pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ตรวจโรงงานสุ่มเสี่ยงการทิ้งน้ำเสีย

เมื่อ ๓๐ มิ.ย. ๕๙  ชป.พท.ส.๑ นำโดย พ.ท.ปัน  บุญสุข  รอง.ผบ.บก.ชป.พท.ส.๑ เข้าตรวจโรงงานสุ่มเสี่ยงการทิ้งน้ำเสียลงคลองสาธารณะตามเรื่องร้องเรียนของประชาชน ร่วมกับคณะ มทบ.๑๖ (ส่วนหน้า) พร้อมด้วยผช.หน.ศรธ.จว.สค.,จนท.อบต.บางกระเจ้า,โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญสำนักงานชลประทานเขต๑๑,อุตสาหกรรม จว.ส.ค.,ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จว.ส.ค.,สาธารณสุขจว.ส.ค.และจนท.ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง - เข้าตรวจสอบ
๑.ห้างหุ้นส่วน เอส.เค.อินเตอร์เคมีคอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ ๕๙/๑๖ หมู่ ๘ ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
๒.บ.สยามอินเตอร์ เคมิคอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ ๕๙/๑๘ ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
ผลการปฏิบัติ
๑.ไม่สามารถแสดงใบประกอบการ อภ.๒ ต่อคณะได้
๒.ปล่อยให้น้ำสารเคมีปนเปื้อนออกสู่ภายนอกตามท่อสาธารณะ ทำให้เกิดผลเสียต่อประชาชน
๓.มีการกองถังสารเคมีซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงอยู่ที่โล่งแจ้ง ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการชะล้างลงสู่ท่อสาธารณะ                                                                     ข้อตกลงแก้ไข 
- ส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน ภายในวันจันทร์ที่ ๔ ก.ค.๕๙
- อุตสาหกรรม จว.ส.ค.สั่งปิดกิจการทันที เพื่อปรับปรุงแก้ไขเป็นระยะเวลา ๓๐ วัน เมื่อได้รับคำสั่ง
- สาธารณสุข อบต.บางกระเจ้าสั่งปิดกิจการทันที เพื่อปรับปรุงแก้ไขเป็นระยะเวลา ๑๕ วัน เมื่อได้รับคำสั่ง
ผู้ประกอบกิจการ ทั้ง ๒ โรงงาน

ประกอบกิจการ โดยมีน้ำ ซึ่งปนเปื้อนสารเคมี ระบายออกนอกสถานประกอบกิจการ สู่ที่ดิน/ทางทิ้งน้ำสาธารณะ และน้ำปนเปื้อนสารเคมีดังกล่าว เป็นวัตถุอันตราย ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาน  ประกอบกับ ขณะเจ้าพนักงานเข้าตรวจ ผู้ประกอบกิจการ หรือสถานที่นั้น ไม่สามารถแสดงใบอนุญาต ตามข้อกำหนดท้องถิ่นกำหนดได้  เห็นควรให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ในส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อปฎิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต่อไป








กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สานต่อโครงการ “มหาดไทยห่วงใย ใส่ใจผู้สูงอายุ”

รัฐบาลโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ ซึ่งมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสวัสดิการสังคม ในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยในปี ๒๕๕๙ นี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม เพื่อเป็นของขวัญมอบให้กับพี่น้องประชาชน ภายใต้แนวคิด เสริมสร้างชีวิตใหม่ ให้คนไทยมีความสุข ซึ่งน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  สู่สังคมไทย สร้างชีวิตใหม่ประชาชน โดยกลไกประชารัฐ ผ่าน ๑๖ กิจกรรมสำคัญ หนึ่งในนั้น คือ โครงการ มหาดไทยห่วงใย ใส่ใจผู้สูงอายุ ที่มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นรับผิดชอบ โดยสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้พัฒนาระบบบริการ และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต  ของผู้สูงอายุให้มีสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกรณีประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็น สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์        ในปี 2568 จึงได้สานต่อโครงการ มหาดไทยห่วงใย ใส่ใจผู้สูงอายุที่มุ่งหวังให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง ได้พัฒนาระบบบริการ และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้แก่ ระบบการเฝ้าระวังสุขภาพ / สุขภาวะด้วยตนเองและครอบครัว การสร้างเครือข่าย การจัดบริการผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ ด้านสังคม และด้านการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีตลอดทั้งปี และเพื่อให้เกิดเครือข่ายการจัดบริการผู้สูงอายุในท้องถิ่น ตลอดจนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้แจ้งแนวทางการดำเนินการให้แก่องค์กรปกครอง       ส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศ โดยให้ดำเนินการสำรวจข้อมูล / สภาพผู้สูงอายุในชุมชน / หมู่บ้าน ร่วมกับชมรมผู้สูงอายุ องค์กรภาคประชาชน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนและการบูรณาการภาคีเครือข่ายในพื้นที่ และให้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ คัดกรองเพื่อจำแนกกลุ่มผู้สูงอายุตามภาวะ พร้อมทั้งประเมินความจำเป็นด้านการสนับสนุนบริการและจัดบริการด้านสุขภาพและสังคม ตลอดจนดำเนินการประชุมภาคีเครือข่ายผู้แทน / ตัวแทนภาครัฐ ชุมชน / หมู่บ้าน อาสาสมัคร องค์กรชุมชน องค์กรสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานและรูปแบบแผนงานต่อไป

ปส.สมุทรสาคร ร่วมกับทหารจับขบวนการค้ายาบ้าพร้อมแท่นปั๊มกลางสวน

เมื่อ 30 มิถุนายน  2559  เวลาประมาณ 09.00  น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้สืบทราบว่ามีผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ นายดาบส  ชาวใต้  อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 หมู่ 3 ต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร มีเครื่องปั๊มยาเสพติด ในลักษณะแท่นปั๊มยาบ้า ที่บริเวณพื้นที่ ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม
           จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ทราบว่านายดาบสฯ เคยมีประวัติในการถูกจับกุมในข้อหา สารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด และแท่นปั๊มยาเสพติด เมื่อประมาณปี 2539 ที่ ต.บ้านแพ้ว  อ.บ้านแพ้ว  จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้น จ.สมุทรสาครและเขตติดต่อพื้นที่  จ.นครปฐม
           จากนั้นเวลาประมาณ  15 .30  น. วันเดียวกันโดยเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการณ์ภายใต้การควบคุมของ    พ.ต.อ.ทีป ราญสระน้อย รอง ผบก.ปส.ภ.จว.สมุทรสาคร ( รรท ผบก ภ.จว.สมุทรสาคร) พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน  ภ.จว.สมุทรสาคร นำโดย พ.ต.อ.ธงชัย  เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.ท.ศุภชัย ศรสุคนธ์แก้ว  รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สุกฤษฏิ์  วิศิษฐ์ชนะชัย รอง ผกก. สส.ฯ  พ.ต.ท.พีระ อัศวพิบูลย์ สว.สส. พ.ต.ต.ไชยภูมิ ฉลองภูมิ  สว.กก.สส.ปส.1ฯ ร.ต.อ.ธานินทร์ นุชเจริญ รอง สว.กก.สส. ปส.2 ร.ต.อ.รหัท สมานจิต ร.ต.ท.สุภาพ บัวประสม ร.ต.ต อรัญ ทาเกตุร.ต.ต.ณรงค์ หอมเย็น ร.ต.ต.วินัย พวงทองคำ  ร.ต.ต.เลิศชาย แผนสนิท ด.ต.โดม สระทองใจ ด.ต.ณัฐนนท์ เติมยศ ด.ต.สันติ เรืองฤทธิ์ ด.ต.วิสูติ สุขตะโก ด.ต.ธนเดช โพธ์งาม ด.ต.นที บุญทาน ด.ต.ชนาเมธ เมืองแก้ว และเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายทองฑีฆายุ กรมการสัตว์ทหารบกจังหวัดนครปฐม ได้วางแผนบูรณาการร่วมกันเพื่อตรวจค้นเป้าหมายดังกล่าว จากนั้นได้เดินทางไปยังบริเวณบ้านที่นายดาบส ชาวใต้  พักอาศัยอยู่ บริเวณพื้นที่ ม.5 ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม  ไปถึงพบนายดาบสฯ  ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าวจึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้น  ผลการตรวจค้นพบ เครื่องปั๊มยาเสพติด  จำนวน 1  เครื่อง พร้อมหัวตอกมีอักษรภาษาอังกฤษคล้ายตัว WY ปรากฏอยู่  และสารเคมีจำนวนหนึ่ง  ยาบ้า  จำนวน 18  เม็ด , ยาไอซ์ จำนวน 0.3 กรัม  จึงจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดีต่อไป
           สอบถามนายดาบสฯ  ให้การรับว่าเครื่องปั๊มยาเสพติดดังกล่าวตนเองได้รับมาจาก นายนัย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง  ชาวประเทศลาว  เมื่อปี 2558  โดยตนเองได้รู้จักนายนัยฯ ชาวลาว จากเพื่อนชื่อนายยศ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง  ไม่ทราบที่อยู่ โดยนายนัยฯ  ได้นำเครื่องปั๊มยาเสพติด มาส่งให้ตนเองบริเวณวัดดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อปี 2558 และนายนัยฯ แจ้งว่าจะแบ่งรายได้จากการขายยาบ้าให้ 20 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายยาบ้า ส่วนค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่สารเคมีที่ใช้ในการผลิต นายนัยฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนยาบ้า และ  ยาไอซ์ ของกลางที่ตรวจยึดได้นายดาบสฯ รับว่ารับมาจากผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป









ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ก.ค.59 พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทีป ราญสระน้อย รองผบก.(ปส) รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.พร้อมข้าราชการทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายดาบส ชาวใต้ ผู้ต้องหาพร้อมเครื่องปั้มยาบ้า ต่อสื่อมวลชน


