เมื่อสองสัปดาห์ก่อนมีผู้มาปรึ กษาปัญหากฎหมายกับผม
โดยเรื่องมีอยู่ว่า เจ้ามรดกหรือผู้ตายมีทายาทที่ยั งมีชีวิตอยู่คือ แม่ และพี่น้องพ่อแม่เดียวกันอี กสามคน
ส่วนพ่อเสียชีวิตไปนานแล้ วและเจ้ามรดกเองไม่มีลูก จึงเกิดปัญหาขึ้นว่าใครบ้ างจะเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับทรั พย์สินของคนที่ตายนั้น
พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกันนั้ นจะมีสิทธิได้รับมรดกจากผู้ ตายหรือไม่
ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นประเด็ นที่น่าสนใจจึงได้นำมาอธิบาย ณ ที่นี้ดังนี้ครับ
....ในเรื่องของมรดกหรือทรัพย์ สมบัติของผู้ตายนั้น กฎหมายได้กำหนดให้ตกเป็ นของทายาท
ซึ่งทายาทแบ่งออกเป็ นสองประเภทคือ
1.ทายาทโดยธรรม คือคนที่มีความสัมพันธ์กั นทางสายเลือดหรือทางเครือญาติ
โดยกฎหมายแบ่งออกเป็นหกลำดั บตามความใกล้ชิดอันได้แก่ 1.1 ผู้สืบสันดานหรือลูกแท้ของผู้ ตายที่ถูกต้องตามกฎหมาย
มีความใกล้ชิดมากที่สุดจึงได้มี สิทธิรับมรดกเป็นลำดับแรก 1.2 พ่อแม่
1.3 พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน 1.4 พี่น้องร่วมพ่อหรือแม่เดียวกัน
1.5 ปู่ ย่า ตา ยาย 1.6 ลุง ป้า น้า
อากฎหมายให้ลำดับนี้มีความใกล้ ชิดน้อยที่สุดและเป็นคนกลุ่มสุ ดท้ายที่มีสิทธิได้รับมรดกจากผู ้ตายซึ่งสิทธิที่จะได้รั บมรดกของแต่ละลำดับอยู่ภายใต้ หลัก
ญาติสนิทตัดญาติห่าง คือ เมื่อกฎหมายแบ่งความใกล้ชิดสนิ ทกันตามลำดับ
ลำดับที่ 1.1 ใกล้ที่สุด และลำดับที่ 1.6 ห่างที่สุด และถ้ามีทายาทลำดับก่อนหน้า ลำดับถัดไปก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รั บทรัพย์มรดก
แต่มีข้อยกเว้นในกรณีของลำดับที ่ 1.1 กับ 1.2 กล่าวคือ
หากมีลูกซึ่งเป็นทายาทลำดับที่ 1.1 อยู่
พ่อแม่อันเป็นลำดับที่ 1.2 จะยังคงมีสิทธิ์ได้รับทรัพย์ มรดกอยู่
โดยเปรียบเสมือนว่าเป็นชั้นเดี ยวกันกับลูกในอันดับที่1.1 คือพ่อแม่ที่อยู่ในอันดับที่
1.2 จะมีสิทธิ์ได้รับทรัพย์มรดกเช่ นเดียวกับลูกซึ่งเป็นลำดับที่
1.1 โดยได้ส่วนแบ่งเท่าๆกัน
โดยการที่กฎหมายกำหนดข้อยกเว้ นเช่นนี้เพราะเป็นไปตามวั ฒนธรรมความกตัญญูรู้คุ ณของคนไทยเรานี่เองที่คำนึงถึ งพ่อแม่เสมอและปรากฏอยู่เป็ นการทั่วไปว่าคนไทยเราเลี้ยงดู บิดามารดาไปจนแก่เฒ่า
กฎหมายจึงได้กำหนดให้พ่อแม่มีสิ ทธิดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ดังนั้นในส่วนของทายาทโดยธรรมจึ งสามารถสรุปได้ว่า
หากผู้ตายมีลูกที่ถูกต้ องตามกฎหมาย คนที่มีสิทธิรับมรดกจากผู้ตาย
