pearleus

วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สืบสวนสมุทรสาครจับเครือข่าย ยาบ้า ยาไอซ์พื้นที่ท่าทราย 2 ราย


เมื่อวันที่  29  มิ.ย. 60  เวลาประมาณ  16.00  น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด(ปส.) กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ภายใต้การอำควบคุมของ พล.ต.ต.สุรพงษ์  ชัยจันทร์   ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.ธงชัย  เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.สุกฤษฎิ์  วิศิษฐ์ชนะชัย รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.ศุภชัย  ศรสุคนธ์แก้ว รอง ผกก.สส.ฯ
🔹ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ไชยภูมิ  ฉลองภูมิ  สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร  พ.ต.ต.ผจญ  หว่างอิ้ง สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ต.ปิยะชัย มั่นคง สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ต.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ,ร.ต.อ.ธานินทร์  นุชเจริญ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ,ร.ต.ท.ณรงค์ หอมเย็น, ร.ต.ต.วินัย   พวงทองคำ,  ร.ต.ต.อรัณย์  ทาเกตุ, ร.ต.ต.โดม  สระทองใจ ,ด.ต.วิสูติ  สุขตะโก ,ด.ต.สันติ  เรืองฤทธิ์,ด.ต.ณัฐนนท์  เติมยศ, ด.ต.ธนเดช  โพธิ์งาม, ด.ต.นที บุญทาน ,ด.ต.เกรียงไกร  โตตามวงศ์,ส.ต.ต.วรพจน์  ราชการดี
 🔹ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาพรบ.ยาเสพติด จำนวน 1  ราย ดังนี้ คือ
     นายสุทธิหรือเล็ก  นาวิกานนท์  อายุ 36  ปี อยู่บ้านเลขที่ 156/455  หมู่ 5 ต.ท่าทราย    อ.เมือง     จ.สมุทรสาคร  
 🔹 ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
 🔹 ของกลาง  1.ยาบ้า จำนวน 73  เม็ด  2.ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวขุ่น อยู่ในถุงพลาสติกใสแบบใช้บรรจุยามีผนึกเปิดปิดด้านบน จำนวน 3  ถุง
ชั่งน้ำหนักสุทธิประมาณ 2.44 กรัม                                                                                                               🔹 สถานที่จับกุม ที่บริเวณภายในห้องเช่าป้าบานเย็น ห้อง 8 D  หมู่ 4 ต.ท่าทราย  อ.เมือง  จ.สมุทรสาคร (ใช้บัตรเจ้าพนักงานป.ป.ส.)
🔹 นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุมุทรสาคร  ดำเนินคดี
    อีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 60 เวลาประมาณ 11.00 น. พ.ต.อ. สุระพรรณ  นาทวรทัต ผกก.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม   สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.อภิวิทย์ แจ่มแจ้ง สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.สุเชาว์  เหมือนมิ่ง ,   ร.ต.ท.บัญชา  จันทร์พุธ ,                         ร.ต.ท.วสันต์  อินทจักร , ร.ต.ต.ไกรสิงห์  พงศ์พิริยกร , ด.ต. ชนุตร์  ลบเลิศ และ จ.ส.ต. ณัฐพงษ์  ทรงประวัติ
ร่วมกันจับกุมตัว
นายเสกสรรหรือกอล์ฟ  แสงคำ อายุ 33 ปี
ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 64/54 หมู่ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
พร้อมของกลาง 1.ยาบ้า ลักษณะกลมแบน สีส้ม มีอักษร WY กำกับอยู่ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า ชนิดมีฝาเปิด-ปิด ได้ ถุงละ 200 เม็ด จำนวน 8 ถุง  (1,600 เม็ด)
 2.ยาบ้า ลักษณะกลมแบน สีส้ม มีอักษร WY กำกับอยู่ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ ชนิดมีฝาเปิด-ปิด ได้ ถุงละ 200 เม็ด จำนวน 2 ถุง  (400 เม็ด)  รวมยาบ้าทั้งหมด 2,000 เม็ด
 3.ยาไอซ์ ชนิดเกร็ด สีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ชนิดมีฝา เปิด-ปิด ได้ น้ำหนักชั่งพร้อมถุงหนัก 46.40 กรัม จำนวน 1 ถุง
