pearleus
สายตรวจชุด 2
จับหนุ่มเลือดร้อนพร้อมอาวุธปืนเจอข้อหาผิดมือ
ทำให้ผู้อื่นรับอันตราย ขณะคู่กรณีชาวพม่าถูกขู่ไม่กล้าเข้าพบตำรวจ ก่อนเล่าเหตุการณ์ว่าให้สตางค์
ลูกสาววัย 3 ขวบ ไปซื้อขนมแต่ได้ลูกแก้วบอกลูกกินไม่ได้เดินถือมาขอเปลี่ยนที่ร้านก่อนมีปากเสียงกับเมียเจ้าของร้านถูกด่า ตนจึงโยนถุงลูกแก้วทิ้งสร้างความไม่พอใจฝ่ายผัวถือปืน
ออกมาขู่เมียปัดมือทำให้กระสุนลั่นลงพื้นถากหัวบาดเจ็บล่าสุดเตรียมร้องLPNช่วยเหลือ..
เมื่อ 23เม.ย. 59 เวลา 13.26 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุศูนย์ สาคร รับแจ้งทาง 191ว่าพลเมืองดีแจ้งว่ามีเหตุชาวพม่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บภายในตลาดกุ้งกลางสมุทรสาคร ถ.พระราม 2 ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จึงได้ประสานมายังศูนย์วิทยุนรสิงห์ สภ.เมืองสมุทรสาครก่อนให้เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ต.อนุชา จิตนิยม สวป.พร้อมด้วยสายตรวจรถจักรยานยนต์ชุดที่ 20 เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบชาวพม่ากว่าครึ่งร้อยต่างส่งเสียงร้องเนื่องจากมีผู้ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บยืนกุมขมับเลือดไหลอาบเมื่อสอบถามจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของร้านขายของชำหลังก่อเหตุได้หลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในร้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามเข้าไปจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุก่อนคุมตัวมาสอบสวน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าเป็นชาวพม่าได้ให้ไปทำแผลเนื่องจากถูกกระสุนปืนถากที่ขมับขวา
จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุคือ นายเจษฎา พรหมใจรักษ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ที่ 7 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร อาชีพค้าขาย ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจยึดมาเป็นปืนพกสั้นกึ่งออโต้เมติก ขนาด 9 มม .ยี่ห้อ นอรินโก โดยกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์กระทำโดยประมาทและ การกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจรวม 3 ข้อหา นำตัว ส่งพนักงานสอบสวนและประกันตัวออกมาในวงเงิน150,000 บาท
ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถามถึงเหตุการณ์ในตลาดกุ้งและได้พบกับ นายหม่องไทย อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า อาชีพเป็นพนักงานทำความสะอาดตลาดกุ้ง บริษัทโอเว่อร์ซีแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด คนเจ็บที่ถูกกระสุนปืนถากที่ขมับขวาเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ให้สตางค์ลูกสาว ด.ญ.แงแง อายุ 3 ขวบ 5 บาท เพื่อซื้อขนมกินแต่พอลูกสาวเดินกลับ มาในมือถือถุงลูกแก้วจึงบอกลูกว่ามันไม่ใช่ขนมกินไม่ได้จึงอุ้มคนเล็กและพาลูกสาวไปที่ร้านขายของขอเปลี่ยนคืนลูกแก้วเป็นขนมแต่ถูกปฎิเสธจนมีปากเสียงกับเมียคนก่อเหตุถึงขั้นด่าด้วยคำหยาบคายทำให้ตนโมโหจึงโยนถุงลูกแก้วทิ้งระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาในมือถือปืนทำท่าจ่อข่มขู่จะยิงแต่ถูกฝ่ายเมียใช้มือปัดทำให้กระสุนไปกระทบพื้นปูนต์กระเด็นมาถากที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ตน ไม่ได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะมีคนมาข่มขู่ซึ่งตนและเพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากทาง มูลนิธิ LPN ต่อไป.
เมื่อ 23เม.ย. 59 เวลา 13.26 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุศูนย์ สาคร รับแจ้งทาง 191ว่าพลเมืองดีแจ้งว่ามีเหตุชาวพม่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บภายในตลาดกุ้งกลางสมุทรสาคร ถ.พระราม 2 ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จึงได้ประสานมายังศูนย์วิทยุนรสิงห์ สภ.เมืองสมุทรสาครก่อนให้เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ต.อนุชา จิตนิยม สวป.พร้อมด้วยสายตรวจรถจักรยานยนต์ชุดที่ 20 เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบชาวพม่ากว่าครึ่งร้อยต่างส่งเสียงร้องเนื่องจากมีผู้ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บยืนกุมขมับเลือดไหลอาบเมื่อสอบถามจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของร้านขายของชำหลังก่อเหตุได้หลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในร้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามเข้าไปจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุก่อนคุมตัวมาสอบสวน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าเป็นชาวพม่าได้ให้ไปทำแผลเนื่องจากถูกกระสุนปืนถากที่ขมับขวา
จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุคือ นายเจษฎา พรหมใจรักษ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ที่ 7 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร อาชีพค้าขาย ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจยึดมาเป็นปืนพกสั้นกึ่งออโต้เมติก ขนาด 9 มม .ยี่ห้อ นอรินโก โดยกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์กระทำโดยประมาทและ การกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจรวม 3 ข้อหา นำตัว ส่งพนักงานสอบสวนและประกันตัวออกมาในวงเงิน150,000 บาท
ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถามถึงเหตุการณ์ในตลาดกุ้งและได้พบกับ นายหม่องไทย อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า อาชีพเป็นพนักงานทำความสะอาดตลาดกุ้ง บริษัทโอเว่อร์ซีแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด คนเจ็บที่ถูกกระสุนปืนถากที่ขมับขวาเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ให้สตางค์ลูกสาว ด.ญ.แงแง อายุ 3 ขวบ 5 บาท เพื่อซื้อขนมกินแต่พอลูกสาวเดินกลับ มาในมือถือถุงลูกแก้วจึงบอกลูกว่ามันไม่ใช่ขนมกินไม่ได้จึงอุ้มคนเล็กและพาลูกสาวไปที่ร้านขายของขอเปลี่ยนคืนลูกแก้วเป็นขนมแต่ถูกปฎิเสธจนมีปากเสียงกับเมียคนก่อเหตุถึงขั้นด่าด้วยคำหยาบคายทำให้ตนโมโหจึงโยนถุงลูกแก้วทิ้งระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาในมือถือปืนทำท่าจ่อข่มขู่จะยิงแต่ถูกฝ่ายเมียใช้มือปัดทำให้กระสุนไปกระทบพื้นปูนต์กระเด็นมาถากที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ตน ไม่ได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะมีคนมาข่มขู่ซึ่งตนและเพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากทาง มูลนิธิ LPN ต่อไป.
เงาพญาราหู รายงาน
เงาพญา
เงาพญา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น