pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นครปฐม พุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมากร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี

พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครปฐมเป็นจำนวนมาก ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2559
วันที่ 31 ธันวาคม 2558 เวลา 22.00 น. ที่บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ ชั้นบนองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า 2558 ต้อนรับปีใหม่ 2559 อีกทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลและความสงบสุขแก่ชีวิต ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ โดยในพิธีจะมีการสวดชุมนุมเทวดา โดยพระสงฆ์และสามเณรเจริญพระพุทธมนต์อำนวยความสุขสวัสดี ประชาชนและผู้เข้าร่วมในพิธีทั้งหมดนั่งเจริญสมาธิจิตภาวนาเป็นเวลา 1 นาที ตั้งใจอธิษฐานถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมทั้งแผ่เมตตาอำนวยความสุขสวัสดีแก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ต่อจากนั้นพระพรหมเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ กล่าวอำนวยอวยพรปีใหม่ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมพิธี ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครปฐมร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก























นครปฐม ผู้ว่าฯออกตรวจและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการประชาชนช่วงปีใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ออกตรวจและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ขณะที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 จังหวัดนครปฐม ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยบริการด้านการจราจรตามจุดคับขัน จนรถสามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง
วันที่ 31 ธันวาคม 2558 นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ออกตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ในพื้นที่อำเภอสามพราน และอำเภอพุทธมณฑล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการเดินทางให้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งคัด โดยเฉพาะคนขับขี่รถขณะมึนเมา ให้ทำตามกฎหมายอย่างจริงจัง และไม่ละเว้น หลังจากสองวันที่ผ่านมา จังหวัดนครปฐมเกิดอุบัติเหตุ 26 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 31 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน สาเหตุเกิดจากขับรถเร็วเกินกำหนดและไม่สวมหมวกนิรภัย

สำหรับบรรยากาศการจราจรที่จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่าการจราจรบนถนนสายบรมราชนนี มีปริมาณรถหนาแน่น และมาบรรจบกันที่ถนนเพชรเกษม จึงทำให้มีปริมาณรถสะสมมากขึ้น แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ จากการชี้แจงของ ร้อยตำรวจตรี ภูวรัชย์ แสงสิงห์ เจ้าหน้าที่ประจำรถวิทยุ สถานีตำรวจทางหลวง 1กองกำกับการ 2 จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมารถยังมีไม่มากนัก แต่หลังจากเวลา 09.00 น. รถที่มาจากถนนถนนสายบรมราชนนี ขาออกจากกรุงเทพมหานคร ที่ต้องวิ่งขึ้นสะพานต่างระดับ มาบรรจบกับถนนเพชรเกษม เพื่อเข้าสู่จังหวัดนครปฐม ไปยังฝั่งภาคตะวันตก พบว่าเริ่มมีรถสะสมมากขึ้น ซึ่งได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยบริการด้านการจราจรตามจุดคับขัน จนสามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง














ตร.เมืองมหาชัย ปิดล้อมเป้าหมายจับอาวุธปืน รับปีใหม่

เมื่อ 31 ธ.ค.  2558 เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การสั่งการของ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาครฯ ,พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ แก้วพลน้อย รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง สวป.ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์  อ่อนละออ สวป.ฯ ,พ.ต.ต.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม สวป.ฯ ,พ.ต.ต.อนุชา จิตนิยม สวป.ฯ ,ร.ต.ท.วัชระ พัฒนกุลอนันต์ รอง สวป.ฯ ,ร.ต.ท.กิตติ์ธีธัช คงกระพันธ์ รอง สว.สส.ฯ,ร.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ รอง สวป.ฯ ร.ต.ต.สมเกียรติ ทบสี รอง สวป.ฯ พร้อมกำลังงาน ป.นอกเครื่องแบบ ชุด ปส.2 และชุด ปคม.สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมกันนำหมายค้นของศาล จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 4 หมาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นชุมชนบ้านเป้าหมายยาเสพติด และอาวุธปืน โดยมีผลการปฏิบัติดังนี้
1.เวลาประมาณ 06.30 น.ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 491/2558 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2558 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 83/15 ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
2.เวลาประมาณ 07.30 น.ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 493/2558 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2558 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 30/5 ม.8 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
3.เวลาประมาณ 08.30 น.ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 494/2558 ลงวันที่ 30 ธ.ค.2558 เข้าตรวจค้นบ้านปูนชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผลการปฏิบัติ พบว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน
4.เวลาประมาณ 09.30 น.ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 492/2558 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2558 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1/10 ม.3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผลการปฏิบัติ ได้จับกุมนายอุดม สุขสมัย อายุ 54 ปี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพกลูกซองสั้น 1 กระบอก ,อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก ,ลำกล้องปืน ขนาด .38 จำนวน 1 อัน (สำหรับลดขนาดกระสุนปืนลูกซองสั้น) ,เครื่องกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ,กระสุนขนาด.38 จำนวน 2 นัด ,กระสุนขนาด .22 จำนวน 50 นัด และซองพกในหนังอ่อนสีดำ จำนวน 2 ซอง โดยกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำตัวพร้อมของกลางส่ง พงส. สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีต่อไป
      จากการตรวจค้นบ้านเป้าหมายดังกล่าว พบว่าส่วนใหญ่มีอาวุธปืน(มีทะเบียนถูกต้อง) จึงได้จัดทำข้อมูลไว้เพื่อป้องกันการนำอาวุธปืนไปก่อเหตุและอาชญากรรม ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ต่อไป

