pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ตีแผ่! "ปฏิบัติการฟ้าผ่าสมุทรสาคร" รวบต่างด้าวเถื่อนเกือบ 200 ชีวิต! "รองเขต" ควง "บิ๊กยอด" ลั่น! ใช้ไม้แข็งกวาดล้างพวก "พาสปอร์ตเปล่า" ไล่กลับประเทศด่วน!

สมุทรสาครเดือด! เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2568 ภายใต้การนำทัพอันดุดันของ ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร (รองเขต) และ พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (บิ๊กยอด) ได้ผนึกกำลังประกาศสงครามกับปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างเผ็ดร้อน ด้วยการบุกจู่โจมห้องแถว 80 ห้องใน ต.โคกขาม

14.30 น. นาทีต่อนาที! เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการผสม นำโดย พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, ตำรวจ สภ.โคกขาม และเจ้าหน้าที่จัดหางานสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นเป้าหมายทันที ผลที่ได้คือช็อกทั้งวงการ!

เปิดโปงกลโกง "พาสปอร์ตเปล่า"!

ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถรวบตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายได้เกือบ 200 คน! โดยพบว่าส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารแสดงตนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ที่น่าตกใจและเป็นกลโกงใหม่คือ บางรายพยายามอ้างว่า "มีพาสปอร์ต" แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าเป็นเพียง "พาสปอร์ตว่างเปล่า" หรือเอกสารเดินทางที่ไม่มีการประทับตราอนุญาตทำงานใด ๆ เท่ากับว่าเป็นการหลบหนีเข้าเมืองอย่างชัดเจน!

แหล่งข่าวระดับสูงระบุว่า แรงงานเถื่อนกลุ่มนี้ส่วนมากจะหลบหนีเข้ามาตามเส้นทางชายแดนทาง พญาตองซู บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะมีขบวนการนายหน้านำพามาซุกซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.โคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร

"รองเขต" ลั่น! ไม่ใช่แรงงาน แต่คือ "พวกหนีเข้าเมือง"!

หลังรับรายงานสถานการณ์อย่างเร่งด่วน ทั้ง "รองเขต" รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ และ "บิ๊กยอด" ผบก.ภ.จว.สค. ได้ออกมายืนยันหนักแน่นต่อสื่อมวลชนถึงแนวทางการจัดการที่เด็ดขาด

"คนที่อ้างว่ามีพาสปอร์ต แต่เป็นเพียงพาสปอร์ตเปล่า ๆ ที่ไม่มีที่ทำงาน และไม่มีการแจ้งดำเนินการอย่างถูกต้อง นั่นเท่ากับว่าพวกนี้ หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย! จะมาอ้างว่ารอขึ้นทะเบียนแรงงานนั้นไม่เป็นความจริงและไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย" รองเขตกล่าวอย่างเผ็ดร้อน

ด้าน "บิ๊กยอด" ผบก.สมุทรสาคร กล่าวเสริมเป็นเสียงเดียวกันถึงมาตรการขั้นเด็ดขาดว่า "เราต้องเร่งดำเนินการผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกไปนอกประเทศโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ!"

วอนประชาชน! ใครรู้เห็นแจ้ง 191 ได้ทันที!

ก่อนปิดท้ายการแถลงข่าว ทั้งสองท่านได้ฝากข้อความถึงพี่น้องชาวสมุทรสาครด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกคน หากมีเบาะแสหรือรู้เห็นแหล่งหลบซ่อนของต่างด้าวเถื่อน โปรดอย่าลังเล! แจ้งมาได้ที่ สายด่วน 191 สมุทรสาครยุคใหม่พร้อมรับเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องราว เพื่อสร้างความสุขและความปลอดภัยสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนคนสมุทรสาคร!"

นี่คือสัญญาณที่ชัดเจน! สมุทรสาครยุคนี้จะไม่มีที่ยืนให้แก่แรงงานเถื่อนและขบวนการผิดกฎหมายอีกต่อไป! ติดตามความคืบหน้าการกวาดล้างครั้งใหญ่ในพื้นที่ได้ในฉบับหน้า!

วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ถนน เจ็ดชั่วโคตร สะเทือน! พิพัฒน์ ลุยตรวจพระราม 2 สั่งเด็ดขาด ปิดช้า-เปิดเร็ว ปลุกผีถนนสายมรณะให้กลับมาปัง!

