pearleus

วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

พม. สะท้อนความเหลื่อมล้ำและความรุนแรงในสังคมย้ำแนวทาง "ประชารัฐ" ไขปมปัญหา


เมื่อวันที่   9 ก.ค. 60 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับเชิญเป็นวิทยากรปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "ความเหลื่อมล้ำและความรุนแรงในสังคมไทย" เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ครบรอบ 35 ปี ซึ่งได้บรรยายถ่ายทอดผลงานรัฐบาลที่สำคัญ โดยเฉพาะผลการดำเนินงานของ พม. ที่เร่งขับเคลื่อนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
นางสาวอนุสรี กล่าวว่า เมื่อเกิดความเหลื่อมล้ำด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน รายได้ โอกาสทำงาน การศึกษา การบริการสุขภาพ ก็จะเกิดการผลักดันให้เกิดความขัดแย้ง และเมื่อเกิดความขัดแย้งก็จะเกิดความรุนแรงจากความไม่พอใจจากสภาพความเหลื่อมล้ำต่างๆที่เกิดขึ้น จนเกิดความรุนแรงในสังคมที่มีมากมาย ไม่ว่าจะมาจากปัญหาอาชญากรรม ปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ตลอดจนปัญหาความรุนแรงต่อผู้สูงอายุ ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมมีทั้งที่กระทำต่อผู้อื่น และที่กระทำต่อตนเอง
นางสาวอนุสรี   กล่าวต่อว่า ภาครัฐไม่ได้เพิกเฉยต่อทุกปัญหา ต่างเร่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความรุนแรงในสังคมไทย โดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย โดยจะเห็นได้จากการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร อีกทั้งเร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์ โดยประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการดำเนินการตามมาตรฐานสากล 5P ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน ซึ่งมีการมอบเงินอุดหนุนแก่เด็กแรกเกิด และส่งเสริมสถานเลี้ยงเด็กต้นแบบ นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เช่น เพิ่มเบี้ยความพิการจาก 500 เป็น 800 บาทต่อเดือน สร้างชุมชนต้นแบบอารยสถาปัตย์ ส่งเสริมการจ้างงานในสถานประกอบการภาคเอกชน และภาครัฐ

อีกทั้งพัฒนาศักยภาพนักร้องตาบอดในที่สาธารณะจากถนนสู่ดวงดาว และที่ขาดไม่ได้คือการเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพ จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัย สนับสนุนอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ส่งเสริมด้านอาชีพและการมีงานทำแก่ผู้สูงอายุ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและครอบครัว โดยการเสริมสร้างและพัฒนากลไกต้นแบบลดความรุนแรงผ่านโครงการตำบลเข้มแข็งไร้ความรุนแรง 874 แห่ง พัฒนาทักษะอาชีพสตรีด้อยโอกาส 28,203 คน สร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือหญิงไทยในต่างประเทศ โดยได้จัดทำเว็บไซต์หญิงไทย (www.yingthai.net) และแอพพลิเคชั่น “Yingthai” เพื่อเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่มีประโยชน์
รวมทั้งการติดต่อสอบถามและแจ้งขอรับความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาต่าง ๆ ตลอดจนเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลที่จำเป็น มีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการถูกเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาคนขอทานและคนไร้ที่พึ่งอย่างครบวงจรและยั่งยืน ตามหลัก 3P มีการจัดระเบียบขอทาน และจัดทำโครงการธัญบุรีโมเดลใน 11 สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพคนขอทานในทุกมิติก่อนกลับสู่สังคมและครอบครัว และยังได้พัฒนาสายด่วน 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคมให้สามารถติดต่อได้ทั่วโลกอีกด้วย
"เราจะช่วยกันแก้ปัญหาตั้งแต่ตัวเรา ครอบครัว สังคม ซึ่งรัฐบาลอย่างเดียวคงจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างไม่ได้ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือของภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน ภายใต้โครงการประชารัฐ ในการประคับประคองสังคมให้สามารถลดความเหลื่อมล้ำและความรุนแรงได้มากที่สุด เพื่อสังคมที่มีความสุข สงบ สามัคคี และมีความร่มเย็น อย่างที่เราเคยเชื่อว่านี่คือสังคมไทยที่แท้จริง" นางสาวอนุสรี  กล่าวในตอนท้าย

----------------

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น