pearleus

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

แขวงการทางฯ จับมือ อบจ.เตรียมผุดโปรเจคใหม่สะพานเกือกม้า จยย.แห่งแรกของประเทศไทย

นายอุดม  ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ประสานงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร
เมื่อ 5 กันยายน 2559 เวลาประมาณ 17.00 น. นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ประสานงาน อบจ.สมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่พร้อมกับ นายทรงฤทธิ์ ชยานันท์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อสำรวจเส้นทางการก่อสร้างสะพานเกือกม้า หรือจุดกลับรถสำหรับรถจักรยานยนต์ บนถนนพระราม 2 ที่นับเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
นายทรงฤทธิ์ ชยานันท์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร
นายทรงฤทธิ์ ชยานันท์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร กล่าวว่า โครงการนี้ได้เริ่มมาจากหลายๆ ภาคส่วนทั้ง แขวงทางหลวงสมุทรสาคร และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งในเบื้องต้นนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ของบริเวณที่จะมีการก่อสร้างสะพานเกือกม้า สำหรับให้รถจักรยานยนต์ที่ออกมาจากทางฝั่งท่าฉลอม ใช้กลับรถบนถนนพระราม 2 เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุจากการขับรถจักรยานยนต์ย้อนศร บนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ซึ่งขณะนี้ก็ได้รูปแบบมาคร่าวๆ แล้ว สำหรับสะพานเกือกม้าที่ใช้เพื่อให้รถจักรยานยนต์กลับรถโดยเฉพาะ รวมถึงจุดที่จะมีการก่อสร้างทางและจุดขึ้นลงอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของการหารือกันอีกรอบก่อนที่จะทำประชาพิจารณ์กับพี่น้องประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียและการนำรูปแบบมาพิจารณา เพื่อการนำไปสู่การวางงบประมาณของทาง อบจ.สมุทรสาคร เพื่อการก่อสร้างต่อไป ซึ่งโอกาสความเป็นไปได้ของการก่อสร้างสะพานเกือกม้าเพื่อให้รถจักรยานยนต์ได้ใช้กลับรถทั้ง 2 ฝั่ง ของสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนนั้น คือบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ฝั่งทางเข้าตำบลท่าฉลอม เป็นทางกลับรถเพื่อเข้ามาสมุทรสาครหรือ กทม. กับ หน้าสำนักงานหมวดทางหลวงมหาชัย เป็นทางกลับรถเพื่อเข้าสมุทรสาคร หรือ ท่าฉลอม ซึ่งก็ได้ให้สำนักสำรวจและออกแบบฯ ได้ทำการออกแบบเบื้องต้น และต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการอีกหลายชุด เพื่อให้แบบที่ออกมานั้นเกิดผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนน้อยที่สุด รวมถึงต้องไม่มีผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในอนาคต เช่น ทางยกระดับ เป็นต้น ซึ่งโอกาสความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์และรวดเร็วขึ้น เนื่องจากว่า งบประมาณที่ใช้เป็นงบประมาณที่ทาง อบจ.สมุทรสาครให้การสนับสนุน จึงไม่ได้ต้องขอไปยังกรมทางหลวงชนบท เป็นการลดขั้นตอนไปหลายอย่าง
         นายทรงฤทธิ์ฯ ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า สำหรับสะพานเกือกม้านี้ ถ้าทุกขั้นตอนผ่านและก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นสะพานเกือกม้าสำหรับรถจักรยานยนต์แห่งแรกของประเทศไทย

        ด้านนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ประสานงานของ อบจ.สมุทรสาคร ก็กล่าวว่า ที่มาของโครงการเกือกม้าสำหรับรถจักรยานยนต์นี้ เนื่องจาก สภาพการจราจรที่หนาแน่นบนถนนพระราม 2 โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบหรือวันหยุด จึงทำให้มีผู้ขับรถจักรยานยนต์ย้อนศรบนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนเป็นจำนวนมาก เพราะทางกลับรถที่มีอยู่ค่อนข้างจะไกล และยังจะก่อให้เกิดอันตรายขณะขับรถบนถนนพระราม 2 ในระยะที่ยาวไกล ดังนั้นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ที่ออกมาจากทางฝั่งท่าฉลอม บางหญ้าแพรก หรือ ตำบลท่าจีน จึงเลือกที่จะใช้วิธีการย้อนศรบนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ที่แม้จะอันตรายและผิดกฎหมาย แต่ก็ร่นระยะทางให้ใกล้ได้มากกว่า ซึ่งจากสภาพที่เกิดขึ้นนี้เอง ทางอบจ.สมุทรสาครและสมาชิกสภาในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ ก็ได้เล็งเห็นว่า หากมีทางสำหรับให้รถจักรยานยนต์ได้ใช้กลับรถเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาครในระยะที่ใกล้ขึ้น ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ได้น้อยลงและยังไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจราจรอีกด้วย จึงได้มีการหารือกับทางแขวงการทาง เพื่อหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการนำรูปแบบต่างๆ ของการสร้างสะพานลอยกลับรถสำหรับให้รถจักรยานยนต์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากเจ้าของที่ดินตรงบริเวณทางขึ้นและทางลง เพราะเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ค้าขาย ดังนั้นจึงได้มีการคิดต่อยอดไปอีกว่า ถ้ามีการก่อสร้างทางเกือกม้าที่จะดำเนินการก่อสร้างบนเขตทางของกรมทางฯ ก็จะไม่ไปบดบังพื้นที่การค้าขายของพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการสำรวจและออกแบบเบื้องต้นนั้น ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง  โดยในด้านงบประมาณที่ อบจ.สมุทรสาครจะให้การสนับสนุนนั้น ก็ได้มีการตั้งงบประมาณไว้ในแผน 3 ปี เพื่อการก่อสร้างสะพานกลับรถสำหรับรถจักรยานยนต์ โดยวางงบประมาณไว้ที่แห่งละประมาณ 20 ล้านบาท และหากรูปแบบผ่านเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการทำประชาพิจารณ์จากพี่น้องประชาชนก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีข้อติดขัดแต่ประการใด ก็จะนำข้อมูลทั้งหมดไปหารือและนำเรียนให้นายก อบจ.สมุทรสาครได้รับทราบ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมสภา อบจ.สมุทรสาคร เพื่อการพิจารณาอนุมัติต่อไป โดยคาดว่าหากทุกอย่างดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย ภายในเดือนสิงหาคมปี 60 ก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้
ทีมผู้สื่อข่าว

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น