6 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โครงการนี้จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผืนป่าชายเลนบางหญ้าแพรก รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จะได้ผืนดินกลับคืนมา และได้แหล่งอาหารจากสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) จะได้ร่วมกันจัดโครงการส่งเสริมธรรมชาติฟื้นฟูป่าชายเลนในครั้งต่อ ๆไป เพื่อให้แหล่งทัพยากรจังหวัดสมุทรสาครมีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งๆขึ้น

สรุปข่าวรอบเดือน เจาะทั่วโลก.ชี้ชัดทั่วไป

- ตามคาดดั่งหวยล็อค สภาโหวตไว้วางใจ ปู 297 เสียง จารุพงศ์ 296 เสียง แต่มีฝ่ายค้านกลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ฝากไว้ในพรรคภูมิใจไทยโหวตช่วย รวมถึงพล.อ.สนธิ (บิ๊กบัง) ก็โหวตช่วยอีก 1 เสียงด้วย
- นายกปู แถลงขอม็อบยุติ ชี้ไม่สามารถตั้งสภา ปชช.ได้ตามที่เรียกร้อง พร้อมเจรจากับผู้ชุมนุมทุกรูปแบบ หวัง ปท.สงบสุข
- สุเทพประกาศลั่นเวที โต้นายกฯ ขัอต่อข้อ เริ่มจากขอให้ม็อบยุติการชุมนุมนั้น
ขอตอบเลยว่าไม่มีทางและจะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นเพิ่มมากขึ้นด้วยโว้ย เรื่องขอให้มาเจรจากันนั้น ขอตอบว่าไม่มีกลุ่มไหนจะไปร่วมเจรจาด้วยแน่นอน วันนี้เรียกร้องให้ ปชช.ออกมาร่วมชุมนุมให้มากๆ โดยให้เตรียมไฟฉาย มาด้วยซึ่งอาจมีการเคลื่อนพลในยามค่ำคืนเพื่อปฎิบัติภารกิจ
- หลวงปู่พุทธะอิสระ ฝากถามถึงคนเสื้อแดงว่า มีอำนาจอยู่มากมายไม่อยากเป็นอิสระหรือ? ทำไมถึงยอมอยู่ใต้อุ้งตีนตระกูลชิน ยอดให้กดหัวอยู่ทำไม..แรงส์ อ่ะหลวงพ่อ
- ประชาธิปัตย์ยังแทงกั๊ก ออกมติไม่ให้ ส.ส.ลาออกเพิ่ม อ้างต่อสู้ในระบบคู่ขนาน
แต่สนับสนุนร่วมแสดงพลังเวทีชุมนุมต่างๆ ที่นำโดยนายสุเทพ เป็นแกนนำ แต่ห้ามอ้างถึงพรรค
- พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. แถลงผู้ชุมนุมทำไม่ถูก ตัดไฟสำนักงานตำรวจฯ และรพ.ตำรวจ กระทบผู้ป่วยใน รพ. ย้ำเน้นเจรจา... แต่ พล.ต.ท.จงเจตน์ ผอ.รพ.ตำรวจ ยืนยัน รพ.ไม่ได้ถูกม็อบตัดไฟฟ้า ผู้ป่วยเกือบ 500 คน ไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น จะมีก็แต่ห้องเก็บศพของนิติเวช ที่เตรียมการแก้ไขไว้เรียบร้อยแล้ว แถมย้ำว่าส่วนตัวเชื่อมั่นว่าม็อบไม่ทำสิ่งใดๆให้ผู้ป่วยเดือดร้อนแน่นอน สุดท้ายตอนหัวค่ำ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ออกมารับหนังสือของกลุ่ม กปท.พร้อมรับปากไม่ทำร้าย ปชช.แน่ สตช.จึงกลับมาทำงานได้ตามปกติแล้ว
- จารุพงษ์ แจงเวทีเสื้อแดง มีการยึดศาลากลางแค่ที่เดียว คือ สุราษฎร์ธานี ไม่คาดโทษผู้ว่า ชี้ ผวจ.เป่านกหวีด แค่ลูกไม้คนมหาดไทย อย่าถือสา จวกยึดคลังเข้าข่ายกบฎ ไว้เช็คบิลทีหลัง คดีอายุความ
10 ปี
- สหภาพการบินไทย แถลงผ่านสื่อต่างปท. รอยเตอร์ว่าจะงดบินทันที หากมีการทำร้ายผู้ชุมนุมขับไล่ รบ.
- ที่ประชุมอธิการบดี แถลงเรียกร้องให้นายกฯ ดำเนินการยุบสภา โดยหาคนกลาง
และตัวแทนของแต่ละฝ่าย มาร่วมพูดคุยเจรจา ซึ่งจะเป็นทางออกของ ปท.ได้
- ปปช.โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ฝ่ายหนุน รบ. โวยว่าเร่งรัดคดีรับลูกศาล รธน. ส่วนฝ่ายต่อต้านโวยให้เร่งดำเนินการ โดยอ้างว่ามีคำวินิจฉัยของศาล รธน.ชัดแล้ว อ้างว่าล่าช้ายกคณะทัวร์นอก แจงที่แท้ไปร่วมประชุมต้านทุจริตที่ออสเตรเลีย โดยมีกรรมการ ปปช. ไปชี้แจงเพียง 1 คน
- ศาลอาญายกคำร้อง สนธิ ลิ้มทองกุล ขอขึ้นเวทีปราศรัย ศาลชี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงสัญญาประกัน หากสนธิได้
กระทำการยั่วยุ ย่อมฝ่าฝืนเงื่อนไขปล่อยตัว อาจสั่งถอนประกันได้
- งานอื่นเลื่อนกันหมด มีแต่ Motor Expo งานท้ายปีที่มั่นใจคนร่วมงาน 1.6 ล้านคน ยอดจองรถน่าถึง 5 หมื่นคัน เริ่มแล้ววันนี้ที่เมืองทอง เออคนไปดูรถหรือดูพริตตี้มากกว่ากันน้า พวกขาม็อบก็ไปสะดวก ดูรถเสร็จแวะฟังปราศรัยต่อได้เลยใกล้กัน
- กองทัพญี่ปุ่นลองดี ส่งเครื่องบินรบ บินเข้าพื้นที่หวงห้ามที่จีนประกาศเป็นเขต ADIZ ในทะเลจีนตะวันออก แต่ก็ไม่ได้รับการต่อต้านจากจีน ในขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ ก็ส่งเครื่องบินรบบินผ่านเขต
ADIZ โดยไม่แจ้งทางการจีนเช่นกัน เที่ยวบินนี้เป็นการสอดแนมแนวโขดหินที่เรียกว่า เอียวโด ด้านออสเตรเลียได้เรียกทูตจีนเข้าพบ เพื่อแสดงการคัดค้านการกำหนดเขต ADIZ ส่วนฟิลิปปินส์ก็ประกาศไม่ยอมรับเขต ADIZ ของจีน ระบุละเมิดเสรีภาพในการบิน และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง
- พายุหิมะถล่มทางภาคตะวันออกของสหรัฐ ทำให้ต้องงดเที่ยวบินกว่า 200 เที่ยว และทำให้ผู้โดยสารที่จะเดินทาง
กลับบ้านในวันแต้งค์กิ๊ฟวิ่งกว่า 43 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อน
- พ่อแม่มะกันป่วยทางจิต ขังลูกสาว 3 คน ไว้ในบ้าน 2 ปี ไม่ให้ออกไปไหนทั้งสิ้น และให้ลูกกินอาหารเพียงวันละ 1 มื้อเท่านั้น ตร.แอริโซน่า เข้าช่วยเหลือได้เพราะลูกวัย 12 กับ 13 หนีลอดออกมา
ทางหน้าต่าง เนื่องจากพ่อซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงพยายามพังประตู และถือมีดเข้าทำร้ายพวกเธอ
- อิหร่านเชิญ IAEA ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ตรวจเยี่ยมโรงงานนิวเคลียร์ ที่เมืองอารัคในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจ ที่ทำในนครเจนีวา สวิตฯ
- ดาวน์โจนส์ หยุดวันขอบคุณพระเจ้า..