     พญาราหู  รายงาน


กระทรวงมหาดไทย สั่งด่วนทุกจังหวัดเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาดินถล่มจากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องพร้อมปฏิบัติการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อ 30 มิ.ย. 59 นายชยพล  ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนัก บางพื้นที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและเกิดดินถล่มบ่อยขึ้นสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จากสถานการณ์ดังกล่าว พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัด เตรียมพร้อมและวางแนวทางในการรับมือกับภัยดินถล่มที่เกิดขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ โดยให้ทุกจังหวัดประสานร่วมกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้
1. ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงพื้นที่ที่เคยมีดินถล่มซ้ำซาก หรือพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีโอกาสเกิดดินถล่มตามข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณี พร้อมทั้งพิจารณาใช้มาตรการป้องกันและลดผลกระทบทั้งเชิงโครงสร้างและไม่ใช่โครงสร้าง เช่น การสร้างแนวป้องกันและการเปลี่ยนทิศทางของน้ำ การเสริมวัสดุป้องกันการกัดเซาะ หรือการพังทลายของดิน เป็นต้น พร้อมจัดประชุมซักซ้อมแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อม ทั้งวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ยานพาหนะ รวมถึงเจ้าหน้าที่
ต้องพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
2. กำชับให้ท้องถิ่นและชุมชนร่วมกันตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อถนนและคอสะพาน หากพบว่าไม่ปลอดภัยหรืออาจเกิดอันตรายให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโดยเร่งด่วน เช่น การเสริมความแข็งแรงเพื่อป้องกันการกัดเซาะและพังทลายของดิน เป็นต้น
3. แจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงดินถล่มของจังหวัด ให้รับทราบข่าวสารทุกช่องทาง พร้อมให้คำแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตนและวิธีการสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำเพิ่มสูง มีสีขุ่น และมีเสียงผิดปกติจากป่าต้นน้ำ และการเตือนกรณีเกิดเหตุ ห้ามประชาชนเข้าใกล้บริเวณที่เกิดดินถล่ม รวมถึงการพิจารณาอพยพให้พ้นจากแนวการไหลของดินถล่ม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากคาดว่าจะเกิดสถานการณ์ดินถล่ม ให้รีบแจ้งเตือนประชาชนอย่างรวดเร็ว และขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้ช่วยกันเฝ้าระวัง แก้ไข และกำจัดขยะ เศษวัสดุที่อาจกีดขวางทางน้ำ หรือหากพบสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ประชาชนร้องเรียน

สืบเนื่องจากที่มีประชาชนร้องเรียนครั้งที่ผ่านมาและได้มีการเสนอข่าวออกไปแล้วนั้นถึงความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณปากซอยถนนวิภาวดี 72 แต่ปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มรถแท็กซี่มาจอด ตั้งแต่เช้าถึงเย็นทั้งที่มี"ป้ายห้ามจอดและเส้นขาวแดง"ตลอดทั้งแนวทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทางนี้ติดกันยาวเหยียดเพราะมีกลุ่มแท็กซี่ใช้ พื้นที่ริมถนนเป็นที่จอดรถกินอาหารอีสานข้างทางและมีกลุ่มลอกเลียนแบบจอดต่อท้ายกันเป็นทอดๆส่งผลให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นต้องเบี่ยงออกขวาตลอดแนวบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตซอย 72  พฤติกรรมของแท็กซี่กลุ่มนี้พอมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเข้มงวดกวดขันกลุ่มคนพวกนี้ ก็จะสลายตัวแยกย้ายกันไปแต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปเมื่อไหร่ก็จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งทำเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมายฝากถึงพลตำรวจตรี ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์รอง ผบช.น.ที่ดูแลเรื่องงานจราจรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลเรื่องงานจราจรช่วยมาเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายอย่าให้กลุ่มรถแท็กซี่ กลุ่มกลุ่มนี้ มาจอดรถตรงนี้ได้อีก

กทม. เขื่อนคลองลาดพร้าว 8 กม.แรก คืบหน้า 20 %‏

เมื่อ 30 ก.ค.59 นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง
และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า -รามคำแหงไปทางประตูระบายน้ำ คลองสองสายใต้ ความยาว 22 กิโลเมตร
 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ ว่าวันนี้เป็นการตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนช่วง กิโลเมตรแรก ซึ่งมีแนวเขตชัดเจนสามารถก่อสร้างเขื่อนได้โดยขณะนี้การก่อสร้างเขื่อนคืบหน้าไปกว่า 20 เปอร์เซ็นต์แล้วอย่างไรก็ตามการก่อสร้างเขื่อนยังมีอุปสรรคอยู่บ้าง ประการแรก คือ
เรื่องสถานที่ที่จะลำเลียงเสาเข็มลงไปตอก ขณะนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้ใช้พื้นที่ในการลำเลียงเสาเข็มแต่การดำเนินการก่อสร้างต้องใช้ระยะเวลา กทม.มีความจำเป็นต้องขอเพิ่มระยะเวลาเพิ่มจุดและเพิ่มพื้นที่เพื่อลำเลียงเสาเข็มเพิ่มเติม
                              ทนุธรมม/ภาพ/อรรจน์ชญาณ์/ข่าว





ขอแสดงความยินดีกับบุคลากรและหน่วยงานสาสุข๑๐๑รับรางวัลดีเด่นหลายรางวัล‏

เมื่อ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ ณ ห้องประชุมแก้วมุกดา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด  นายปิติ ทั้งไพศาล  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด  ประธานการประชุมคณะกรรมการวางแผนและประเมินผล  สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด  ประจำเดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ ได้ทำการมอบประกาศเกียรติคุณและช่อดอกไม้  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ  และยกย่องเชิดชู แก่บุคลากรและหน่วยงานดีเด่น  ประจำปี ๒๕๕๙  หลายรางวัลด้วยกัน ดังนี้

๑.นายแพทย์อุปทิน รุ่งอุทัยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสลภูมิ รางวัลแพทย์ดีเด่นจากแพทย์สภา ประจำปี ๒๕๕๙