คือลูกและพ่อแม่ โดยได้รับคนละส่วนเท่าๆกัน ส่วนทายาทลำดับถัดไปอันได้แก่
พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน พี่น้องร่วมพ่อหรือแม่เดียวกัน ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า
น้า อา นั้นไม่มีสิทธิได้เลย และแม้ว่าผู้ตายจะไม่มีลูกหรื อหลาน มีเพียงพ่อแม่
ซึ่งเป็นทายาทลำดับที่ 1.2 ผลก็จะยังเหมือนกับที่ได้กล่ าวมาแล้ว
ลำดับถัดไปก็ยังคงไม่มีสิทธิได้ รับมรดกเช่นกัน ฉะนั้นในกรณีที่มีผู้มาปรึกษาข้ างต้นดังที่ผมได้เล่าไปนั้น
ผู้ที่มีสิทธิได้รับมรดกจากผู้ ตาย จึงมีเพียงแม่เพียงผู้เดียวครับ
แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ไม่มีทั้ งลูกหลานและพ่อแม่
สิทธิในการรับมรดกจึงจะตกไปยั งทายาทลำดับที่ 1.3 ถ้าลำดับที่ 1.4 ไม่มีก็จะตกกับลำดับถัดไปจนไปสุ ดท้ายที่ลำดับที่ 1.6
ครับ
2.ผู้รับพินัยกรรม คือคนที่ผู้ตายได้กำหนดไว้ในพิ นัยกรรมให้เป็นผู้มีสิทธิได้รั บทรัพย์สินของผู้ตายซึ่ งอาจจะเป็นบางส่วนหรือทั้ งหมดเลยก็ได้
ทำให้ทายาทที่เป็นผู้รับพินั ยกรรมนี้มีสิทธิดีกว่ าทายาทโดยธรรม กล่าวคือ
การแบ่งทรัพย์สินอันเป็นมรดกนั้ นจะต้องแบ่งให้กับผู้มีสิทธิได้ รับตามพินัยกรรมกำหนดก่อน
เหลือเท่าไรจึงนำมาแบ่งให้กั บทายาทโดยธรรมตามลำดับชั้น
และถ้าหากพินัยกรรมกำหนดให้ ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับผู้รั บมรดกตามพินัยกรรมไป
ทายาทโดยธรรมก็จะไม่ได้อะไรเลย
และจากกรณีที่ผมได้อธิบายไปแล้ วในตอนแรกนั้นหากผู้ตายต้ องการจะให้พี่น้องร่วมพ่อแม่เดี ยวกันหรือคนอื่นใดให้มีสิทธิได้ รับทรัพย์สินของตนด้วย
ก็สามารถทำได้โดยทำพินั ยกรรมและกำหนดเอาไว้ในพินั ยกรรมครับ
ดังนั้นผมจึงสรุปได้ว่า ทรัพย์สินของผู้ตายจะตกเป็ นของใครบ้างก่อนอื่นเราจะต้องพิ จารณาว่ามีพินัยกรรมหรือไม่
ถ้ามีก็ต้องแบ่งให้ตามพินั ยกรรมก่อน และถ้าแบ่งให้ตามพินัยกรรมแล้ วเหลือหรือไม่มีพินัยกรรมก็ นำมาแบ่งให้กับทายาทหกลำดับ
โดยอยู่ภายใต้หลักญาติสนิทตั ดญาติห่างตามที่กล่าวไปข้างต้ นครับ
....ในเรื่องของมรดกหรือทรัพย์
1.ทายาทโดยธรรม คือคนที่มีความสัมพันธ์กั
แต่มีข้อยกเว้นในกรณีของลำดับที
ดังนั้นในส่วนของทายาทโดยธรรมจึ
แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ไม่มีทั้
2.ผู้รับพินัยกรรม คือคนที่ผู้ตายได้กำหนดไว้ในพิ
และจากกรณีที่ผมได้อธิบายไปแล้
ดังนั้นผมจึงสรุปได้ว่า ทรัพย์สินของผู้ตายจะตกเป็
โดย ทนายประชาชน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น