กทค.สั่งดีแทคจ่ายคืนเงินส่วนเกินที่เก็บเกินผู้บริโภค99สตางค์พร้อมดอกเบี้ยใครใช้ดีแทคกด *234*9#
วันสุดท้ายคร้า

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คอลัมน์ เรื่อง กล้วยๆ

     ตามที่พวกเราทีมงานทนายประชาชนได้เคยบอกเล่ากันมาตลอดว่า จริงๆแล้วกฎหมายเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรา อยู่กับชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน แต่หลายคนอาจจะรู้สึกว่ากฎหมายยากจึงไม่ค่อยสนใจ ลองมองดูตามหนังสือพิมพ์โดยทั่วไป แทบทุกฉบับต้องมีข่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายไม่โดยตรง ก็โดยอ้อมอย่างแน่นอน ว่าแล้วพวกเราก็ขอยกตัวอย่างข่าวที่ฟังตอนแรกแล้วขำ1403286_556562561080794_340780776_o (1)เอามากๆแต่จะขำมากแค่ไหนลองมาดูกัน.....เคยมีข่าวว่าอยู่ดีๆตายายคู่หนึ่ง ตื่นเช้ามาพบว่ากล้วยไม้ในสวนของตนเองที่ปลูกไว้หลายไร่หายไปหมด มิรอช้าตากับยายก็รีบวิ่งโร่ไปแจ้งความกับตำรวจ และตำรวจก็ไม่รอช้าเช่นกันสามารถจับผู้ร้ายได้ในวันนั้นนั่งเอง ปรากฏว่าคนร้ายก็เป็นลูกจ้างของตากับยายเองแหละ ขโมยตัดกล้วยเอาไปขายเมื่อตอนกลางคืน เพื่อเอายาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ใครฟังข่าวนี้ก็ขำกันทั้งนั้นแหละ ขำที่โจรกระจอกขโมยกล้วย ซึ่งเหมือนจะไม่มีค่ามากมายอะไร หากเทียบกับวัตถุสิ่งของ แก้ว แหวน เงินทอง เหมือนเป็นคดีขโมยของเล็กๆคดีนึง แต่....ในทางกฎหมายแล้ว อาจขำไม่ออกนะครับ เพราะผิดหลายอย่างเลย คือ

1.ขโมยทรัพย์สินนายจ้าง 2.เวลากลางคืน 3.ถ้าต้องเข้าออกหรือต้องทำรายสิ่งกีดขวาง เช่น ตัดกุญแจ