 4.อาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด .38 Supper ยี่ห้อ Llama หมายเลขประจำปืน 282336 ไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก
 5.ซองบรรจุกระสุน ขนาด .38 Supper จำนวน 1 อัน
 6.ลูกกระสุนปืน ขนาด .38 Supper จำนวน 17 นัด
 7.ซองพกอ่อน จำนวน 1 ซอง
 8.ลำกล้องเก็บเสียง สำหรับปืน ขนาด .38 Supper จำนวน 1 อัน
 9.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง
 10.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อOppo จำนวน 1 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์ ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
       2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมนี้ เจ้าพนักงานตำรวจได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบก่อนจับกุมแล้วว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิจะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ ถ้อยคำที่ให้การนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ มีสิทธิพบและปรึกษาทนายความ หรือผู้ที่จะมาเป็นทนายความ และได้แจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมตามสมควรแก่กรณีแล้ว
พฤติการณ์การจับกุมกล่าวคือ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ค276/2560 ลง 29 มิ.ย.60 เพื่อทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 64/54 หมู่ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง                         จว.สมุทรสาคร เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ดังกล่าว พบว่าประตูปิดและมีการล็อคจากด้านใน เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้เรียกบุคคลภายในบ้านให้เปิดประตู ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดมาเปิดแต่เห็นมีคนเคลื่อนไหวอยู่ภายในบ้านและไม่ยอมมาเปิดประตูเจ้าพนักงานตำรวจจึงงัดประตูเข้าไปและเมื่อเข้าไปภายในบ้านดังกล่าวถึงห้องนอน พบนายเสรสรร หรือกอล์ฟ แสงคำ เจ้าพนักงานตำรวจจึงแสดงหมายค้นให้นายเสกสรรฯตรวจดู และขอทำการตรวจค้นภายในห้อง นายเสกสรรฯ รับทราบข้อความในหมายค้นดีโดยตลอดดีแล้ว นายเสกสรรฯยินยอมให้เจ้าพนักงานตรวจค้น และเป็นผู้นำเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นภายในห้องนอน ผลจาการตรวจค้นภายในห้องนอน พบ (ของกลางลำดับที่ 1 – 3) อยู่ในถุงพลาสติกและซุกซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มภายในห้องนอน และเมื่อตรวจค้นชั้นลอยภายในบ้านดังกล่าว พบ อาวุธปืน (ของกลางลำดับที่ 4 - 8 ) ซุกซ่อนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน สอบถามนายเสกสรรฯ รับว่า ยาบ้าและยาไอซ์ ที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นได้นั้น เป็นของตนจริง มีไว้เพื่อจำหน่ายโดยยาดังกล่าวซื้อมาจากนายแจ็ค ไม่ทราบนามสกุล โดยติดต่อซื้อขายกันทางโทรศัพท์(ของกลางลำดับที่ 9) ด้วยวิธีโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (ของกลางลำดับที่ 10) เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย และเมื่อตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว นายแจ๊คฯ จะนำยาเสพติดมาวางไว้และให้นายเสกสรรฯ ไปเก็บเอา ส่วนอาวุธปืนที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นได้นั้นได้ซื้อมาจากเพื่อนไม่ทราบชื่อ ในราคา 27,000 บาท  เจ้าพนักงานตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองให้ทราบ นายเสกสรรฯ รับทราบข้อกล่าวหาทั้งสองโดยตลอดดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวมาที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร บันทึกการจับกุม นำตัวนายเสกสรรฯ พร้อมของกลางส่งพนักสอบสวนเพื่อดำเนินคดี.

