วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ที่ห้องประชุมโรงแรมริเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายชุมพล
พิชญชัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม
เปิดการฝึกการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด ด้านอุบัติเหตุทางถนนและภัยจากสารเคมี
โดยการฝึกแบบบนโต๊ะ ( Table
Top Exercise : TTX) เพื่อให้ความรู้แก่ส่วนราชการระดับจังหวัด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานระดับอำเภอ
เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
ในเรื่องระบบบัญชาการเหตุการณ์ อีกทั้งจัดระบบและบริหารจัดการทรัพยากรและความรับผิดชอบในการเผชิญเหตุการณ์ฉุกเฉิน
และความรู้เกี่ยวกับสารเคมีและวัตถุอันตราย ตลอดจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
ซึ่งจะดำเนินการฝึกเต็มรูปแบบ ( Full Scale Exercise : FSE)
ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ณ บริเวณถนนเพชรเกษม หน้าโรงพยาบาลสามพราน
ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร โดยการจำลองสถานการณ์เกิดรถบรรทุกสารเคมีชนกับรถโดยสารที่รับส่งพนักงานบริษัท
ทำให้รถบรรทุกสารเคมีเสียหาย สารเคมีเกิดรั่วไหลลงพื้นถนนมีกลุ่มควันฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ
ทำให้ผู้โดยสารสูดดมเอาก๊าซที่รั่วไหลเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน บางคนหมดสติ
ประกอบกับบริเวณดังกล่าวอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลสามพราน และใกล้กับสี่แยกเส้นเข้าอำเภอสามพราน
มีการจราจรหนาแน่น สารเคมีที่รั่วไหลได้ไหลลงท่อระบายน้ำทำให้เกิดกลุ่มควันบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลสามพรานจำนวนมากและฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ
ผู้ที่มาติดต่อโรงพยาบาลสามพรานและคนไข้ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่สูดดมควันดังกล่าว
เกิดอาการคลื่นไส้ บางคนอาเจียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน
ได้สั่งเจ้าหน้าที่เตรียมอพยพคนไข้ในโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงและส่งผู้ป่วยที่วิกฤตไปโรงพยาบาลนครปฐม
ซึ่งเจ้าหน้าที่จากอำเภอสามพราน เทศบาลเมืองสามพราน เทศบาลเมืองไร่ขิง
ได้เข้าระงับเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรสามพราน
อำนวยความสะดวกในการจราจร และเนื่องจากสารเคมีดังกล่าวเป็นอันตรายจากการสูดดมเข้าไปจึงต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง
และอุปกรณ์เก็บกู้สารเคมีเพื่อยุติการรั่วไหล และคืนพื้นที่การจราจรให้แก่ประชาชนสัญจรได้ตามปกติ
จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่และผู้สัญจรไปมาได้รับทราบพร้อมวางแผนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรหนาแน่นบริเวณถนนเพชรเกษม
หน้าโรงพยาบาลสามพราน อำเภอสามพรราน ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 09.30
น. ถึงเวลา 12.00 น.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น