๒.นางวนิดา ง่อนสว่าง เจ้าพนักงานพัสดุชำนาญงาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับการคัดเลือกเป็นนักปฏิบัติงานดีเด่นด้านพัสดุ เขตสุขภาพที่ ๗ ประจำปี ๒๕๕๙

๓.หน่วยงานและบุคลากร ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นหน่วยงานและบุคลากรดีเด่นด้านคุณธรรมจริยธรรม/ธรรมาภิบาล ระดับจังหวัดและระดับเขตสุขภาพที่ ๗ ประจำปี ๒๕๕๙ ได้แก่ 
> ประเภทหน่วยงาน ดีเด่น ได้แก่ โรงพยาบาลศรีสมเด็จ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเสลภูมิ
> ประเภทบุคลากร กลุ่มข้าราชการ ได้แก่ นายแพทย์อุปทิน รุ่งอุทัยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสลภูมิ และนางเยาวพา จันทรบุตร ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลโพนทอง
> ประเภทบุคลากร กลุ่มพนักงานราชการ/ลูกจ้างประจำ/พนักงานกระทรวง/ลูกจ้างชั่วคราว ได้แก่ นางชุลีพร ภูมิผักแว่น พนักงานช่วยเหลือคนไข้ โรงพยาบาลโพนทอง นายบอล์ล สังข์เจริญ พนักงานธุรการ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด และนายทวีศักดิ์ เปไสล ลูกจ้างประจำ โรงพยาบาลเสลภูมิ
> ประเภทเรื่องเล่า ได้แก่นางกาญจนา สุกใส พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคำแดง อำเภอพนมไพร

๔.โรงพยาบาลพนมไพร ได้รับรางวัล องค์กรปลอดภาชนะโฟมบรรจุอาหาร ๑๐๐%จากกรมอนามัย

๕.เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้รับรางวัล องค์กรสนับสนุนโครงการ ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร

๖.โรงพยาบาลหนองพอก ได้รับรางวัล ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการดีเด่นระดับเขตสุขภาพที่ ๗ ประจำปี ๒๕๕๘ ประเภทโรงพยาบาลชุมชน

๗.สำนักงานสาธารณสุขอำเภอโพนทอง ได้รับการคัดเลือกเป็น องค์กรแห่งการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพต้นแบบ สนับสนุนนโยบาย ล้านลด ล้านเพิ่ม สู่เมืองร้อยเอ็ดสุขภาพดี ปี ๒๕๕๙

ทั้งนี้   ประเภทหน่วยงานและคนดีฯกลุ่มลูกจ้าง  ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ก็จะได้เป็นตัวแทนเขตสุขภาพที่ ๗ ไปนำเสนอผลงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในระดับประเทศ ที่กระทรวงสาธารณสุข ณ เวทีการประชุมสัมมนาการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม กระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ ๑๑ ในชื่องานว่า สาธารณสุขสามัคคี ทำความดี เพื่อประเทศไทย : ขับเคลื่อนองค์กรคุณธรรม นำสู่ประชาชนในระหว่างวันที่ ๒๕- ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร   ได้แก่  สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเสลภูมิ ประเภทหน่วยงานดีเด่นด้านการพัฒนาผลงานด้านคุณธรรมจริยธรรม    และ นายทวีศักดิ์ เปสไล ลูกจ้างประจำ โรงพยาบาลเสลภูมิ ประเภทคนดีศรีสาธารณสุข กลุ่มพนักงานราชการ /พนักงานกระทรวง/ลูกจ้างประจำลูกจ้างชั่วคราว
//////////////////////////////

พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว




วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ผู้ว่าฯร้อยเอ็ดแถลงข่าวจับผู้ต้องหาและของกลางยาบ้า 24,071 เม็ด ผลึกไอซ์ 4.2 กรัม‏

เมื่อ 29 มิ.ย. 59 เวลา 14.00 น.ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ด โดยนายอนุสรณ์แก้วกังวาล ผวจ.ร้อยเอ็ด, พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด,พล.ต.สถาภรณ์ ใบพลูทอง ผบ.มท.บ.๒๗, นายทรงพล ใจกริ่ม รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด,พ.อ.กฤษดา นิยมวิทย์ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.ร้อยเอ็ด, พ.ต.อ.สิงห์ทอง พลลา รองผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พ.อ.สรชัช สุทธิสนธ์ รอง ผบ.มทบ.27, นายสุริยะ
วิริยะสวัสดิ์ ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด, นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐนายอำเภอสุวรรณภูมิ, นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ป้องกันจังหวัดร้อยเอ็ด,พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พ.ต.อ.สุริเดช วรรณสุทธิ์
ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ, พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา หน.ชปส. ภ.จว.ร้อยเอ็ด,พ.ต.ท.เจนพล พลเยี่ยม, พ.ต.ท.ภากร สุขประเสริฐ, พ.ต.ท.ธัชพล มูลละคร,พ.ท.พิทักษ์ชัย กิ่งเกษ ผบ.ร.๑๖ พัน ๑, ร.ต.อ.สมนึก ปัญญารมย์,
ร.ต.อ.ไพรทูล ศรีมหาพรม, ร.ต.อ.โกวิทย์ หันประดิษฐ์, ร.อ.นิมล มงคลลัภย์,ร.ต.ท.สมพงศ์ อุ่นเจริญ, นายวิญญู สีรินทร์
ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดร้อยเอ็ด
คดีที่ 1 เมื่อ 27 มิ.ย. 2559 เวลา เวลาประมาณ 15.00 น.ชุดพิทักษ์สาเกตุ จับกุม น.ส.ศิริพร หรือกิ๊ป ศรีผา อายุ 23 ปี ที่อยู่242 หมู่ 5 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลาง ยาบ้า 30 เม็ดข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายเหตุเกิดที่ริมถนนเส้นทางระหว่าง อ.สุวรรณภูมิ อ.ท่าตูม หมู่ 8 ต.ทุ่งหลวงอ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จากนั้นได้ขยายผลจนนำไปสู่การจับกุม
นายบรรดาศักดิ์หรือบิลลี่ เลิศพันธ์ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 81 หมู่ 6 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางยาบ้า 24,071 เม็ดผลึกไอซ์ 4.2 กรัม ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์)
ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายเหตุเกิดที่ บ้านเลขที่ 81 หมู่ 6 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ดและบริเวณโรงเรือนใช้สำหรับเก็บฟางข้าวอยู่กลางทุ่งนาด้านทิศตะวันออกบ้านหางเหย
หมู่ 8 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เกี่ยวเนื่องกัน ยึดเงินสด8,700 บาท เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ นำส่ง พนักงานสอบสวนสภ.สุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สตม.รวบหัวหน้าแก๊งยาเสพติดข้ามชาติคาสุวรรณภูมิและแถลงผลระดมกวาดล้างต่างชาติกว่าหมื่นราย