 เงาพญาราหู รายงาน

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รมช.มท. ตรวจเยี่ยมการให้บริการของสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร

หลังมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมขาย โอน  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล และก่อนจะมีการปรับราคาประเมินที่ดินใหม่ ในวันที่ 1 มกราคม 2559
          เมื่อ 30 ธ.ค. 58 เวลา 14.00 น. นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนของสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประชาชนมาขอรับบริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันหยุดราชการในช่วงเทศกาลปีใหม่
          โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานและกระบวนการให้บริการต่างๆ พร้อมให้กำลังใจแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกรมที่ดินทุกคน ที่ได้ร่วมกันให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ได้กำหนดให้ลดค่าธรรมเนียมการโอน การจำนอง เหลือร้อยละ 0.01 ทำให้ประชาชนเร่งทำนิติกรรมเพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนตามมาตรการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ประกอบกับกรมธนารักษ์ได้ประกาศปรับราคาประเมินที่ดินใหม่โดยบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้างใหม่สำหรับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ  และนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 นี้เป็นต้นไป
          ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมที่ดินพบว่าก่อนมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครและสาขา มียอดผู้เข้ารับบริการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2558 – ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558 ( 2 เดือน) จำนวน 77,266 ราย ภายหลังมีมาตรการฯ มีผู้เข้ารับบริการงานทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน กว่า 1.2 แสนราย โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น กว่า 5 – 6 เท่า จากเดิม 150 รายต่อวันเป็นกว่า 650 รายต่อวัน เฉพาะวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาในกรุงเทพมหานครมีผู้มารับบริการงานทุกประเภท จำนวน 5,587 ราย
          ในส่วนของต่างจังหวัดโดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ เช่น จังหวัดชลบุรี นครราชสีมา และจังหวัดสงขลา มีผู้เข้ารับบริการเฉลี่ยวันละกว่า 300 รายต่อวัน โดยสำนักงานที่ดินทุกแห่งได้เปิดให้บริการประชาชนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนกว่างานทุกรายจะแล้วเสร็จ ซึ่งบางแห่งต้องให้บริการถึงเวลา 02.00 น. ในภาพรวมเป็นไปด้วยเรียบร้อยสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของกระบวนการทำงาน สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงบริการด้านอื่นๆ ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน







นครปฐมผู้ว่าฯออกเยี่ยมจุดตรวจจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

วันที่ 30 ธันวาคม 2558 นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมคณะ ออกเยี่ยมจุดตรวจและจุดบริการประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ณ บริเวณหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม อำเภอเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการเดินทางให้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งได้มีการตั้งจุดตรวจรถโดยสารประจำทาง ทั้งรถตู้ รถทัวร์ และจุดตรวจวัดความเร็ว โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการตรวจสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ ว่ามีการพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งดูจากสมุดลงเวลาการขับรถจากต้นทางถึงปลายทางในแต่ละวัน จะต้องไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง อีกทั้งทั้งผู้ขับขี่จะต้องผ่านการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย และตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ จากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม และนอกจากนี้ได้ตรวจความพร้อมของตัวรถ อาทิ ไฟส่องสว่าง ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ที่ปัดน้ำฝน และยางรถ จะต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

จากการตรวจสอบยังไม่พบผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทางรายใดที่กระทำความผิด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้กำชับเจ้าหน้าที่ขนส่ง และผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทาง ให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพี่น้องประชาชนจะเดินทางสัญจรกันเป็นจำนวนมาก ทั้งกลับไปเยี่ยมญาติ และพักผ่อนท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครปฐมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อม มีความเข้มแข็งและอดทนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการเดินรถโดยสารให้แก่พี่น้องประชาชน หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้มอบน้ำดื่ม กาแฟ นม และน้ำผลไม้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย















กระทรวงมหาดไทยห่วงความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่

กระทรวงมหาดไทยห่วงความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
กำชับทุกจังหวัดคุมเข้มสถานบริการ เครื่องเล่นให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
  เมื่อ 30 ธ.ค. 58  ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องด้วยขณะนี้   เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สถานบริการจะมีการจัดงานหรือกิจกรรมพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่    เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนที่จะเข้าไปใช้บริการในสถานบริการและสถานประกอบการต่างๆ
          กระทรวงมหาดไทยจึงได้กำชับให้ทุกจังหวัด ดำเนินมาตรการควบคุมสถานบริการทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เช่น     การเข้มงวดเรื่องเวลาเปิด ปิด ของสถานบริการ กวดขันมิให้ผู้อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการในระหว่างเวลาทำการ ควบคุมไม่ให้มีการนำอาวุธเข้าไปในสถานบริการโดยเด็ดขาด และป้องกันมิให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด    ในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการสถานบริการ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ตรวจสอบระบบความปลอดภัยในอาคารสถานบริการ เช่น การติดตั้งถังดับเพลิง อุปกรณ์ดับเพลิงต่างๆ ประตูทางเข้า ออก ทางหนีไฟ การติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ ระบบไฟส่องสว่าง และไม่ให้มีการใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดงที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือเกิดระเบิดได้โดยเด็ดขาด และกำชับให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ตรวจสอบดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าใช้บริการ เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมและการมั่วสุมภายในพื้นที่โรงแรม ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอความร่วมมือแจ้งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้กำชับสถานีตำรวจนครบาลดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวด้วย รวมไปถึงการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของเครื่องเล่นตามสถานบริการและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเครื่องเล่นไว้ให้บริการ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
          นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงมหาดไทย   ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ พุทธศักราช 2559” ซึ่งจัดขึ้น ตามมติคณะอนุกรรมการกำกับติดตามการส่งเสริมคุณธรรมในสังคมไทย เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่   จากรัฐบาล นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน โดยให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ประสานงานโครงการสวดมนต์ข้ามปีระดับจังหวัด และระดับอำเภอ เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในระดับพื้นที่ สนับสนุนคณะสงฆ์ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว และให้ทุกหน่วยงานในจังหวัดร่วมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในบทบาทของแต่ละหน่วยงาน เช่น มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ตกแต่งสถานที่ การเป็นจิตอาสาร่วมจัดกิจกรรม เป็นต้น รวมทั้งให้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของจังหวัด เพื่อเผยแพร่เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้คนไทยได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เกิดความเป็นสิริมงคลความร่มเย็นเป็นสุขทั้งต่อตนเอง ต่อสังคม และประเทศชาติต่อไป


กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย มอบของขวัญปีใหม่ 2559

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ดำเนินโครงการ “ท้องถิ่นไทยใส่ใจความสะอาด คนในชาติมีความสุข” โดยประยุกต์ผ่านโครงการมอบของขวัญปีใหม่ 2559 “เสริมสร้างชีวิตใหม่ ให้คนไทยมีความสุข” ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “รู้ รัก สามัคคี” ที่มุ่งเน้นในเรื่อง การทำงานให้ประสบผลสำเร็จ จะต้องมีความรอบรู้ทุกมิติ ปฏิบัติงานด้วยใจที่มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และต้องรวมพลังหรือบูรณาการ เพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และเกิดความยั่งยืน

นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการ ท้องถิ่นไทยใส่ใจความสะอาด คนในชาติมีความสุข เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการทั้งในมาตรการระยะสั้น มาตรการต่อเนื่อง และมาตรการตรวจติดตามผล โดยมาตรการระยะสั้น ให้จัดกิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดใหญ่ (Big Cleaning Day) ในช่วงเดือนธันวาคม 2558 – มกราคม 2559 โดยดำเนินการทำความสะอาดและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ถนนสาธารณะในที่ชุมชน ให้ทำความสะอาดอย่าให้มีสิ่งกีดขวาง ปรับปรุง ซ่อมแซมป้ายเครื่องหมายจราจรให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ทำความสะอาดสถานที่ราชการ สำนักงาน ห้องส้วมสาธารณะ ตลอดจนรั้ว กำแพง ที่มีข้อความไม่เหมาะสม ทางด้านมาตรการต่อเนื่อง ให้องค์กรปกครอง   ส่วนท้องถิ่นจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะมูลฝอยในครัวเรือน และการใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอย การรักษาความสะอาดในสถานที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดระเบียบสายไฟฟ้า หรือสายสื่อสารโทรคมนาคมที่มีการติดตั้งไม่เป็นระเบียบ ทำความสะอาดภาชนะใส่ขยะมูลฝอยตามสถานที่สาธารณะให้สะอาดถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้จังหวัดพิจารณาประกาศเกียรติคุณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือบุคคลที่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ทำคุณงามความดี สำหรับมาตรการติดตามผล ให้จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามผลการดำเนินงานดังกล่าว และรายงานผลให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบ       ในทุกๆ 3 เดือน

