pearleus

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"Dsi"จับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ (บังคับค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย)

         วันนี้ (วันที่ 24 กรกฎาคม 2558) เวลา 11.00 น. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม 3 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์หลอกลวงผู้หญิงไทยผ่าน Facebook ไปบังคับค้าประเวณีในประเทศมาเลเซียศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานข้อมูลจากมูลนิธิฟรีแลนด์ว่า มีหญิงไทยขอความช่วยเหลือจากการถูกนายหน้าชาวต่างชาติและภรรยาคนไทยหลอกลวงบังคับให้ค้าประเวณีในพื้นที่ย่านกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ภายหลังผู้เสียหายได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมูลนิธิฟรีแลนด์ได้เดินทางไปรับผู้เสียหายที่สนามบิน และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว
                ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหากับพวก มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทาง Facebook โดยใช้ชื่อว่านายสตีเว่น โลว์, นายสตีเว่น พัทยา ฯลฯ อ้างว่าตนเองมีหุ้นส่วนในกิจการหลายประเภท เช่น ร้านสปา ร้านคาราโอเกะในโรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีรายได้ประมาณ 100,000 บาทต่อเดือน นายสตีเว่นฯ จะเป็นคนพาผู้เสียหายไปกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยรถทัวร์ แต่เมื่อผู้เสียหายถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์กลับปรากฏว่าสถานที่ทำงานไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ โดยนายสตีเว่นฯ ได้ขายผู้เสียหายให้กับผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย เป็นผู้ควบคุมผู้เสียหาย โดยผู้เสียหาย  ตกเป็นหนี้จำนวน 30,000 บาท และจะต้องหักหนี้จากค่าจ้างการทำงาน ผู้เสียหายจะต้องทำงานในสถานที่ที่ผู้ต้องหากำหนดไว้ให้ ซึ่งมีสภาพบังคับให้ค้าประเวณีโดยที่ผู้เสี
ยหายไม่เต็มใจ มีคนคอยควบคุมผู้เสียหายตลอดเวลา ผู้เสียหายอาศัยอยู่ในบ้านพักที่มีการล็อคประตูจากด้านนอก และมีคนคอยควบคุมประตูเข้าออกสถานที่ทำงานด้วยรีโมทคอนโทรล ผู้เสียหายบางรายถูกยึดหนังสือเดินทาง กรณีนี้ผู้เสียสามารถหลบหนีออกมาได้ และได้ขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคดีนี้เป็นความผิดตามกฎหมายไทยได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทย อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ต่อมาศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย เป็นชาวมาเลเซียจำนวน 2 ราย ชาวไทย 2 ราย และเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2558 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย ได้แก่


1.นายเค็ง เซียง โลว์ (Mr.Kheng Hsiang Low) หรือ นายสตีเว่น โลว์ ชาวมาเลเซียจับกุมได้ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต
2.นางรัชดาพรรณ หรือนุ หรือนุช แสนเกษม จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพักย่านบางบอน-บางขุนเทียน
3.นางกัลยา สมศรี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
                ในความผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม กระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยการบังคับค้าประเวณี ร่วมกันกระทำเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันตั้งแต่
5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ
โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน
ในต่างประเทศได้
รองวุฒิ ชี้ชัดรายงาน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น