เงาพญาราหู รายงาน

ผกก.สืบสมุทรสาคร ลงพื้นที่สานสัมพันธ์191แจกผ้ากันเปิ้อน

ผกก.สืบสมุทรสาคร  ลงพื้นที่สานสัมพันธ์191แจกผ้ากันเปิ้อน..พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุท รสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ลงพื้นที่ พบประผู้นำชุมชน ต.หลักสอง หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และร่วมเดินรณรงค์กับคณะครู นักเรียน โรงเรียนวัดบางปิ้ง หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ต่อต้านยาเสพติดในหมู่บ้านรุ่งนภา 3 พบปะประชาชนร้านค้า แจกผ้ากันเปื้อนพร้อมประชาสัมพันธ์แนะนำให้ความรู้ในการแจ้งเหตุด่วน! เหตุร้าย ผ่านศูนย์วิทยุ 191 สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นหลักประกันความยุติธรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล เป็นพันธกิจในการปฎิบัติหน้าที่.

เงาพญาราหู รายงาน










จังหวัดสมุทรสาคร โดยสำนักงานลูกเสือเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรสาคร จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ (1 กรกฎาคม) ประจำปี 2560


        เมื่อ 30 มิถุนายน 2560 เวลา 09.00 น.นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ (1 กรกฎาคม) ประจำปี 2560 จังหวัดสมุทรสาคร และพิธีสวนสนามของผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ลูกเสือ และเนตรนารี ณ ค่ายลูกเสือทีปังกรรัศมีโชติฯ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดิทรเทพยวรางกูร พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาลูกเสือ และพี่น้องลูกเสือ เนตรนารี ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 28 โรงเรียน ร่วมในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาและพิธีสวนสนามดังกล่าว
        ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ถวายพวงมาลัยข้อพระกรเป็นราชสักการะ หน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อลูกเสือไทย พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ลูกเสือ เนตรนารี พร้อมทั้งรับคำกล่าวทบทวนคำปฏิญาณตนของลูกเสือสำรอง และรับการเดินสวนสนามจากกองลูกเสือ เนตรนารีด้วย
                                                           

ต่างชาติชื่นชมตำรวจไทย

 
เมื่อเวลา10.00น.วันที่29มิ.ย.60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา(ผบ.ตร) ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ ด.ต.อนิรุธ มะลี ผบ.หมู่ สส.สน.ห้วยขวาง จากกรณีที่ ด.ต.อนิรุธ มะลี ได้เข้าเกลี้ยกล่อมเจรจากับชายที่คลั่งมีอาชีพเป็น ร.ป.ภ.ที่ถือมีดจี้ตัวเองหวังจะฆ่าตัวตายเนื่องจากที่ตนเองถูกโกงค่าจ้างมิหนำซ้ำกีต้าร์ที่ตนเองไว้ใช้แต่งเพลงก็ถูกขโมย เหตุเกิดเมื่อวันที่17มิ.ย.60 ชายดังกล่าวได้ถือมีดมาที่ สน.ห้วยขวางหวังจะฆ่าตัวตายต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เผอิญ ดต.อนิรุธ มะลี ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้กลับเข้ามาพอดีจึงได้ช่วยเข้าเจรจากับชายดังกล่าวและใช้เวลาอยู่นานชายดังกล่าวจึงได้ลดความตึงเครียดและยอมส่งมีดให้ ดต.อนิรุธ มะลี หลังจากนั้นสถานการณ์ก็คลี่คลายไปด้วยดีและนับว่านี่คือผู้พิทักษ์สันติราฎรที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งครับ


จอย รินลณี ศรีเพ็ญ พรีเซ็นเตอร์ MTI เปิดตัว MTI JOYSTICK ลิปสติกสีใหม่ทันสมัย เนื้อแมทท์


บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) เข้าร่วมการจัดงาน  Saha Group Fair ครั้งที่ 21โดยมี คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล,ประธานกรรมการ บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมที่บูธ MTI  กับ จอย รินลณี ศรีเพ็ญ พรีเซ็นเตอร์ MTI ในการเปิดตัว MTI JOYSTICK ลิปสติกสีใหม่ทันสมัย เนื้อแมทท์ รวมถึงกิจกรรมร่วมสนุกแจกของรางวัลให้กับผู้เข้าร่วมงาน และการสาธิตแต่งหน้าโดยวิทยากรจาก MTI ในคอนเซ็ปต์ “การแต่งหน้าสาย ฝ.” ซึ่งภายในงานยังมีศิลปินนักแสดงเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ณ บูธ MTI ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


*********************

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สค. จับมือ 360 องศา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จัดโครงการ "สร้างฝัน ปั้นสวย ด้วยคุณธรรม" เพื่อส่งเสริมสตรีไทย

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.60 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ให้การสนับสนุนภาคเอกชนจัดทำโครงการ "สร้างฝัน ปั้นสวย ด้วยคุณธรรม" ในการจัดอบรม หลักสูตร The Power Of Life พลังความมั่นใจภายในสู่ภายนอก ให้แก่กลุ่มสตรีที่เข้ารับการฝึกอาชีพในศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี โดยมี นางสาวนฤมล พงษ์สุภาพ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมด้วยคณะข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้การดูแลต้อนรับ และอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้ารับการอบรม


นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนการพัฒนาสตรีไทยและครอบครัว ซึ่งมีการจัดทำเป็นแผนพัฒนา 20 ปี โดยมีการขับเคลื่อนงานผ่านกลไกเครือข่ายที่หลากหลาย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีหน่วยงานในสังกัด คือ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิภาค 8 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ศรีสะเกษ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ชลบุรี สงขลา และนนทบุรี มีภารกิจในการฝึกอบรมอาชีพให้แก่เด็กและสตรีซึ่งเสี่ยงต่อการถูกแสวงหาผลประโยชน์ไปในทางที่ไม่เหมาะสม และเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ อันเนื่องมาจากความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษา หรือประสบปัญหาสังคมต่าง ๆ