เมื่อ 29 มิ.ย. 2559 เวลา13.30น.พล.ต.ท.ณัฐธรเพราะสุนทรผบช.สตม.ให้การต้อนรับ Mr.Gary Knowlesทูตตำรวจนิวชีแลนด์ ประจำประเทศไทยและ Mr.Brian Lamb ทูตศุลกากรนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ในโอกาสนำสารจากอธิบดีกรมตำรวจ นิวซีแลนด์ มาแสดงความขอบคุณ ที่ สตม. จับกุม Mr.Jeremaiah  Iustini สัญชาติออสเตรเลียหัวหน้าแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ลักลอบขนยาไอซ์ล๊อตมหึมามูลค่าสูงกว่าหมื่นล้านบาทเข้าประเทศนิวซีแลนด์

พล.ต.ท.ณัฐธร  เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวว่า สตม. ได้รับการประสานงานจากตำรวจ นิวซีแลนด์ขอความร่วมมือสกัดจับ หัวหน้าแก๊ง ลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ที่เชื่อว่ากำลังหลบหนีเข้ามาประเทศไทย จึงได้สั่งการไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังบุคคลดังกล่าวกระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 มิ.ย. ระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า(APPS)ที่ศูนย์CCOC ที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ตรวจพบว่าผู้ต้องหาด้งกล่าวได้เดินทางมากับสายการบินไทยเที่ยวบินTG492เส้นทางเมืองโอ๊คแลนด์-สุวรรณภูมิ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 20:25 น. จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบเครื่องบินลำดังกล่าวจากนั้นการตรวจสอบพบว่าบุคคล ที่ทางการนิวซีแลนด์ต้องกาเป็นตัวจริงจึงได้ควบคุมตัวไว้

สำหรับพฤติกรรมในคดีดังกล่าวMr.Jeremiah. เป็นหัวหน้าแก๊งลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศนิวซีแลนด์รายใหญ่ ใช้รูปแบบที่ ซับซ้อนในการลำเลียงยาเสพติดโดยนำยาเสพติดบรรจุในกระเป๋ากันน้ำกูกับทุนไปลอยไว้กลางทะเลโดยติดระบบดาวเทียมนำทาง GPS เมื่อถึงเวลาส่งมอบ จึงนำเรือออกไปรักทุนยาเสพติดเข้าฝั่งจนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมาตำรวจนิวซีแลนด์ได้ตรวจพบยาไอซ์จำนวนมากถึง 538 กิโลกรัมราคาสูงถึง 18,000 ล้านบาทจากการสอบสวนของตำรวจนิวซีแลนด์ พบหลักฐานความเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ประกอบกับคำให้การของผู้ร่วมขบวนการซักทอดว่าMr.Jeremiah Iustini เป็นหัวหน้าขบวนการหลังจากผู้ร่วมขบวนการถูกจับMr.Jeremiah ได้พยามหนีมาที่ประเทศไทย จนกระทั่งมาถูก สตม. ควบคุมตัวได้ในที่สุด ด้านเจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหากลับไปนิวซีแลนด์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมทางได้บันทึกข้อมูลลงในระบบบุคคลต้องห้าม(Black. List) ป้องกันบุคคลดังกล่าวไม่ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยได้