(สมุทรสาคร) - นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม บุกถึงที่ ถนนพระราม 2 (เจ็ดชั่วโคตร) เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 68 ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการยักษ์ M82 (ทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว) และทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง หลังถูกร้องเรียนสนั่นเมือง

การลงพื้นที่ครั้งนี้มี ร.ต.อ. เขตรัฐ ชาญศิลป์ รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ สมุทรสาคร และข้าราชการเกี่ยวข้องต้อนรับและรายงานความคืบหน้าอย่างละเอียด พิพัฒน์ สั่งเผ็ด! 5 ข้อเด็ด แก้ปัญหาวิกฤตพระราม 2 ทันที เร่งก่อสร้าง...แต่ห้ามลวก! ต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานวิศวกรรมและความปลอดภัยสูงสุด! จัดระเบียบพื้นที่ห้ามรกรุงรัง ให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด

  ติดตาข่ายด่วน! เพิ่มความปลอดภัยจุดเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะบริเวณ สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน สั่งติดตาข่ายกันวัสดุ (Safety net) ป้องกันของตกหล่นใส่รถข้างล่าง พร้อมแก้ปัญหาน้ำไหลจากสะพานลงถนนใหญ่ ห้ามเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน!

  เลื่อน เวลาปิด เอาใจคนกรุง! ปรับการจัดการจราจรให้สอดคล้องชีวิตจริงประชาชน สั่งเลื่อนเวลาปิดเส้นทางหลักจาก 19.00 น. เป็น 20.30 น. เพื่อบรรเทาผลกระทบชั่วโมงเร่งด่วน! และต้องคืนผิวจราจรภายใน 05.30 น. อย่างเคร่งครัด!

  ร่วมมือท้องถิ่น! ทำงานบูรณาการกับจังหวัด-เทศบาล ห้ามปิดถนนซ้ำซ้อน และรีบเปิดเส้นทางที่สร้างเสร็จบางส่วนเพื่อช่วยระบายรถ

  ปลุกศรัทธา! สั่งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วประเทศมั่นใจว่า ถนนพระราม 2 กำลังจะกลับมา ปลอดภัย น่าเชื่อมั่น และสะดวกในการเดินทาง

ทั้งนี้ โครงการ M82 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย คืองานโยธาเสร็จแล้ว เตรียมเปิดทดลองใช้ในวันที่ 22 ต.ค. นี้ เพื่อบรรเทาการจราจรไปสู่ภาคใต้

"วันตำรวจ 2568: 'ผู้พิทักษ์' แห่งสมุทรสาคร ผนึกกำลังสานศรัทธา! ผบก.นำทีมบวงสรวง 'หลวงพ่อเพชร' พร้อมสัญญายกระดับบริการ 191"

ข่าวจังหวัด: ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร จัดพิธี "วันตำรวจ" สุดเข้มขลัง ย้ำภารกิจ 'บำบัดทุกข์ บำรุงสุข' ให้ชาวประมงและโรงงาน

[สมุทรสาคร] เมื่อวันที่ [ระบุวันที่] ตุลาคม 2568 (พุธ) เวลา ๐๗.๑๐ น. เป็นต้นไป ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (ภ.จว.สมุทรสาคร) ได้จัดพิธี "วันตำรวจ" ประจำปี ๒๕๖๘ อย่างยิ่งใหญ่และเปี่ยมด้วยความศรัทธา โดยมี พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร) เป็นประธานนำคณะนายตำรวจระดับสูง ข้าราชการตำรวจ คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) และคณะแม่บ้านตำรวจ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง


บรรยากาศเริ่มด้วยพิธีที่เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่เช้าตรู่ โดยประธานในพิธีและคณะได้ร่วมกัน สักการะบูชาพระพุทธวชิรปราการ (หลวงพ่อเพชร) ณ หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อความเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจแก่เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จากนั้นจึงเข้าสู่พิธีสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ณ ที่ทำการ ภ.จว.สมุทรสาคร เพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาองค์กร





ไฮไลท์สำคัญคือ พิธีสงฆ์ ที่จัดขึ้น ณ อาคารศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ (๑๙๑) จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน พิธีนี้จัดขึ้นเวลา ๐๙.๕๙ น. โดยนิมนต์พระสงฆ์ ๙ รูป มาเจริญพระพุทธมนต์และรับถวายภัตตาหารเพลและเครื่องไทยธรรมจากคณะผู้บริหารและผู้เข้าร่วมพิธี



การจัดพิธีในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงความสำคัญของอาชีพตำรวจเท่านั้น แต่ยังเป็นการ ประกาศความพร้อม ในการดูแลความปลอดภัยให้กับพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญแห่งนี้ ทั้งในส่วนของการประมง อุตสาหกรรม และการเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า โดยการจัดพิธี ณ อาคาร ๑๙๑ นั้น เป็นการเน้นย้ำถึงพันธกิจในการ ยกระดับความรวดเร็วและประสิทธิภาพ ในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินของประชาชนชาวสมุทรสาคร




ผู้เข้าร่วมพิธีที่สำคัญ ประกอบด้วย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ทุกท่าน, ผู้กำกับการในส่วนงานสำคัญ (ฝ่ายอำนวยการ, สืบสวน, สอบสวน, และ สภ.เมืองฯ), คณะ กต.ตร.ทั้งในระดับจังหวัดและ สภ.เมืองฯ รวมถึงประธานและคณะแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งแต่งกายด้วยชุดกากีกระโปรงอย่างสง่างาม



ในการนี้ พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ได้กล่าวต่อที่ประชุมและสื่อมวลชน (ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธี) ว่า "วันตำรวจในปีนี้ เป็นการตอกย้ำว่า ตำรวจสมุทรสาครพร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชน เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาการทำงาน โดยเฉพาะงานสืบสวนและงานบริการ ๑๙๑ ให้ทันต่อสถานการณ์และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง"


การจัดงานวันตำรวจ ๒๕๖๘ ของ ภ.จว.สมุทรสาคร ในครั้งนี้ จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ และมุ่งมั่นที่จะสร้างความสงบสุขให้กับท้องถิ่นสมุทรสาครอย่างเต็มกำลัง

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568

🥥“มะพร้าวเรียกสุข คนบ้านแพ้วรวมใจวิ่ง เติมรอยยิ้มและน้ำใจให้ชุมชน”

“Trail Coconut & Running @Banphaeo” วิ่งสุขใจในสวนมะพร้าว เติมพลังสุขภาพ พร้อมส่งต่อความอบอุ่นสู่ชุมชน 💚

บรรยากาศสุดสดใสยามเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2568 ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กับกิจกรรม “Trail Coconut & Running @Banphaeo” ที่รวมพลังนักวิ่งสายสุขภาพกว่า 1,000 คน มาร่วมสัมผัสเสน่ห์ชุมชนสวนมะพร้าวและวิถีชีวิตบ้านแพ้วอันงดงาม

โดยมี นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

พร้อมด้วย นายขยพล รัตนวิสุทธิกุล

นายอำเภอบ้านแพ้ว กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์สำคัญของการจัดงาน เพื่อ

✅ ส่งเสริมการออกกำลังกายและสุขภาพที่ดี

✅ กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่

✅ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ชุมชน

✅ และสร้างความรัก ความสามัคคีของคนบ้านแพ้ว

พิธีเปิดเต็มไปด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วง ปล่อยตัวนักวิ่ง ที่บรรยากาศคึกคักอบอุ่น

• เวลา 05.45 น. ปล่อยตัวระยะ 10 กิโลเมตร

• เวลา 06.15 น. ปล่อยตัวระยะ 5 กิโลเมตร (นายอำเภอบ้านแพ้วร่วมวิ่งในระยะนี้ด้วย)

• และเวลา 06.20 น. ปล่อยตัวระยะ 3 กิโลเมตร

เส้นทางวิ่งครอบคลุมสวนมะพร้าวและคลองสายหลักของอำเภอบ้านแพ้ว เปิดมุมมองความเป็นไทยแท้ บ้านไม้ริมคลอง

เรือหางยาวล่องน้ำ และรอยยิ้มทักทายจากชาวบ้านที่สร้างบรรยากาศแห่งมิตรไมตรี

ไฮไลต์สุดอบอุ่น คือการได้รับเกียรติจาก นายปริพล ทัดแก้ว นายอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม มาร่วมวิ่งระยะ 5 กิโลเมตร เพิ่มสีสันและมิตรภาพระหว่างจังหวัดอย่างน่าประทับใจ

ที่สำคัญ — รายได้จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในเขตอำเภอบ้านแพ้ว เพื่อส่งต่อความสุขจากการวิ่ง สู่การแบ่งปันที่ยั่งยืนในชุมชน

ปิดท้ายด้วยคำขอบคุณจากใจผู้จัดงาน ถึง ผู้สนับสนุนหลักทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และจิตอาสาในพื้นที่ ที่ร่วมแรงร่วมใจให้กิจกรรม “Trail Coconut & Running @Banphaeo” ครั้งนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข และพลังแห่งความดีงามอย่างแท้จริง 🏃‍♀️🌴💚