อธิบดีสค.กล่าวต่ออีกว่า ในวันนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมมือกันขับเคลื่อนการพัฒนาสตรี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ด้านความเท่าเทียมทางเพศ และเสริมสร้างพลังให้กับสตรี จัดทำโครงการ “สร้างฝัน ปั้นสวย ด้วยคุณธรรม” โดยตระหนักและเห็นความสำคัญของผู้หญิง ที่ต้องเผชิญความเสี่ยง ปัญหาสังคมรอบด้าน รวมถึงสตรีผู้ด้อยโอกาส จัดโครงการดังกล่าวให้กับกลุ่มเป้าหมายของ สค. จากความร่วมมือของ
หน่วยงานภาคเอกชน 3 หน่วยงาน ได้แก่ บริษัท 360 องศา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด มูลนิธิเก้ายั่งยืน และบริษัท ตราแม่ครัว จำกัด ในการส่งเสริมให้สตรีไทยที่มีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะผู้หญิงทำงาน ภรรยา และแม่ของลูก มีศักยภาพ และมีพื้นฐานชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนสร้างและขยายเครือข่ายของพลังสตรีให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี สืบต่อไป

สำหรับการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการ ได้รับเกียรติจาก ดร.วีรินทร์ธิรา นาทองบ่อจรัส ในฐานะประธานโครงการเป็นผู้ดำเนินการหลัก และ คุณสุจินตนา จรรยาทิพย์สกุล ประธานมูลนิธิเก้ายั่งยืน เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งการจัดกิจกรรม เริ่มต้นด้วยพระธรรมเทศนา พร้อมปฏิบัติเจริญจิตภาวนาเพื่อชำระจิตให้ผ่องใส เตรียมพร้อมรับพลังแห่งการสร้างสรรค์ โดยพระปลัดจิรวัฒน์ จิรปุตฺติโย เลขานุการวัดอรุณสหราชอาณาจักร ประเทศอังกฤษ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ต่อด้วยกิจกรรม Work Shop สร้างฝัน ปั้นสวย ด้วยคุณธรรม ซึ่งเป็นการสอนพัฒนาบุคลิกภาพ มารยาททางสังคม และการแต่งหน้าทำผม และสุดท้าย คุณกมลชนก เขมะโยธิน อดีตนางเอกชื่อดังมาเป็นวิทยากรร่วมเสวนา หัวข้อ Key Success for Women สร้างโมเดลสู่ความสำเร็จ

******************


พม. ประกาศเกียรติคุณ “คนวิริยะ” พร้อมเผยแพร่ในหนังสือ “บนเส้นทางแห่งโอกาสสู่...ความสำเร็จ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 60 เวลา 15.00 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์(พม.)  เป็นประธานมอบประกาศเกียรติคุณ “คนวิริยะ” ให้แก่บุคคลและกลุ่มอาชีพผู้ซึ่งผ่านการอบรมจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว จำนวน 16 รางวัล กล่าวรายงานโดย นางถิรวดี พุ่มนิคม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ณ ห้องมิ่งเมือง ชั้น  4  โรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร



นายเลิศปัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่บุคคลและกลุ่มอาชีพผู้ซึ่งผ่านการอบรมจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี จนได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็น “คนวิริยะ”ในวันนี้ สามารถนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมได้อย่างน่ายกย่องสรรเสริญ ซึ่งเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง ที่ สค. ได้พยายามขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสตรีและครอบครัวมาโดยตลอด และตระหนักถึงความสำคัญของความเสมอภาคระหว่างเพศ ส่งเสริมให้ครอบครัวมีความเข้มแข็ง รวมถึงโอกาสและการเข้าถึงทรัพยากร ความก้าวหน้าในอาชีพ เพื่อพัฒนาศักยภาพและความเชื่อมั่นของบุคคล ให้สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลครอบครัวได้ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ


อธิบดีกรมฯสค.กล่าวต่อว่า การประกาศเกียรติคุณเป็น “คนวิริยะ” มีจุดเริ่มมาจากการถอดบทเรียนปัจจัยสู่ความสำเร็จของผู้ผ่านการอบรมจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ทั้ง 8 แห่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด สค. ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิภาค 8 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ศรีสะเกษ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ชลบุรี สงขลา และนนทบุรี โดยศูนย์ฯ ทั้ง 8 แห่ง เหล่านี้มีภารกิจในการฝึกอบรมอาชีพให้แก่เด็กและสตรีซึ่งเสี่ยงต่อการถูกแสวงหาผลประโยชน์ไปในทางที่ไม่เหมาะสม และเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของการถูกหลอกไปค้าประเวณี และค้ามนุษย์ อันเนื่องมาจากความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษา หรือประสบปัญหาสังคมต่าง ๆ ซึ่งการถอดบทเรียนปัจจัยสู่ความสำเร็จของผู้ผ่านการอบรมจากศูนย์ฯ นำมาซึ่งการประกาศเกียรติคุณเป็น “คนวิริยะ” ในวันนี้


นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมประวัติ ความเป็นมา และผลงานของผู้ได้รับประกาศเกียรติคุณทั้ง 16 รางวัล ตีพิมพ์เป็นเป็นหนังสือ “บนเส้นทางแห่งโอกาสสู่...ความสำเร็จ” ซึ่งได้รวบรวมเส้นทางสู่ความสำเร็จของบุคคลและกลุ่มอาชีพ จำนวน 16  บทความ เพื่อเป็นตัวอย่างในการสร้างแรงบันดาลใจ และให้แง่คิดในมุมมองที่หลากหลายซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้อ่านและครอบครัวได้ รวมทั้งแนวคิดการมีจิตอาสา ในการสร้างประโยชน์ให้กับสังคม

สำหรับข้อมูลของบุคคลและกลุ่มอาชีพที่อยู่ในหนังสือ “บนเส้นทางแห่งโอกาสสู่...ความสำเร็จ” ยกขึ้นมา เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า “โอกาส” ที่รัฐสร้างให้นั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาชีวิตของคนเหล่านี้ “โอกาส” ที่รัฐสร้างให้เป็นไปอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และผู้หลากหลายทางเพศ

ทั้งนี้บุคคลเหล่านี้ยังก้าวเดินต่อไปด้วยความมุ่งมั่น มานะ บากบั่น ขยัน หมั่นเพียร เรียนรู้ และฝึกฝน เพื่อให้ตนเองและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อดีขึ้นแล้วได้ตอบแทนกลับคืนสู่สังคม นับได้ว่าเป็นคุณงามความดี ที่น่ายกย่องสรรเสริญเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไทยต่อไป ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจหนังสือเล่มนี้ สามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ www.dwf.go.th.



************************

ปลัดฯนำผู้บริหารพม.เยี่ยมให้กำลังใจจนท.กรมสค.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 60 เวลา 17.00 น. นายไมตรี  อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวง พม. และ นายธำรง ธวัชวะชุม รองอธิบดีกรม ผส. ตลอดจนผู้บริหารและข้าราชการกระทรวง พม. ให้เกียรติเยี่ยมเยียนหน่วยงานกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและให้ข้อแนะนำในการปฏิบัติงานกับบุคลากร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและแนวทางการทำงานหลักที่ท่านปลัดกระทรวง พม. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สานสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ และเพิ่มศักยภาพองค์กร


โดยมี นางกุสุมา พนอนุอุดมสุข ผู้อำนวยการกลุ่มทรัพยากรบุคคล และนางฐนันต์ภัค เฟื่อขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ สำนักงานเลขานุการกรม ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สค. ให้การดูแล และต้อนรับด้วยความอบอุ่น ทั้งนี้ ท่านปลัด พม. และรองปลัด พม. ได้เยี่ยมชมมุมแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ ทอฝัน by พม. ในส่วนที่หน่วยงานในสังกัด สค. เป็นผู้ผลิต พร้อมชื่นชมเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานอีกด้วย


***********************

ข้าวแกงอาหารป่าปริญญาโท “วิจิตรา (น้องเบญ) อุบลไทร”

กลับมาพบกันอีกแล้วครับในคอลัมน์คนกล้า คนเก่ง ฉบับนี้หนังสือพิมพ์ชี้ชัดเจาะลึกจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับเรื่องราวของน้องเบญ ผู้ความมุ่งมั่นในเรื่องการศึกษาเล่าเรียนเพื่อจะสานฝันตัวเองให้ไปถึงฝันที่ตนเองได้ตั้งปณิธานไว้ว่าต้องเป็นคุณครูและนี้เป็นก้าวแรกที่น้องเบญ ผ่านมาและผ่านมาได้อย่างสวยงามด้วยการคว้าปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยรามคำแหงต่อไปสิ่งที่น้องต้องคว้ามาอีกเพิ่มเติมความฝันของตัวเองก็คือใบประกอบวิชาชีพครูก็คงไม่นานเกินรอสำหรับความขยันความพากเพียรเพื่อสานฝันของตัวเอง

   สำหรับเรื่องราวของน้องคนเก่งประจำเล่มนี้ จะเป็นใครไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ น้องเบญ นางสาววิจิตรา อุบลไทร วัย 27 ปี ลูกสาวคนเดียวของนายทวี และนางลาวัลย์ อุบลไทร เจ้าของร้านอาหารในตำนาน อาหารป่าคลองครุ และ หลานสาวของกำนันเรืองฤทธิ์ อุบลไทร ที่เพิ่งเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมหาบัณฑิต จากองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา สร้างความภาคภูมิใจให้กับพ่อแม่และครอบครัวไม่น้อยทีเดียว น้องเบญ เป็นลูกสาวคนเล็กสุด ของครอบครัว เธอมีพี่ชายอีก 2 คน คือ นายสราวุฒิ อุบลไทร และนายอนุวัต อุบลไทร ด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียว จึงเป็นที่รักของพ่อแม่และทุกคน ตอนเด็กๆ น้องเบญ เริ่มเรียนที่โรงเรียนสมฤดี สมุทรสาคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นจึงเข้าเรียนที่โรงเรียนสตรีวิทยา จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เมื่อเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา เธอก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ โดยเลือกเรียนในคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี ตลอดระยะเวลา 4 ปี น้องเบญ ตั้งใจเรียน ไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วง ด้วยความที่เธอไม่ใช่เด็กเกเร พ่อแม่จึงไว้ใจที่จะให้  น้องเบญ เลือกและทำในสิ่งที่เธอชอบ เพียงแต่คอยเป็นกำลังใจและดูแลอยู่ห่าง น้องเบญ จบชั้นปริญญาตรีด้วยเกรดเฉลี่ย 3.5 ซึ่งถือว่าดีทีเดียว หลังจากที่ได้ปริญญาตรีมาครองแล้ว 1 ใบ หลังจากนั้นอีก 3 ปี เธอก็ศึกษาต่อในชั้นปริญญาโท โดยเลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เปิดสอนที่ศูนย์โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ในคณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต โดยจะเรียนในวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ระยะเวลา 2 ปี น้องเบญก็ต้องเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย ซึ่งเป็นการช่วยงานในร้านอาหารของที่บ้าน และช่วยขายข้าวแกงของร้านอาหารป่าคลองครุทุกวัน แม้จะเป็นลูกสาวเจ้าของร้าน แต่น้องเบญก็ทำได้ทุกอย่าง หากในร้านต้องการให้ช่วยงานตรงไหน น้องเบญก็สามารถช่วยได้ แต่งานที่ถนัดก็คือ ช่วยขายข้าวแกง ช่วยตักกับข้าวให้ลูกค้าตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านปิดทุกวัน นั่นเป็นงานประจำอย่างหนึ่งที่เธอช่วยมาตั้งแต่เด็ก ส่วนงานอีกอย่างหนึ่งที่ถือว่าเป็นความฝันอันแท้จริงของสาวคนนี้ก็คือ การเป็นครูสอนเด็กๆ ซึ่งตอนนี้เธอก็รับสอนเด็กประถมแถวๆบ้านอยู่ประมาณ 10 คน ซึ่งจะสอนตั้งแต่ 16.30-19.00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ถือเป็นการฝึกสอน ฝึกเรียนรู้อุปนิสัยของเด็กไปในตัว เพราะน้องเบญบอกว่า อาชีพที่เธออยากที่จะทำจริงๆก็คือ อยากเป็นครูสอนเด็ก หากมีจังหวะ หากมีโอกาสดีๆ จะหาเวลาเพื่อไปสอบให้ได้ใบประกอบวิชาชีพครู เพื่อที่จะเป็นครูสอนเด็กแบบเต็มตัว 