นอกจากนี้. ผบช.สตม. ได้แถลงผลการจับกุมคดีสำคัญอีกหลายคดีประกอบด้วย
1.วันที่ 27 มิถุนายน 2559 จับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผู้ต้องหาชาวไทย(คนนำพา)จำนวน1คนชาวกัมพูชาจำนวน 12 คนพร้อมของกลางรถตู้จำนวน1คันหนังสือเดินทางกัมพูชาจำนวน6เล่ม และบัตรผ่านแดนชั่วคราว(Border Pass)จำนวน2ใบคดีนี้สตม. สืบทราบว่าที่บริเวณตลาดโรงเกลืออรัญอย่าประเทศมีการลักลอบขนแรงงานที่ผิดกฎหมายเข้ามากรุงเทพโดยใช้วิธีสวมพาสปอร์ตเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ผบช.สตม.จึงได้สั่งการให้ชุดจับกลุ่มติดตามพฤติกรรมของขบวนการนี้มาโดยตลอดจนกระทั่งวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมาชุดจับกุมได้ติดตามรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีขาวทะเบียน14-3618กทม. จากตลาดโรงเกลือมาตามเส้นทางถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 359เจ้าพนักงานชุดจับกลุ่มจึงได้เรียกรถหยุดแล้วเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่กับนายถาวร พันธ์เนตร ผู้ถูกจับกุมภายในรถพบคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาจำนวน 12 คนแล้วได้นำหนังสือเดินทาง มาแสดงจากการตรวจสอบพบว่าภาพถ่าย ในหน้า หนังสือเดินทางไม่ตรงกับผู้ถือจึงได้สอบถามทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าใช้วิธีสวมหนังสือเดินทาง ของผู้อื่นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
2. วันที่ 20 มิถุนายน 2559 จับกุมกระบวนการปลอมหนังสือเดินทางชาวแคเมอรูน ผู้ต้องหาชาวแคเมอรูนจำนวน3คน จับกุมที่ ซอยรามคำแหง 180 มีนบุรีกรุงเทพผลการตรวจค้นพบนายซิลวานัส กาบิล่าฝนแซม,น.ส.โรส โอเนเก้ บู และนายเอซู  อัคบอเนเก้ สัญชาติแคมเมอรูน ได้ทำการตรวจพบตราประทับปลอมจำนวน48อันเป็นตราประทับหน่วยงานต่างๆเช่น ตรวจคนเข้าเมืองหน่วยงานการศึกษามหาวิทยาลัยและสำนักงานตำรวจอีกทั้งได้พบเอกสารเกี่ยวกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัย เช่นปริญญาบัตรเอกสารแสดงผลการเรียนใบประกาศนียบัตรอีกส่วนหนึ่งเป็นเอกสารทะเบียนสมรสของประเทศแคเมอรูนเอกสารเกี่ยวกับ การรับรองความประพฤติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แคเมอรูน, เอกสารจากสถาบันการเงินรับรองฐานะการเงินใบสุทธิบัตรแคเมอรูนฯลฯ จึงได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตมิให้อยู่ในราชอาณาจักรและควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
3. วันที่ 24 มิถุนายน 2559 สตม.ร่วมกับ ศรภ.ดำเนินการตรวจค้นและจับกุมแก๊งค์ปลอมแปลงหนังสือเดินทางเครือข่ายดร. มี 2 จุด ดังต่อไปนี้-เข้าตรวจค้นจับกุมMr.Attiq. Ur. Rehman สัญชาติปากีสถานกรณีมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องการปลอมแปลงหนังสือเดินทางและจัดส่งลูกแพะ ไปยังประเทศที่สามโดยชุดสืบสวนได้ดำเนินการตามหมายค้นของศาลอาญาที่195/2559ลง23มิ.ย.2559 เข้าตรวจค้นห้องพักย่านพระรามเก้าสองMr.Attiq และพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลอมแปลงหนังสือเดินทางจำนวนหลายรายการซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับแก๊งด็อกเตอร์ได้แก่จักรเย็บผ้าคอมพิวเตอร์เครื่องพิมพ์แผ่นพลาสติกสำหรับเคลือบ, เครื่องเคลือบพลาสติกด้วยความร้อนที่ตัดมุมกระดาษและมุมซองกระดาษบรรจุขนาดเท่าหนังสือเดินทาง-เข้าตรวจค้นจับกุมMr.Nadour Hakim สัญชาติอัลจีเรีย กรณีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และจัดส่งลูกแพะ ไปประเทศที่สามโดยชุดสืบสวนได้ ดำเนินการตามหมายค้นของศาลจังหวัดระยอง ที่ค.84/2559ลง23มิ.ย.2559 เข้าตรวจค้นห้องพักในจังหวัดระยองของMr.Hakim จากการสอบสวนปากคำ Mr.Attiq ur Rehman และMr.Nadour Hakim ให้การว่าทั้งสองคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงหนังสือเดินทางและจัดส่งลูกแพะ ไปประเทศที่สามจริง สตม. ถึงเดิมเนินการถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

4. แถลง ผลการระดมกวาดล้างคนต่างชาติกฎหมายประจำเดือนมิถุนาตามนโยบายของ  พล.ต.อ.จักรทิพย์. ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(ฝ่ายความมั่นคง) ระหว่างวันที่19-25 มิ.ย.2559 สามารถจับกุมชาวต่างชาติผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากถึง11296ราย สัญชาติที่มีจำนวนสูงสุดสามอันดับแรกได้แก่เมียนมา 5418 คน,ลาว2798คน,กัมพูชา2044คนและสัญชาติอื่นๆ1036คนตามลำดับ ที่ผ่านมา สตม.ได้สั่งการให้ ตม.ทุกหน่วยงานระดมกวาดล้างคนต่างชาติผิดกฎหมายเป็นประจำทุกเดือนนับตั้งแต่ ต.ค.2559 เป็นต้นมาสามารถจับกุมคนต่างชาติผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมากดังนี้ ต.ค.58-10103ราย พ.ย.58-10917ราย ธ.ค.58-11098ราย ม.ค.59-12643ราย ก.พ.59-13447ราย มี.ค.59-14862ราย เม.ย.59-11232ราย พ.ค.59-8080ราย มิ.ย.59-11296ราย.      สตม. ได้มีการระดมกวาดล้างติดต่อกันทุกเดือน โดยสั่งการให้ ทุกหน่วยเอกซเรย์พื้นที่ในความรับผิดชอบเพื่อกวาดล้างคนต่างชาติผิดกฎหมายอาชญากรข้ามชาติและขบวนการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบเพื่อดำเนินคดีแล้วผลักดันออกนอกประเทศและลงBlack list เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลเหล่านี้กลับเข้ามาได้อีก