นำคณะชุมชนเยี่ยมชมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทน

นายวาทินทร์ ทองแก้ว พลังงานจังหวัดนครปฐม นำคณะชุมชนเยี่ยมชมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ ม.ศิลปากร การนำผักตบชวามาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง ตามโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคประชาชน และโครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารจัดการพลังงานครบวงจรในชุมชนระดับตำบล 

สถ.ประชุมคณะทำงานปรับปรุง แก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายจรินทร์  จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ตั้งคณะทำงานปรับปรุงแก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น    ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยโดยมีนายดุษฎี สุวัฒวิตยากร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานมีหน้าที่เพื่อแก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ศึกษาปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ เสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมในการยกร่าง ปรับปรุงแก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง
                ประธานคณะทำงานฯ เปิดเผยว่า คณะทำงานได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือ เกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า โปร่งใส ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ดี ซึ่งผลการประชุมที่ผ่านมาที่ประชุมได้หยิบยกปัญหาการใช้จ่ายเงินสะสม การเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันกีฬาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วนโดยที่ประชุมมีมติเบื้องต้นให้พิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสมตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเห็นว่าไม่สอดคล้องกับสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันและมีมติให้ยกร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดงานและการแข่งขันกีฬาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายจ่ายในเรื่องดังกล่าวอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ







สถ.เชิญชวนโรงเรียนโครงการเด็กไทยแก้มใสในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการ “100 โรงเรียน...สู่ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส.....ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ”

นายจรินทร์  จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ ได้จัดทำโครงการเด็กไทยแก้มใส....ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนในการน้อมนำแนวทางการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรของโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปปฏิบัติในการพัฒนาอาหารกลางวันและภาวะโภชนาการของเด็กและเยาวชน โดยในปี พ.ศ.2557 – 2558 มีโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 46 โรงเรียนได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจากจำนวน 544 โรงเรียนทั่วประเทศ และในปี พ.ศ.2558-2559 ศูนย์ประสานงานโครงการเด็กไทยแก้มใสร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้จัดทำโครงการ 100 โรงเรียน...สู่ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส...ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนในโครงการฯ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบเด็กไทยแก้มใส...ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ทุกสังกัด ครอบคลุมทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ในเมืองและนอกเมือง  โดยสร้างความเป็นเจ้าของ (Ownership) ร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่  โดยจะคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม จำนวน 100 แห่ง เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่
                                กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงขอเชิญชวนโรงเรียนโครงการเด็กไทยแก้มใส ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจให้ส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อคัดเลือกรับการสนับสนุนพัฒนาโรงเรียนเป็น 100 โรงเรียนศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส...ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ ซึ่งกำหนดหมดเขตส่งใบสมัครในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และจะประกาศผลโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในวันที่ 31 มกราคม 2559 ผ่านช่องทาง www.foodforthaihealth.com







วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หม่องชาวพม่าขยายเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ท่าทราย

เมื่อ 29 ม.ค. 59  เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ,พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ แก้วพลน้อย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร ,พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง สวป.ฯ นำโดย พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ อ่อนละออ สวป.ฯ ,พ.ต.ต.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม สวป.ฯ ,พ.ต.ต.อนุชา จิตนิยม สวป.ฯ ,ร.ต.อ.กิตติ์ธีธัช คงกระพันธ์ รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.ท.วัชระ พัฒนกุลอนันต์ รอง สวป.ฯ พร้อมกำลัง ป.นอกเครื่องแบบ ชุด ปส.ฯ 2 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1 ราย  ผู้ต้องหา 1 คน มีรายละเอียดดังนี้
เวลาประมาณ 20.00 น.จับกุม นายหม่องเล ไม่มีนามสกุล อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 175 เม็ด กล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิด หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
จากการสืบสวนขยายผลนายหม่องเลฯ รับว่ารับยาบ้ามาจากเพื่อนชาวพม่าด้วยกัน ในราคาถุงละ(200เม็ด)12,000 บาท ไม่มีเบอร์โทรติดต่อ โดยเพื่อนชาวพม่าจะนำยาบ้ามาให้ตนจำหน่าย 20วันมา1ครั้ง ไม่สามารถขยายผลได้จึงได้บันทึกนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีต่อไป.

 เงาพญาราหู รายงาน