       เมื่อถามถึงความสำเร็จที่มีได้ทุกวันนี้ น้องเบญ บอกว่า ไม่ใช่ใครเลย เป็นเพราะเธอมีพ่อแม่ ที่คอยมอบความรักและสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอ สอนให้เป็นคนดี ตั้งใจทำในสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ ให้รู้จักขยันหมั่นเพียร ไม่ขี้เกียจ ไม่ย่อท้อ เพราะกว่าที่พ่อแม่จะมีสิ่งดีๆให้กับลูกแบบทุกวันนี้ พ่อกับแม่ก็ต้องฝ่าฝันกับความลำบาก กับความเหนื่อยมาอย่างมากมาย ซึ่งเธอก็จะเอาสิ่งที่พ่อแม่ทำมาเป็นแบบอย่าง มาเป็นแนวทางที่จะพาตัวไปเองไปสู่ความสำเร็จ นอกจากพ่อแม่แล้ว ทุกคนในครอบครัวก็รักเธอมากเช่นกัน ทุกคนคอยสอน คอยเตือน และหวังให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิต ด้วยความรักของทุกคนในครอบครัว เธอจึงพยายามสร้างความสำเร็จให้กับตนเอง เพราะนั่นจะเป็นสิ่งตอบแทนความรักที่ทุกคนมีให้เธอได้
 ปริญญาบัตรทั้งสองใบนี้ เป็นเพียงความสำเร็จขั้นพื้นฐานในชีวิตเท่านั้น วันข้างหน้า น้องเบญ ตั้งใจที่จะทำอะไรอีกมากมาย เช่นอยากเป็นครูสอนเด็กตามความชอบและความฝันของตนเอง อยากสานต่อกิจการของพ่อแม่ และอีกหนึ่งเรื่องก็คือ หากมีโอกาสสักครั้งก็อยากท่องเที่ยงรอบโลกดูบ้าง เผื่อว่าจะได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิต

  น้องเบญ เด็กดี เด็กเก่งคนนี้ คือความภูมิใจของครอบครัวอุบลไทร เมื่อถามถึงลูกสาวคนนี้กับผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ทั้งสองก็ยิ้มและบอกว่า รู้สึกภูมิใจที่ลูกสาวคนนี้มีวันนี้ได้ แค่เพียงลูกเรียนจบ ได้เห็นลูกถือปริญญาบัตรไว้ในมือก็ทำให้ตนเองรู้สึกดีใจและยินดีกับลูกไม่น้อย ส่วนวันข้างหน้านั้นก็หวังว่าให้เขาประสบความสำเร็จในแบบที่เขาตั้งใจ ถ้าเขาอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ ส่วนใครที่อยากรู้จักกับน้องเบญ  ลูกสาวแห่งร้านอาหารป่าคลองครุ ตำนานร้านอาหารป่า 35 ปีของสมุทรสาคร ก็แวะมาได้ที่ซอยอาหารป่าคลองครุ น้องเบญจะขายข้าวแกงอยู่ตรงป้อมตำรวจหน้าร้านอาหารป่าคลองครุทุกวันตั้งแต่ บ่ายสามไปจนถึงสองทุ่มครึ่ง ซึ่งน้องเบญก็ฝากเชิญชวน นักชิมอาหารป่าให้มาลองลิ้มชิมรสชาติอาหารป่า  ในรูปแบบข้าวแกงถุงกันได้ ที่ร้านนี้มีเมนูเกือบ 50 เมนู ไม่ว่าจะเป็น กบ นก ปลาไหล ปลาช่อนทะเล ปลากระเบน ปลาฉลาม หมูป่า เนื้อวัว มีครบรสให้เลือก ในราคา ถุงละ 30 บาทเท่านั้น อย่าลืมมาชิมกันนะคะ ข้าวแกงอาหารป่าปริญญาโท อาหารป่าคลองครุ น้องเบญ วิจิตรา อุบลไทร




"บิ๊กบัว"เปิดโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพงานสอบสวน ตร.ภ. 7



     เมื่อ 29 มิ.ย.60 ที่ห้องประชุม บช.ภ.7 พล.ต.ท.สุทธิพงษ์  วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพงานสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 7  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว. นครปฐม, สุพรรณบุรี,กาญจนบุรี,ราชบุรี,เพชรบุรี,ประจวบคีรีขันธ์,สมุทรสาคร,สมุทรสงคราม จำนวน 320 เข้ารับการอบรม ที่ห้องประชุมตำรวจ ภูธรภาค 7 อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
    พล.ต.ท.สุทธิพงษ์  กล่าวว่า ปัจจุบันบริบททางการเมือง เศรษฐกิจสังคม เทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่เข้าไปรับรู้ความเดือดร้อน ของประชาชนจึงได้จัดทำโครงการอบรมเพิ่มจุดภาพ งานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ขึ้นเพื่อ ให้พนักงานสอบสวน มีองค์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย  คำสั่ง ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง และ มีความมีจรรยาบรรณ ของ พนักงานสอบสวน ประมวลจริยธรรม และ จรรยาบรรณ ของตำรวจ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ  ประชาชนได้รับความพึงพอใจจากการบริการ ของพนักงานสอบสวน เป็นการยกระดับการบริการประชาชน ของสถานีตำรวจตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกดังกล่าว