มหกรรมประมูลทรัพย์หลุดจำนำ สธค. โรงรับจำนำของรัฐ ยืนหยัดเคียงคู่สังคมไทย”

 เมื่อ 29 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00 น.พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ มหกรรมประมูลทรัพย์หลุดจำนำ สธค. โรงรับจำนำของรัฐ ยืนหยัดเคียงคู่สังคมไทย” โดยมีนายไมครี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง ร่วมพิธีเปิดงาน ณ ห้องฟินิกซ์ 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี



นำร่าง 3 นายทหารถึงดอนเมืองแล้ว ทหารกองเกียรติยศทำพิธีรับสมเกียรติ‏

เมื่อ 29 มิ.ย. 2559 เวลา 00:45 น. C130 นำร่าง 3 นายทหารถึงดอนเมืองแล้ว ทหารกองเกียรติยศทำพิธีรับสมเกียรติเจ้าหน้าที่เคลื่อนศพ 3 นายทหาร เสียชีวิตเหตุ ฮ. ตก ที่เขาชะเมา ออกจาก รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อไปขึ้นเครื่องบิน ซี 130 กลับกรุงเทพฯ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีทหารกองเกียรติยศรอรับ ที่ บน.6 ดอนเมือง ...
เมื่อ 28 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำร่างของ 2 นักบิน และ 1 ช่างเครื่องทหารอากาศ คือ น.ต.พิสิษฐ์ เตชะเสน ร.อ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง และ พ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทธรักษา ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกบริเวณใกล้สถานีสื่อสารกองทัพอากาศบนยอดเขาชะเมา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 500 เมตร ลำเลียงขึ้นรถไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
เคลื่อนร่างนายทหารทั้ง 3 นาย ขึ้นเครื่องบิน C130 ไปยังดอนเมือง
จากนั้น เวลา 21.52 น. ที่ตึกพยาธิวิทยา 2 โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ขบวนรถเคลื่อนย้ายศพ 3 ทหารอากาศ เดินทางมาถึง ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าไปตกแต่งบาดแผลและบรรจุใส่โลงขาว คลุมด้วยธงชาติ ก่อนเคลื่อนย้ายไปยังสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อขึ้นเครื่องบินลำเลียง ซี 130 หมายเลข 7 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา พระภิกษุ พ่อแม่ญาติพี่น้องของทหารที่เสียชีวิต กลับไปดำเนินพิธีทางศาสนา ที่กรุงเทพฯ ต่อไป
ญาติของนายทหารทั้ง 3 ครอบครัว พร้อมพาคนที่รักกลับบ้าน
บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทั้งนี้ ที่สนามบินอู่ตะเภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองทหารเกียรติยศ 70 นาย กำลังซักซ้อมขบวนแถว เพื่อรอรับร่างนายทหารทั้ง 3 นาย อย่างสมเกียรติ
ต่อมาเวลา 23.41 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายศพทหารทั้ง 3 นาย ไปขึ้นเครื่องบินซี 130 ซึ่งกองทัพอากาศ ได้จัดกองทหารเกียรติยศ แสดงความเคารพอย่างสมเกียรติ ก่อนที่เครื่องบิน ซี130 จะนำร่างทั้ง 3 นาย ไปยังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง
ที่ บน.6 ดอนเมือง เจ้าหน้าที่จัดทหารกองเกียรติยศ ต้อนรับอย่างสมเกียรติ
ส่วนบรรยากาศที่ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพอากาศ จัดเจ้าหน้าที่กองทหารเกียรติยศ 1 กองร้อย เตรียมพิธีต้อนรับร่าง นายทหารทั้ง 3 นาย ณ ลานจอดอากาศยาน โดยมี พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีรับศพ ก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างไปยัง รพ.ภูมิพลฯ เพื่อชันสูตร
ด้าน พล.อ.ต.พงศ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยโดยคาดว่าร่างของนายทหารทั้ง 3 นาย จะเดินทางมาถึงยัง บน.6 ในเวลา 01.00 น. หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุ เตรียมเข้าเก็บหลักฐาน เพื่อสอบสวนหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ส่วนการเยียวยา เป็นไปตามระเบียบราชการ
ส่วนเวลา 16.00 น. วันนี้ (29 มิ.ย.) จะมีพิธีเคลื่อนร่าง 3 นายทหาร ไปยังฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ก่อนจะมีพิธี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 18.00
ผู้บัญชาการทหารอากาศ แถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัว 2 นักบิน 1 ช่างเครื่อง
ต่อมา พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ แถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัว 2 นักบิน 1 ช่างเครื่อง ระบุเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพอากาศ พร้อมเชิดชูนายทหารทั้ง 3 นาย ที่ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จ แม้จะเสี่ยงต่อชีวิต ยืนยันดูแลครอบครัวเต็มที่ พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงาน และประชาชนที่ช่วยเหลือ
จากนั้น เวลาประมาณ 00.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินซี 130 นำร่าง 3 นายทหาร ถึงท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมืองแล้ว โดยมี ผบ.ทอ. ญาตินายทหารผู้เสียชีวิต พร้อมทหารกองเกียรติยศ ทำพิธีรับอย่างสมเกียรติ.

นำร่าง 3 นายทหารเคลื่อนออกจากกองบิน 6 ไปโรงพยาบาลภูมิพล เพื่อรอชันสูตร




วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ทหารเข้าตรวจสอบบริษัท เพาเวอร์ดิ้ง จำกัด หลังได้รับเรื่องร้องเรียน

เมื่อ 28 มิ.ย. 2559  ร.อ.พีระพงค์  พรมเกตุ หน.ชป.กร.ชป.พท.ส.1, ร.ท.วิเชียร  มะสุวรรณ ผช.หน.บก.ควบคุมส่วนหน้า มทบ.16, พร้อมชุด มทบ.16 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญสำนักงานชลประทานเขต 11, อุตสาหกรรม จว.ส.ค., ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จว.ส.ค., ปลัดเทศบาลตำบลบ้านแพ้ว, ผอ.สาธารณสุขเทศบาลตำบลบ้านแพ้ว, สภ.บ้านแพ้ว, พม.จว.สค.และสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จว.สค.                                               
        เข้าตรวจบริษัท เพาเวอร์ดิ้ง จำกัดผลิตน้ำผลไม้ และ(ล้างขวด) ตั้งอยู่เลขที่ 138/2 ม.1 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จว.ส.ค.และจับกุมตัว แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 8 ราย แยกเป็น ผู้ประกอบการ 1ราย
1. น.ส.สุจินต์  เข็มเจริญ  อายุ 63 ปี   สัญชาติ ไทย  ที่อยู่ 33/6 หมู่ 1 ต.บ้านแพ้ว  อ.บ้านแพ้ว จว.สมุทรสาคร
2. นาย AUNG NIANG  อายุ  32  ปี   สัญชาติเมียนมาร์  PASSPORT เลขที่  TA006768 
3. นาย AUNG HTOO   อายุ 38  ปี   สัญชาติเมียนมาร์  PASSPORT เลขที่  TA006761 
4. นาย CHAN MON   อายุ 24 ปี   สัญชาติเมียนมาร์  PASSPORT เลขที่  TA006772 
5. นาง TIN AYE  อายุ 46  ปี   สัญชาติเมียนมาร์  PASSPORT เลขที่  TA006739 
6. นาง MA LONE  อายุ 26 ปี   สัญชาติเมียนมาร์  PASSPORT เลขที่  TA006772 
7. น.ส.เนทกาเรีย  อายุ 20 ปี  สัญชาติเมียนมาร์  บัตรประจำตัว(บัตรสีชมพู) เลขที่ 00 7401 357495 1
8. น.ส.น้อย   อายุ  14  ปี  สัญชาติเมียนมาร์  บัตรประจำตัว(บัตรสีชมพู) เลขที่ 00 7401 357582 5 (ผู้ติดตาม)
ผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ประกอบการ  รับต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน, รับต่างด้าวทำงานผิดเงื่อนไขตามประเภทหรือลักษณะงานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต  ณ ท้องที่สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต, เป็นนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง
ผู้ต้องหาที่ 2  เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยมิได้รับอนุญาต 
ผู้ต้องหาที่3 – 7  เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานผิดเงื่อนไขตามประเภทหรือลักษณะงานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต  ณ ท้องที่สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต 
ผู้ต้องหาที่ 8 เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยมิได้รับอนุญาต
สถานที่จับกุม  บริษัท เพาเวอร์ดิ้ง เลขที่ 138/2   ม.1 ต.หลักสาม  อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร  

นำส่ง สภ.บ้านแพ้ว........ต่อจากนั้น ร.ท.วิเชียร มะสุวรรณ ผช.หน.บก.ควบคุมส่วนหน้า มทบ.16 ร่วมกับ ชป.พท.ส.1 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญสำนักงานชลประทานเขต 11, อุตสาหกรรม จว.ส.ค., ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จว.ส.ค., ปลัดเทศบาลตำบลบ้านแพ้ว, ผอ.สาธารณสุขเทศบาลตำบลบ้านแพ้วและจนท.ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการตรวจสอบ ในส่วนของกิจการล้างขวดพบว่ามีน้ำเสียและฉลากที่ติดขวดถูกปล่อยลงไปในคลองสาธารณะ(คลองดำเนินสะดวก) ในส่วนของโรงงานบรรจุน้ำผลไม้ ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานประเภท 2 ในส่วนของโรงล้างขวด ให้ดำเนินการรวบรวมน้ำเสียทั้งหมดลงบ่อบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ....รวมทั้งให้ผู้ประกอบกิจการนำเศษฉลากทั้งหมดขึ้นจากคลองให้หมดในส่วนโรงงานบรรจุน้ำผลไม้  ให้เทศบาลตำบลบ้านแพ้วดำเนินคดีกับผู้ประกอบกิจการข้อหาไม่มีใบประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและไม่มีใบแจ้งประกอบกิจการโรงงานประเภท 2

แอบทิ้งน้ำล้างขวดทีผสมโซดาไฟลงคลอง