pearleus

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

รมว.มท. เป็นประธานพิธีลงนาม MOU โครงการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงาน ในกิจการประปาส่วนภูมิภาค ระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับ การประปาส่วนภูมิภาค

     

 เมื่อ 26 ธ.ค.59 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนาม MOU โครงการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงานในการประปาส่วนภูมิภาค ระหว่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับ การประปาส่วนภูมิภาค โดยมี นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูง  ของกระทรวงมหาดไทย และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

          โอกาสนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ รักษาการประธานกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์  ของการลงนาม MOU ในครั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันในการบริหารจัดการและพัฒนาเทคโนโลยี สนับสนุนให้การประปาส่วนภูมิภาค มีความรู้ ความเข้าใจในคุณค่าของพลังงาน รู้จักวิธีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างภูมิคุ้มกันด้านการจัดการพลังงานในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติพลังงาน รวมทั้งการลดภาวะโลกร้อน

          ด้านนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ประธานกรรมการบริหารของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า PEA  พร้อมสนับสนุน กปภ. ในรูปแบบของการจัดการพลังงานแบบครบวงจร ได้แก่ การสำรวจ ตรวจสอบและวิเคราะห์   การใช้พลังงาน เพื่อประเมินศักยภาพ และนำเสนอมาตรการประหยัดพลังงานสำหรับ กปภ. พร้อมทั้งดำเนินการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานให้กับ กปภ. เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการประหยัดพลังงาน ของประเทศชาติอีกทางหนึ่ง

          สำหรับการลงนามใน MOU ครั้งนี้มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ รักษาการประธานกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ประธานกรรมการบริหาร   ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เป็นผู้ลงนามใน MOU โดยทั้งสองฝ่ายตกลงจะร่วมกันดำเนินงานแบบบูรณาการ โดยใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่เหมาะสมนำมาปรับใช้ทั้งในด้านการบริหารจัดการและด้านเทคโนโลยี

          พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประปาส่วนภูมิภาค และ     การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ    ในการสร้างระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทั้งด้านระบบไฟฟ้าและประปา   ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เป็นตัวอย่างที่ดี   และสามารถต่อยอดไปสู่ความยั่งยืนของระบบประหยัดพลังงานของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการช่วย   ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ประเทศต้องสูญเสียไปอย่างมหาศาลในแต่ละปี และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยที่ต้องการให้เกิดการบริหารจัดการที่ดีของงานบริการประชาชน ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงาน เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป








0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น