     พล.ต.ท.สุทธิพงษ์  กล่าวถึงกรณีเหตุฆ่าพนักงานเด็กเสริฟร้านอาหาร ว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานวัตถุเอกสาร และพยานเหตุการณ์ในวันนั้น ขณะนี้ผลการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหานั้นมีความคืบหน้าไปถึง 90% แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพียงบอกได้ ว่าประมาณวันสองวันนี้คงจะได้รับทราบข่าวดี ถามว่าเรารู้ตัวผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ผมขอตอบได้เลยว่าตอนนี้เรารู้ตัวของผู้ต้องหาแล้ว ขอสงวนไว้ในการสืบสวนก่อน นอกจากนี้ได่สีางการให้ทางสืบสวนภาค ลงงไปประสานช่วยกับสืบจังหวัด และ สภ.  หาหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมมาประกอบ ให้แน่ชัดเช่นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์  และพยานบุคคล ขณะนี้ทราบว่าคนร้ายมีจำนวน 1คนเท่านั้น ส่วนคนร้ายจะมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่ต้องรอผลจากการสืบสวนสอบสวนเสียก่อน เพราะยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุเบื้องต้นมาจากเรื่องส่วนตัว ส่วนกรณีที่พบศพหญิงสาวเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น เบื้องต้น ยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นการฆาตกรรมอย่างแน่ชัด เพราะว่าการที่จะบ่งชี้ต้องรอเรื่องส่วนประกอบของผลนิติเวช และผลการชันสูตรพลิกศพต่างๆ นอกจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าที่ตำรวจ ดำเนินการที่สืบสวนว่าผู้ตายเป็นใคร ทำไมถึงมาเสียชีวิตที่นี่  ซึ่งการทำงานทุกอย่างต้องขอเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
     ทางทีมงานหนังสือพิมพ์ชี้ชัดเจาะลึก ขอขอบคุณ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรีผบก.ศฝร.ภ.7 ที่ได้ประสานทางกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชี้ชัดเจาะลึกให้ได้ทราบข้อมูลข่าวสาร

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุป้องกันและบรรเทาภัยจากการลอบวางระเบิดและก่อการร้าย

วันที่28มิ.ย.60 เวลา10.00น. ได้มีการประชุมวางแผนงานของการซักซ้อมป้องกัน และได้มีการจำลองเหตุการณ์ในกรณีที่เกิดเหตุการวางระเบิดของทางสถานีรถไฟฟ้าBTSสถานีบางหว้า เขตภาษีเจริญ โดยมีนายสมชีพ ไชยเขตต์(ผอ.เขตภาษีเจริญ) พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา(รอง ผบก.น.9) พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ ปานจันทร์(ผกก.สน.ภาษีเจริญ) ผอ.พรทิพย์ ศิริแดง(ผอ.กศน.เขตภาษีเจริญ) ร.ต.อ.ชัยพิพัฒน์ ผิวงาม(กลุ่มงานเก็บกู้ฯ) เจ้าหน้าที่สรรพสามิต,เจ้าหน้าที่ทหารกำลังพล.ร้อย รสป.9พัน9,สถานีดับเพลิง,กู้ภัยบางแค,อปพร เขตภาษีเจริญ และ จนท.รปภ.BTS บางหว้า ได้เข้าร่วมประชุมการซักซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมกับการจำลองเหตุการณ์ หลังจากที่ได้ประชุมเสร็จสิ้นก็ได้ลงมือปฏิบัติการและจำลองเหตุการณ์ขึ้นและเจ้าหน้าที่ก็ได้ปฏิบัติตามแผนงานการประชุมทีละขั้นตอนจนเสร็จสิ้น และทางด้านนายสุชีพ ไชยเขตต์(ผอ.เขตภาษีเจริญ)ได้กล่าวด้วยความห่วงใยประชาชนที่ต้องเดินทางว่า การซักซ้อมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันภัยจากทางเจ้าหน้าที่ในภาครัฐและเอกชนที่ร่วมมือกันในทุกๆหน่วยงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน