เมื่อ 6 มี.ค.60 เวลา 15:00 น. ณ ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไ ทย เป็นประธานการประชุมร่วมกับนายอุ ตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรร ม เพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริม และพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนา ดย่อม (SMEs) ตามแนวประชารัฐ ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) ไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้เข้าประชุมฯ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พัฒนาการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คลังจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด แรงงานจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเครื อข่าย SMEs รวมไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวั ด เข้าร่วมการประชุมฯ
ในการประชุมฯ นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไ ทย กล่าวว่ารัฐบาลได้มีนโยบายส่งเส ริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบ การเอสเอ็มอีและให้ความสำคัญกั บเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่ อง เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อย โดยการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้สมดุ ลมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจใน ระดับฐานราก สร้างความเข้มแข็งภายในประเทศตา มนโยบาย Thailand 4.0
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงอุตสาห กรรมได้สรุปแนวทางการส่งเสริ มและพัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐที่จะดำเนินการต่ อไป อาทิ การดำเนินงานของกองทุนพัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐ การจัดตั้งศูนย์สนับสนุนและให้ก ารช่วยเหลือเอสเอ็มอี การแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเอสเ อ็มอีตามแนวประชารัฐจังหวัด และแนวทางการดำเนินงานของจังหวั ดเพื่อรองรับการดำเนินงานในอนาค ต
สำหรับกรอบการส่งเสริมและพัฒนา SMEs นั้น จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนา เอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจั งหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรอ งผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รั บมอบหมายเป็นประธาน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกช นที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ และอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นกรรมกา รและเลขานุการ ซึ่งคณะกรรมการฯ ดังกล่าว จะทำหน้าที่กำหนดทิศทางและนโยบา ยในการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็ มอีของจังหวัดในเชิงบูรณาการ ดำเนินการเสนอกรอบแผนงาน/โครงกา รส่งเสริมและพัฒนา SMEs ของจังหวัดให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเพิ่มบทบาทหน้าที่ของสำนั กงานอุตสาหกรรมจังหวัดในการเป็ นศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลื อเอสเอ็มอี (SMEs Support and Rescue Center) นำไปสู่การปฏิบัติและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็ม อีตามแนวประชารัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 โดยเป็นกองทุนตามพระราชบัญญัติบ ริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ.2558 เพื่อเป็นทุนช่วยเหลือด้านเงินทุ นควบคู่กับการส่งเสริมกระบวนการ ส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและการบริ หารจัดการให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs มีการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากไปสู่อุ ตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงตามยุทธศ าสตร์ชาติและยุทธศาสตร์การปฏิรู ปประเทศไทยที่สอดคล้องตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาด ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้จะเป็นประโยชน์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราช การจังหวัดถือเป็นกลไกสำคัญต่ อการบริหารจัดการ และผลักดันให้ SMEs เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการสร้างการรับรู้และความเข้ าใจบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมสร้าง สรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนจัง หวัด แผนกลุ่มจังหวัด เพื่อให้เกิดขับเคลื่อนอย่างเป็ นรูปธรรม ก่อให้เกิดมรรคผลตามนโยบายรัฐบา ลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของปร ะเทศไทยต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น