4.ขโมยผลิตผล พืชพันธุ์ ของผู้มีอาชีพกสิกรรม เหล่านี้กฎหมายถือว่าเป็นเหตุฉกรรจ์ครับ เพราะพฤติการณ์มากกว่าขโมยปกติ ร้ายแรงกว่าครับ จากลักทรัพย์ธรรมดา โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท กลายเป็นโทษจำคุกตั้งแต่ 1- 7 ปี และปรับ 2,000- 14,000 บาท แตกต่างกันเยอะเห็นมั้ยครับ !บางครั้งแค่ลักเล็กขโมยน้อย เราอาจเห็นว่าไม่มีอะไรมาก แต่พฤติการณ์เฉกเช่นกรณีนี้ถือว่าลักทรัพย์เหตุฉกรรจ์ ก็ต้องรับโทษหนักกว่าปกติ ซึ่งมิใช่น้อยๆ ก็ไม่รู้ว่าพ่อโจรพวกนี้ พอรู้ข้อกฎหมายแล้วจะคิดว่าเรื่องนี้แค่เรื่อง “กล้วยๆ” เหมือนตอนแรกรึเปล่าน้า?

สมุทรสาคร มวลชนเกือบ 1,000 คน เข้ายึดศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ สั่งหยุดงานทันที

20131128_133410กลุ่มมวลชนเกือบ 1,000 คน รวมตัวเข้ายึดศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งหยุดงานทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะปักหลักจนกว่าทุกคนจะออกจากศาลากลาง ที่ว่าการอำเภอเมือง และ อบจ.สมุทรสาคร

การชุมนุมของกลุ่มมวลชนต่อต้านการบริหารงานของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาล ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 โดยกลุ่มมวลชนได้มารวมตัวกันที่บริเวณรั้วด้านนอกหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ริมถนนเศรษฐกิจ 1 พร้อมกับเป่านกหวีดเรียกร้องให้ประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมา รวมถึงผู้ที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ออกมารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังในการขับไล่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไป ซึ่งในช่วงเริ่มแรกนั้นก็มีมวลชนมารวมตัวเกือบ 500 คน ขณะเดียวกันด้านการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการทั้งภายในและภายนอก ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากกองอาสารักษาดินแดน (อส.) และ เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ. กว่า 200 คน มาตรึงกำลังโดยรอบบริเวณพื้นที่และประตูทางเข้าออกศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ทางเข้าออกอำเภอเมืองสมุทรสาคร และทางเข้าออกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร อีกทั้งยังได้มีการปิดประตูทุกประตูโดยใช้โซ่คล้องและใส่กุญแจไว้อีกด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการรุกล้ำเข้ามาในสถานที่ราชการของกลุ่มผู้ชุมนุม

ต่อมาในเวลาประมาณ 12.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งขบวนเดินไปในตลาดสดมหาชัย เพื่อปลุกระดมให้ผู้ที่ต่อต้านรัฐบาลชุดนี้ ออกมาชุมนุมร่วมกันโดยได้เดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร จากนั้นก็วนกลับมารวมตัวที่รั้วด้านนอกหน้าศาลากลางอีกครั้ง ซึ่งเมื่อช่วงเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงก็ปรากฏว่ามีผู้มาชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นจำนวนเกือบ 1,000 คน และแล้วทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้แสดงพลังอารยะขัดขืนพยายามที่จะเข้าไปด้านในของศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดประตูรั้วด้านที่ติดกับกำแพงศาลจังหวัดสมุทรสาคร ให้กลุ่มมวลชนเข้าไปแต่โดยดีเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรง และเพื่อจะได้พบกับว่าที่ร้อยตำรวจโทอาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ตามคำเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม

ในเวลาประมาณ 13.15 น. ว่าที่ร้อยตำรวจโทอาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมและขอให้ผู้ชุมนุมนั้นได้ชุมนุมกันอย่างสันติวิธี ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยินยอมพร้อมกับมีการมอบนกหวีดและช่อดอกไม้ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร อีกทั้งยังขอร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมเป่านกหวีดแสดงพลังร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนข้อเรียกร้องสำคัญที่กลุ่มผู้ชุมนุมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครยอมทำตามก็คือ การสั่งให้สถานที่ราชการและข้าราชการทุกคนหยุดงานทันที พร้อมกับให้เก็บของกลับบ้านตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันนี้เป็นต้นไป และกลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักภายในรั้วศาลากลางจังหวัดจนกว่าทุกคนที่ทำงานในศาลากลางจังหวัดจะออกไปหมด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้ยอมทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยสั่งให้มีการหยุดงานภายในศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองสมุทรสาคร นับตั้งแต่เวลาบ่าย 2 โมงของวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน จนถึงวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556

เวลา 13.45 น กลุ่มผู้ชุมนุม ยกขบวนไปที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่เดียวกันกับศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับส่งเสียงเรียกร้องให้ข้าราชการและพนักงานทุกคนกลับบ้าน อีกทั้งยังได้มีการส่งเสียงขับไล่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย

ต่อมาในเวลา 14.30 น. ยังได้ไปปิดล้อมที่สำนักงานสรรพากรจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตั้งอยู่ด้านหลัง อบจ.สมุทรสาครอีกด้วย ซึ่งก็ได้กดดันให้ทุกคนหยุดการทำงานและออกจากสถานที่ราชการเช่นเดียวกัน

ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่า การมารวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อต้องการแสดงพลังในการขับไล่รัฐบาลที่ปฏิบัติงานด้วยความไม่ชอบธรรม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นไม่ได้ต้องการที่จะให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นเผาศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร หรือสถานที่ราชการ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งปลูกสร้างที่เกิดจากภาษีของพี่น้องประชาชน เพียงแต่ต้องการขอให้มีการหยุดงานตามข้อเรียกร้องเท่านั้น ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมจะยังคงปักหลักจนกว่าภายในสถานที่ราชการทุกแห่งนั้นจะไม่เหลือใครนั่งทำงานอยู่ จึงจะยอมสลายตัวแยกย้ายกันกลับไป แต่ในวันรุ่งขึ้นก็จะกลับมาดูใหม่อีกครั้ง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระราชวังไกลกังวล วันที่ 5 ธันวาคมนี้

13546070911354607120lสำนักพระราชวัง แจ้งหมายกำหนดการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระราชวังไกลกังวล วันที่ 5 ธันวาคมนี้ พร้อมขอความร่วมมือ ประชาชนที่ต้องการชื่นชมพระบารมี ให้ชมจากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เพราะเกรงว่า การจราจรจากกรุงเทพมหานคร ไปยังอำเภอหัวหิน จะติดขัดไม่สะดวกในการเดินทางศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคมนี้ ว่า พระราชพิธีปีนี้ถือว่าพิเศษกว่าทุกปี เพราะเป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม พระราชวังไกลกังวลอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะมีพระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภาประธานศาลฎีกา และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกระทรวง ทบวงกรม ต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทภายในท้องพระโรง รวม 600 คน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออก ในวันที่ 5 ธันวาคมเวลา 10.30 น.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไปคงไม่สามารถเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทชื่นชมพระบารมีด้วยสายตาได้ เนื่องจากศาลาราชประชาสมาคม อยู่ภายในพระราชวังไกลกังวล ขอให้ชมผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยจะสะดวกกว่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีประชาชนบางส่วนต้องการเดินทางไปแสดงความจงรักภักดีให้ใกล้ที่สุด โดยจะมีการติดตั้งจอขนาดใหญ่ บริเวณริมถนนเพชรเกษม พร้อมไฟฟ้าแสงสว่าง น้ำดื่ม การปฐมพยาบาล ไว้รองรับด้วย ซึ่งช่วงบ่ายวันที่ 4 ธันวาคม ถึงช่วงบ่ายวันที่ 5 ธันวาคม เส้นทางจราจรบริเวณถนนพระราม 2 จากกรุงเทพมหานครไปหัวหิน ผ่านสมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี บรรจบถนนพระราม 2 ที่แยกวังมะนาว ตรงไปหัวหิน เชื่อว่าการจราจรจะหนาแน่นกว่าปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือไม่ให้จอดรถบนไหล่ทางทั้ง 2 เส้นนี้ บางจุดอาจปิดให้มีจุดกลับรถน้อยลง เพื่อให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้นสำหรับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีทั่วประเทศ จะมีกิจกรรมเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา โดยส่วนของกรุงเทพมหานคร มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เป็นเจ้าภาพ เชิญชวนประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ที่ท้องสนามหลวง ในช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม และช่วงค่ำจะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และปีนี้รัฐบาลจะมีกิจกรรมพิเศษขึ้น ระหว่างวันที่ 1 - 20 ธันวาคม 2556 ภายใต้ชื่อ "พระทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์" ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงถึงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เช่น พระราชสมัญญานามที่หน่วยงานต่าง ๆ น้อมเกล้าฯ ถวายตั้งแต่ในอดีต เช่น ทรงเป็นอัครศิลปิน พระผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน โดยนิทรรศการดังกล่าว ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าชมฟรี ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ขณะที่การประดับไฟบริเวณถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานครได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเชื่อว่า เมื่อถึงเวลาผู้ชุมนุมจะเปิดพื้นที่ให้กรุงเทพมหานคร และกรมโยธาธิการ ไปทำความสะอาดและประดับไฟเหมือนเช่นทุกปี เพราะถือเป็นเส้นทางหลัก ที่จะไปพระบรมหาราชวัง และท้องสนามหลวง

