คืนคนดีสู่สังคม

“จับมือ 6 ฝ่าย พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังในยุค 4.0 คืนคนดีสู่สังคม ”

วันที่ 21 กันยายน 2560  เวลา 09.00 นาฬิกา นายกิตติพัฒน์  เดชะพหุล  รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในการประชุมร่วมมือ 6 ฝ่าย พร้อมศึกษาดูงานการพัฒนาพฤตินิสัย ตามโครงการ “การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังเพื่อคืนคนดีสู่สังคม  กรณี ความร่วมมือระหว่างสภาพัฒนาสังคมภาคประชาชน กับเรือนจำพิเศษธนบุรี และกลุ่มงานพัฒนาระบบ  การพัฒนาพฤตินิสัย” ณ  เรือนจำพิเศษธนบุรี

นายกิตติพัฒน์  เดชะพหุล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์  กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้จัดการประชุมร่วม 6 ฝ่าย ประกอบด้วย ผู้ต้องขัง ญาติ ผู้แทนชุมขนภาคประชาชนเขตกรุงเทพมหานคร   ทั้ง 50 เขต เจ้าหน้าที่เรือนจำ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และสื่อมวลชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังเพื่อคืนคนดีสู่สังคม” กรณีความร่วมมือระหว่างสภาพัฒนาสังคมภาคประชาชน กับเรือนจำพิเศษธนบุรี และกลุ่มงานพัฒนาระบบการพัฒนาพฤตินิสัย” เนื่องจากเวที การสัมมนา “ทิศทางการพัฒนาพฤตินิสัยสู่ภาครัฐแนวใหม่” เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ได้เล็งเห็นความสำคัญ และเห็นความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง  เพื่อคืนคนดีสู่สังคม เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังได้เพียงลำพัง รวมทั้งผู้ต้องขังเมื่อได้รับการปล่อยตัวต่างก็เป็นสมาชิกของสังคม ซึ่งหากสังคมไม่ยอมรับ หรือผลักเขาออกจากสังคม เขาก็จะกระทำผิดซ้ำสังคมจะได้รับผลกระทบด้วย

          นายกิตติพัฒน์ฯ กล่าวต่อไปว่า การดำเนินกิจกรรมตามโครงการข้างต้น นอกจากจะจัดให้ศึกษาดูงานในเรือนจำ และจัดประชุมร่วมเพื่อจัดทำรูปแบบแนวทางการดำเนินงานร่วมกันแล้วในส่วนของชุมชน  โดยการนำของท่านสุพจน์  ภูมิใจกุลวัฒน์ ประธานสภาพัฒนาสังคมภาคประชาชน ผู้แทนภาคประชาชนทั้ง 50 เขต ญาติผู้ต้องขัง สื่อมวลชนและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง จะได้มีแผนงานร่วมกันในการเตรียมความพร้อมครอบครัว ชุมชน และสังคม ในการให้โอกาสแก่ผู้ได้รับการปล่อยตัวซึ่งเป็นบุตรหลาน สมาชิกของชุมชน ได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และเป็นต้นแบบในการทำงานแบบ มีส่วนร่วมสำหรับพื้นที่อื่นๆ นำไปปรับใช้ต่อไป ซึ่งนับว่า      จะเป็นการยกระดับคุณค่าของผู้เคยต้องโทษ ในการเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของครอบครัว ชุมชน และสังคม สอดคล้องกับทิศทางพัฒนาในยุค 4.0แล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทเนสท์เล่ ประเทศไทย มอบเครื่องมือและอุปกรณ์การประกอบอาชีพ และมูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี มอบหนังสือมนต์พิธีฯ สำหรับผู้ต้องขังได้ศึกษาต่อไป

Posted in: