pearleus

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

มท.น้อมนำแนวพระราชดำริ‏

กระทรวงมหาดไทย สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด น้อมนำแนวทางพระราชดำริเรื่องการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืน มาขยายผลสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม 

   วันนี้ (11ก.ย.59) นายกฤษฎา บุญราชปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ได้กำหนดมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนปฎิบัติการ ทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวมทั้งการเยียวยาประชาชนและการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดเหตุไปแล้ว นั้น 
     โดยที่กระทรวงมหาดไทยได้รับทราบว่าเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ให้แก่ผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมเข้าเฝ้าฯ ในโอกาสดังกล่าวด้วย ซึ่งพระราชดำริดังกล่าวนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรและแสดงให้เห็นพระอัจฉริยภาพในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ที่  ประกอบด้วย มาตรการ และวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ          
     ดังนั้น เพื่อเป็นการน้อมนำพระราชดำริดังกล่าวข้างต้น มาขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
ได้ทบทวนและปรับใช้แผนการปฎิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง  โดยในหนังสือสั่งการดังกล่าวกระทรวงมหาดไทยได้ส่งคลิปในยูทูปที่เป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้าเฝ้าฯเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ศึกษาและน้อมนำไปปฎิบัติในพื้นที่ด้วย  
   โดยให้จังหวัดตรวจสอบว่า พื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชกระแสรับสั่งถึงข้างต้นนั้น ในปัจจุบันได้มีการจัดทำโครงการ หรือดำเนินการตามพระราชดำริดังกล่าวไว้แล้วอย่างไร มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของโครงการและสถานภาพของโครงการในปัจจุบันเป็นอย่างไร และรายงานรายละเอียดดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทยทราบ
   และให้จังหวัดจัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดโดยเชิญผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานทั้งหมดที่รับผิดชอบเกี่ยวกับระบบน้ำ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดหรืออำเภอ รวมทั้ง หน่วยทหารพัฒนาหรือหน่วยทหารช่างในพื้นที่ หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม หน่วยงานทางด้านอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ ตลอดจนผู้มีประสบการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดและอำเภอในพื้นที่โครงการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกองค์กร  หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรรมจังหวัด ตลอดจนสถาบันการศึกษาที่มีภาควิชาเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาร่วมประชุมเพื่อศึกษาและน้อมนำพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งดังกล่าวข้างต้น มาปรับใช้เพื่อขยายผลให้สามารถดำเนินการในจังหวัดและอำเภอตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่
   โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ซึ่งมีภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน รวมทั้งเป็นหัวหน้าส่วนราชการหลักประจำพื้นที่ยึดมั่นในการทำงาน ถือปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท โดยหมั่นออกพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนอย่างทั่วถึงด้วยตนเอง เพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมทั้งศึกษาสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ให้ทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ สามารถอ่านและวิเคราะห์แผนที่เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารและการบูรณาการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่ และหาวิธีลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกันอย่างยั่งยืนตามแนวทางพระราชดำริ โดยให้พิจารณาศึกษาหาพื้นที่ระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก และพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งในบริเวณชายตลิ่งลุ่มน้ำหรือแม่น้ำสายต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีอยู่เดิมแล้วนำมาพัฒนาปรับปรุงใหม่โดยทำเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่เรียกว่า แก้มลิงหรือเหมือง/ฝายชะลอ น้ำขนาดเล็ก (check dam) หรืออ่างเก็บน้ำบ่อน้ำ สระน้ำ ที่เรียกว่า หลุมขนมครกก็ได้โดยพิจารณาหาพื้นที่สาธารณะหรือที่ดินของรัฐก่อน หากไม่มีขอให้พิจารณาพื้นที่ของประชาชนที่อาจใช้ได้ แล้วหาทางช่วยเหลือชดเชยหรือเยียวยาประชาชนที่ให้ใช้พื้นที่ทำโครงการตามระเบียบกฎหมาย หรือจัดทำเป็นโครงการเสนอให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินโครงการ 
     สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ขณะนี้ เริ่มมีฝนตกตามฤดูกาลมากขึ้น จึงได้แจ้งให้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำและอำนวยการระบบจราจรโดยใกล้ชิด และมีการติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 

      ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินการในภาพรวมนั้น ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จะได้ร่วมกัน ทบทวนแผนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งให้เป็นไปตามพระราชดำริข้างต้น และปรับให้สอดคล้องกับพื้นที่และสถานการณ์ในปัจจุบัน และจะพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเหลือจ่าย ปี 2559 หรือ งบประมาณพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการหรือพิจารณาเสนอของบประมาณของส่วนราชการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนโครงการของจังหวัดที่ส่งมาให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา รวมไปถึงจะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง เช่น กรมชลประทาน สำนักงาน กปร. มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงานดังกล่าวของหน่วยปฎิบัติงานในระดับพื้นที่ต่อไป 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น