สรุปข่าววันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. 2556

- ปิดศึกซักฟอกลงมติเช้านี้ จุรินทร์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวสรุปในสภายอมรับต้องแพ้โหวตแน่ นายกฯอาจหนี สภาได้ แต่หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้ ส่วนระหว่างวัน ปชป.อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ปู ซัดจะๆ ทุจริตจำนำ โครงการกู้ 2 ล้านล้าน ทำผิด กม.หลายเรื่อง
- ม็อบโค่นระบอบทักษิณ บุกสถานที่ราชการ กระทรวงทั่วทุกแห่ง 14 จุด ที่ ก.สาธารณสุข จี้ให้ตอบคำถามเป็นแพทย์เพื่อรักษา ปชช. หรือ รักษาประโยชน์ทักษิณ ส่วนทัพใหญ่นำโดยสุเทพ บุกศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ซึ่งมีกระทรวงเป้าหมายหลัก คือ ก.ยุติธรรม ก.ไอซีที และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมกว่า 29 หน่วยงานในบริเวณดังกล่าว พร้อมปักหลักค้างคืนที่ศูนย์ราชการ ย้ำแม้นยุบสภาก็ไม่เลิก วางเป้ามีสภาประชาชน
- ต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคใต้ทุกจังหวัด ผู้ชุมนุมปิดล้อมศาลากลาง ทำให้ข้าราชการต้องกลับบ้านทันที
- เวทีราชดำเนินประกาศมี 30 จังหวัดแล้วที่ ปชช.ร่วมชุมนุมหน้าศาลากลางของแต่ละจังหวัด
- ทนายของสุเทพยื่นคัดค้านหมายจับ แต่ศาลบอกยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง
ด้านทนายจึงเตรียมยื่นคำอุทธรณ์ต่อไป
- ศาลแพ่งยกคำร้อง ตามที่ ก.คลัง ขอคุ้มครองชั่วคราวให้สั่งผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่กระทรวง โดยให้เหตุผลว่า รบ.ประกาศ พรบ.มั่นคงฯ ซี่งครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
- ตร.สน.พญาไท ยื่นศาลขอออกหมายจับแกนนำ 6 คน ของ คปท. ที่บุกยึดกระทรวงต่าง ปท. แต่ทนายยื่นคัดค้าน
ทันที ศาลนัดไต่สวนวันที่ 2 ธ.ค.นี้
- ธปท.ประกาศลดอัตรา ดบ. ลงอีก 0.25% เหลือ 2.25% เพราะเศรษฐกิจของ ปท.ไม่ดี ส่งออกไม่เป็นไปตามเป้า ทั้งสถานการณ์การเมืองก็ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจด้วย
- ก.พาณิชย์ เผยยอดส่งออกประจำเดือนต.ค.ยังกู่ไม่กลับ ติดลบ 0.67% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวดี
- กสทช.เตือนผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้ง 3 ราย ห้ามตัดสัญญาณโทรศัพท์เด็ดขาด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการชุมนุม หากฝ่าฝืนจะยึดใบอนุญาตทันที ทั้งให้เพิ่มความแรงของสัญญาณ ในบริเวณชุมนุมด้วย
- ดีลใหญ่จบที่ดินกว่า 40 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท โครงการ "ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ" ของเศรษฐีเก่า ปิยะ จิตตาลาน ถูกซื้อไปเรียบร้อยแล้วโดย บ.แมกโนเลียฯ ซึ่งเป็นของครอบครัว"เจียรวนนท์" รวม มูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวทำเลดีมาก ติดถนนสุขุมวิทปากซอย
101/1 ใกล้รถไฟฟ้า BTS เป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง
- ข้าวไทยสูญตลาดใหญ่ คือ ฟิลิปปินส์อีก 500,000 ตัน โดย รบ.ไทยเสนอขายข้าว
สารเมล็ดยาวผสมเมล็ดหัก 25% ในราคา $475/ตัน เวียดนามเสนอ $462.25/ตันและจะลดราคาลงได้อีก โดยฟิลิปปินส์เป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่สุดในโลก
- อดีตนายกฯ แบร์ลุสโคนี ถูกวุฒิสภามีมติถอดถอนสมาชิกภาพ และตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 6 ปี หลังศาลสูงตัดสินว่ามีความผิดฐานโกงภาษี
ทั้งนี้ แบร์ลุสโคนียังมีคดีความอีกหลายคดีที่อยู่ในศาล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คดีซื้อบริการโสเภณีเด็กด้วย
- ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ญี่ปุ่นอาจขยายแผนที่เขตป้องกันภัยทางอากาศ  เพื่อตอบโต้กับทางการจีน ที่ได้ขยายแผนที่
ในลักษณะนี้ไปก่อนหน้าแล้ว
- ฟอร์ดอ่วม... งานเข้าจังๆ กับ "เอสเคป" นับแสนคัน พบว่ามีความเสี่ยงเครื่องยนต์ร้อนสูง จนอาจไฟลุกไหม้ ต้อง
เรียกคืนเพื่อตรวจสอบ รุ่นที่ผลิตตั้งแต่ ต.ค.2011 จนถึงปัจจุบันทั้งหมด
- นายกฯลัตเวีย ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ในเหตุหลังคาห้างสรรพสินค้าพังถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 54 คน สาเหตุออกแบบแย่ วัสดุห่วย และการคอร์รัปชั่น!!

อดีตรองนายกรัฐมนตรี คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวช้า แนะภาคธุรกิจปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือให้ทันการเปลี่ยนแปลง

550000002128901         อดีตรองนายกรัฐมนตรี คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวช้า แนะภาคธุรกิจปรับตัว และเตรียมพร้อมรับมือให้ทันการเปลี่ยนแปลง และรับการเปิดประชาคมอาเซียนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 31 จังหวัดตรัง ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าอาจจะมีเพียงการส่งออกที่น่าจะดีขึ้นเล็กน้อย ตามภาวะเศรษฐกิจของบางประเทศ อาจจะเริ่มดีขึ้นแต่ไม่มากนัก ที่เชื่อว่าจะขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 3 ในปีนี้ โดยภาคธุรกิจต้องเตรียมรับมือและรู้จักควบคุมต้นทุน วางแผนการทำธุรกิจให้รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ หันมาเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งการพัฒนาประเทศในอนาคตที่ต้องเริ่มทำแล้ว คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ และการผลิต รวมทั้งต้องปฏิรูปประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ สร้างการบริโภค รวมทั้งต้องใช้การใช้จ่ายของภาครัฐมาชดเชยการส่งออกที่ชะลอลง และลดการพึ่งพาภายนอกประเทศมากเกินไป เพราะจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ประเทศไทยทำงบประมาณแบบขาดดุลการคลังมาโดยตลอด รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท และหากยังคงทำไปเรื่อย ๆ เชื่อว่าอีกไม่นาน ประเทศไทยอาจจะประสบปัญหากับเพดานหนี้ที่สูงขึ้นอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันในภาคเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ ที่อาเซียนกำลังจะรวมกันเป็นประชาคมเดียวกัน แม้ไทยจะมีความได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้ง แต่หากขาดข้อมูลความรู้เรื่องการค้าขาย รวมทั้งสินค้าของประเทศเพื่อนบ้าน จะทำให้เราไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จากความได้เปรียบของประเทศที่มีอยู่ และภาคธุรกิจต้องปรับตัวเองให้รับกับการทำธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไป

ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ

20131127_102043เมื่อวันที่  24  พฤศจิกายน  2556  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มคนร้ายจำนวน 5 – 6 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ สีดำเหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ทรัพย์สินไปคือรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีฟ้า ทะเบียน  1 กข 1360 สมุทรสาคร จำนวน 1 คัน

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นักกลอนกินข้าวกล่องนอนยุงกัด....จาก สว.จร.สน.พระโขนง

1470323_181548955367276_372480837_nเก้าเพ-ลา แปดราตรี ที่ยืนอยู่
เป็นนักสู้ มัฆวาน ช่างนานเหลือ
ต้องตากแดด สู้ฝน จนขึ้นเกลือ
เพราะทำเพื่อ หน้าที่ มีวินัย
แสงแดดร้อน แผดกล้า ไม่น่าเชื่อ
อดทนเพื่อ ความสงบ ตามวิสัย
ดูแลทุกข์ สุขของ ประชาไทย
ให้ปลอดภัย แม้เห็นต่าง ทางการเมือง
เขาก่นด่า ว่าเรา นั้นเลือกข้าง
เราลูกจ้าง ราชการ ทำตามเรื่อง
นายเขาสั่ง ให้มา ดูบ้านเมือง
ไม่ใช่เรื่อง เลือกข้าง ตามที่เป็น
ไม่ว่าใคร มาเป็นรัฐ- บาลชาติ
เราองอาจ พร้อมทำ ตามความเห็น
เขาสั่งมา เราต้องทำ เพราะจำเป็น
ไม่หลีกเร้น มาเพื่อป้อง ชาติบ้านเมือง
หากไม่มี พวกเรา ท่านจะรู้
ใครจะดู ใครจะเหลียว แลให้เห็น
เกิดสงคราม กลางเมือง ทุกลำเค็ญ
แล้วจะเป็น อย่างไร ลองคิดดู
อยากให้บ้าน เมืองกลับ มาสงบ
อย่าสู้รบ ทางความคิด อย่าคิดสู้
บ้านเมืองได้ จำเริญ ดูน่าดู
เป้าหมายสู้ ต่างชาติ ให้เท่าทัน
อยากจะกลับ ไปทำ ตามหน้าที่
บำบัดทุกข์ ดูแลสุข คนบ้านฉัน
ไม่ใช่มา ยืนมอง คนด่ากัน
ตะโกนลั่น ไล่ด่า ท้าต่อยตี
หากพรพระ มีจริง ขอดลให้
ผองคนไทย เข้าใจ ในวิถี
ว่าตำรวจ เขามาด้วยท่าที
พร้อมเป็นมิตร กับทุกสี ด้วยจริงใจ
...จากนักกลอนกินข้าวกล่องนอนยุงกัด....จาก สว.จร.สน.พระโขนง

“ท่องเที่ยวปลอดภัย ตำรวจไทยให้บริการ”.มาตราการเร่งด่วน 9 ประการ กำชับห้ามโชว์ลามกอนาจาร...

1471831_649866758370001_462021814_n          วันนี้ 22 พ.ย. ที่ห้องประชุม สำนักงานตรวจคเข้าเมือง พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา(สบ.10) เป็นประธานในการประชุมซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนการบริหารจัดการความปลอดภัยและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในพื้นที่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ภายใต้หลักการ “ท่องเที่ยวปลอดภัย ตำรวจไทยให้บริการ”
โดย พล.ต.อ.วุฒิ ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้น กับนักท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น 4ประเด็น คือ ปัญหาด้านอาชญากรรมที่เกี่ยวกับชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ปัญหาด้านการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบ ปัญหาอุบัติภัยต่างๆ ปัญหาความไร้ระเบียบ ความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัญหาต่างผลส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศ ดังนั้นจึงได้มีแนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 9 ประการที่ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อาชญากรรมที่แอบแฝงมาในรูปแบบนักท่องเที่ยว การหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบ ของผู้ประกอบการทัวร์ กลุ่มรถโดยสารที่ตั้งตนเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดที่รับผิดชอบต้องเพิ่มมาตรการเชิงรุกป้องกันเหตุ ตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว17 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชลบุรี เชียงราย สุโขทัย แม่ฮ่องสอน นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ระยอง ตราด สมุทรสาคร ราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ รวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย นอกจากนี้ พล.ต.อ.วุฒิ ยังกำชับห้ามมิให้พื้นที่ใด มีการแสดงโชว์ลามากอนาจาร หากปล่อยปละละเลยผู้บังคับการจังหวัดต้องรับผิดชอบ

เชิญชวนเข้ารับการฝึกอบรมผู้ประกอบอาหารไทยรองรับครัวไทยสู่ครัวโลก

         4           นางวิจิตรา บูรณะวานิช ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกระทรวงแรงงาน ได้จัดทำโครงการอบรมผู้ประกอบอาหารไทยรองรับครัวไทยสู่ครัวโลก เพื่อพฒนาทักษะฝีมือให้แก่ผู้ประกอบการด้านอาหารไทยให้มีทักษะฝีมือเพื่อการประกอบอาชีพได้ผลงานที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ โดยมอบศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงครามจัดฝึกอบรมให้แก่ แรงงานในสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ สถานประกอบกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และประชาชนผู้สนใจประกอบอาชีพด้านอาหารในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม

จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการประกอบอาหารไทย 10 เมนูอาหารไทยยอดนิยมในต่างประเทศและการประกอบอาหารว่างและขนม เป็นต้น หลักสูตร 30 ชั่วโมง ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการฝึกอบรม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวสุมาลี สุวรรณเกต หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพแรงงาน โทร. 0-3471-1284 ต่อ 101 หรือ 08-6448-3595 ในวันและเวลาราชการ

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยม

IMG_1461วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.2556 11.00 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยม และมอบนโยบาย ทก.มัฆวาน โดยมี พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ให้การต้อนรับ

งานวันคนพิการสากลที่จังหวัดนครปฐม

          นายสุเทพ โชคบุญธิยานนท์  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม  กล่าวว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ ๓ ธันวาคมของทุกปี เป็น “ วันคนพิการสากล ”  เพื่อส่งเสริมให้เกิดเจตคติเชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการในสังคม  เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกร่วมกันจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคนพิการ  และให้โอกาสคนพิการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคมอย่างสร้างสรรค์  เป็นธรรม และเสมอภาคเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป
     สำหรับปี ๒๕๕๖ องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดหัวข้อหลักในการจัดงานวันคนพิการสากล คือ “ ขจัดอุปสรรค เปิดประตู...ก้าวสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขสำหรับทุกคน ”  ( Break barriers open doors : for inclusive society for all )  และคณะกรรมการจัดงานคนพิการสากล  ประจำปี ๒๕๕๖ มีมติเห็นชอบให้ทุกจังหวัดร่วมจัดงานเฉลิมฉลองวันตนพิการสากลประจำปีนี้  ในหัวข้อ  “ ขจัดอุปสรรค เปิดประตู...ก้าวสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขสำหรับทุกคน ”   คือ  การขจัดอุปสรรคที่จำกัดความสามารถในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมของคนพิการ  การสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันของคนในสังคม  รวมทั้งในแง่ของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ  เทคโนโลยีสารสนเทศและด้านอื่นๆ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ได้ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลในการดำเนินงานเพื่อคนพิการหลายด้าน  คือ  การส่งเสริมสิทธิโอกาสและความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมของคนพิการ เช่น  สิทธิการรักษาพยาบาล  การศึกษา  การช่วยเหลือทางกฎหมาย  การขจัดการเลือกปฏิบัติ  การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสิ่งอำนวยความสะดวก  บริการสาธารณะ  ล่ามภาษามือ ผู้ช่วยคนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ สวัสดิการเบี้ยความพิการ การปรับสภาพที่อยู่อาศัย การลดหย่อนภาษี การสนับสนุนบทบาทสตรีพิการ ส่งเสริมความเข้มแข็งขององค์กรด้านคนพิการ การกู้เงินยืมเงินประกอบอาชีพ ทั้งการกู้ยืมรายบุคคลและการกู้ยืมรายกลุ่ม ตลอดจนส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการในสถานประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.๒๕๕๑ ในระบบสัดส่วนคนพิการ จำนวน ๑ คน ต่อพนักงาน ๑๐๐ คน นอกจากนี้ มีการจัดสัมปทาน จัดสถานที่จำหน่วยสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงานหรือให้การช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ
การจัดงานวันคนพิการสากล ประจำจังหวัดนครปฐมในปีนี้ จัดขึ้นในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องสวัสดี โรงแรมริเวอร์ อำเภอเมืองนครปฐม กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงความสามารถของคนพิการ การแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ของคนพิการ การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เพื่อให้คนพิการได้เข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย การบริการจัดหางานให้คนพิการ และการจับสลากมอบของขวัญของรางวัล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน สถานประกอบการ และผู้ใจบุญด้วย

ทีมงานทนายตั้มทนายประชาชน...ตัวจริง

         980964_556590011078049_1739540190_oมีคนเคยถามผมว่า ทำไมต้องเข้าไปสอนกฎหมายเด็กๆในโรงเรียน ทำเพื่ออะไร ไม่เห็นคนอื่นทำ?
     ผมก็ตอบไปว่า...ทุกอย่างต้องเริ่มนับจากหนึ่งเสมอ "หากเราไม่เริ่ม แล้วใครจะเริ่ม"
ก่อนหน้าที่ผมไปจังหวัดหนองบัวลำภู ผมก็ได้แต่หวังลึกๆว่า อยากเห็นนักกฎหมายซึ่งเป็นคนจังหวัดหนองบัวลำภู มาสานต่อในสิ่งที่พวกผมกำลังจะไปทำในจังหวัด
เพื่อให้คนหนองบัวฯ มีที่พึ่งในเรื่องกฎหมาย ให้น้องๆเยาวชนมีพี่ ซึ่งเป็นห่วงและหวังดีกับน้องๆ คอยเป็นแบบอย่างที่ดีและนำทางให้น้องๆใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้อง
และวันนึง เมื่อผมโพสเฟซบุ้ค ว่าผมจะเดินทางไป ก็มีทนายในจังหวัดติดต่อผ่านผู้ใหญ่มา ว่าต้องการมาร่วมกิจกรรมกับพวกเรา
     1398193_556578651079185_1583911885_oในวันที่ผมเดินทางไปถึง พี่ๆทนายก็มาพบแล้วสอบถาม ถึงความเป็นมาของโครงการต่างๆ ที่พวกเราได้ทำ พี่ทนายบอกสนใจอยากจะทำในจังหวัด
พวกเราก็ยินดีที่จะมีทนายประชาชนในจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเกิดที่จังหวัดหนองบัวลำภู แล้วพร้อมที่จะทำเพื่อจังหวัดหนองบัวลำภู
     ผมเคยบอกว่าทุกวันนี้ ผมไม่ได้เดินเดียวดายอีกต่อไปแล้ว ทุกวันนี้ผมมีน้องๆทีมงานที่ พร้อมจะเดินไปด้วยกัน มีประชาชนที่ให้การสนับสนุนพวกเรา
และวันนี้เรามี "ทนายประชาชน จังหวัดหนองบัวลำภู" ที่จะเดินไปพร้อมๆกับพวกเรา
และวันข้างหน้าพวกเราทีมงานทนายประชาชน มีกำหนดการแล้วที่จะเดินทางไป แพร่ พิจิตร อยุธยา พังงา และภูเก็ต
     ก็ได้แต่หวังว่าเมล็ดพันธุ์ที่ผมปลูก จะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่แข็งแกร่ง มีดอกผลที่งดงาม และเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีต่อไป
ขอให้พวกเรามา"ก้าวเดินด้วยกัน เพื่อวันข้างหน้า" ไปพร้อมๆกันนะครับ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปิดถนนจับเด็กแว็นซิ่งถนนกาญจนาภิเษก

8087

         เขตรับผิดชอบหน่วยบริการตำรวจทางหลวงบางแค (ถนนกาญจนาภิเษก กม 14-30) มักมีวันรุ่นนำรถ จยย. ขับขี่เป็นกลุ่ม บางครั้งมีการปิดถนน ทำการแข่งขันทำให้ผู้ใช้รถใช็ถนนได้รับความเดือดร้อน บางคร้งเติมน้ำมันไม่ยอมจ่ายและกิดขวางการจราจร หน่วยฯได้ประสาน สน.ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ กวดขันจับกุมมาตลอดเพราะกลุ่มวัยรุ่นนำมาแข่งขันหรือขับขี่ในวันหยุด และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เมือวันที่ 18 พฤศจำกายน 2556 ได้รับทราบจากอาสากู้ภัยว่าเวลาประมาณ 02.00 น.จะมีการปิดถนนแข่งขันบริเวณ กม.23+400-24+750 (คลองบางไผ่) ขามุ่งหน้าบางบัวทอง ใกล้กับปั๊มปตท. ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. จึงประสาน สน.คู่ขนานลอยฟ้า สน.หลักสอง และกำลังอาสาหน่วยกู้ชีพกู้ภัยของทางหลวงบางแค ร่วมกันวางแผนจับกุมโดยได้เชิญสื่อมวลชน ข่อง 3 5 7 และหนังสือพิมม์ มาร่วมดำเนินการเมื่อถึงเวลาดังกล่าวได้มีกลุ่มวัยรุ่นนำรถ จยย.เข้ามาในพื้นที่ข้างต้น ซึ่งได้วางแผนปิดกั้นไว้แล้วประมาณ 200-300 คัน จึงประสาน สน.คู่ขนานลอยฟ้า และสน.หลักสอง พร้อมอาสานำกำลังปิดล้อมโดยใช้รถของรถยก อาสา รถหมวดการทาง ใช้รถยกเล็กและรถกระบะ รถวิทยุ  เข้าดำเนินการเมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นเปิดไฟวับวาบ และกำลังเจ้าหน้าที่  ได้ขับรถหลบหนีเฉี่ยวชนรถชาวบ้าน แท็กซี่ รถยกอาสา เสียหายหลายคน บางคันได้รับบาดเจ็บ กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล และสามารถจับกุมวัยรุ่นพร้อมรถ จยย.รถตู้ที่ใช้ในการบรรทุก รถดัดแปลงสภาพมาแข่ง และรถกระบะ


         ผลการจับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมด 39 คน ชาย 32 คน หญิง 7 คน อายุไม่ถึง 18 ปี 11 คน เกิน 18 ปี 21 คน รถ จยย.37 คน รถตู้ 1 คัน รถกระบะ 1 คัน เมือจับกุมเสร็จได้จัดทำบันทึกร่วมกันและนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง สน.หลักสอง เพื่อดำเนินการต่อไป *** 18 พ.ย.56 เวลา 05.00 น.

เชิญชวนสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ

         01          นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จะดำเนินการจัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ประจำปี 2557 จังหวัดสมุทรสงครามขอเชิญชวนสถานศึกษาสมัครเข้าร่วมโรงการสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ระดับจังหวัด เพื่อคัดเลือกโรงเรียนและนักเรียนที่ชนะเลิศเข้าประกวดระดับภาค และระดับประเทศ เพื่อรับโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557 โดยส่งใบสมัครพร้อมภาพถ่ายการสวดมนต์ทั้งสถานศึกษา จำนวน 2 ภาพ ให้จังหวัดภายในวันที่ 6 ธันวาคม 2556 สำหรับวันเวลาและสถานที่การจัดประกวด ระดับจังหวัด จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง และหากต้องการซีดีการสวดมนต์หมู่ฯ ติดต่อขอรับได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม ชั้น 5 ในวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-3471-8138 โทรสาร 0-3471-8348

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556