pearleus

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ชวน“แต่งชุดไทย ไปอยุธยา” แรลลี่รถตุ๊กตุ๊ก ตามรอยเส้นทางมรดกโลก18-19ส.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมด้วย นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา และ พิตต้า ณ พัทลุง แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “แต่งชุดไทย ไปอยุธยา”   ในโครงการแรลลี่ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19  สิงหาคม 2561  ณ เรือนไทยสยามธานี 
ดร.สุจินต์  กล่าวว่า  การจัดแรลลี่ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนคนรุ่นหลังเกิดความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพมหากษัตริย์ ได้เกิดความรู้ความเข้าใจ และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมประเพณีไทยในอดีตอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นอีกด้วย โดยในงานนั้นจะเป็นการจัด Rally ตามรอยเส้นทางมรดกโลก ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2534 ทั้งนี้ทางอำเภอจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น ด้วยการคิดรูปแบบการจัด Rally ด้วยรถตุ๊กตุ๊ก ที่เป็นรถโดยสารที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับความสะดวกสบายในการร่วมกิจกรรม ร่วมถึงการได้เรียนรู้ประเพณีวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยในสมัยก่อน เช่น การเปิบข้าวด้วยมือ การทานอาหารข้าวห่อใบบัว การใช้ติหมาเป็นภาชนะแทนแก้ว การละเล่นแบบไทยๆ ตามจุด TC ต่างๆ อันได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดมงคลบพิตร , วัดมหาธาตุ , วัดราชบูรณะ และ วัดไชยวัฒนาราม

ทั้งนี้เปิดรับสมัครทั้งสิ้น 250 ทีม ทีมละ 2 คน โดยจะต้องมีตัวแทนแต่งชุดไทยอย่างน้อย 1 คนในการเข้าร่วมกิจกรม  พร้อมค่าสมัครจำนวน 1,000 บาทต่อทีม (รวมค่าอาหารและที่พักจำนวน  1 คืน) ในงานนอกจากความสนุกและความรู้ที่ได้รับแล้ว ยังมีรางวัลต่างๆ มอบให้อีกด้วยช่องทางการสมัคร Facebook :แรลลี่แต่งชุดไทย-ไปอยุธยา  Line ID :ayarally2018 โทรศัพท์ : 088-152-8888


******************

เตือนภัย! เด็กปั้มแอบรูดบัตร เดบิต วีซ่า ลูกค้าเติมน้ำมัน เกมส์ออนไลน์ ROV หลายพันบาท


เมื่อวันที่ 29 ก.ค 61 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.15 น ผู้เสียหายได้เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งแถวพุทธมณฑล สาย5 โดยใช้บัตรเดบิตวีซ่าของธนาคารกรุง... จ่ายค่าเติมน้ำมันยอดเงิน 680 บาท และระหว่างนั้นก็ได้เดินทางไปซื้อของต่อที่จตุจักร กทม.เวลาประมาณ 13.00 น ปรากฏว่า sms ในโทรศัพท์ได้เด้งยอดเงินหักออกรัวๆ เริ่มจากเวลา 13.01-13.21 น. เป็นการกดยอดออก 8 ครั้งติดกันและสักพักธนาคารแผนกเช็คความเสี่ยงก็โทรมาว่าเราได้มีการกดเงินซื้อไอเท็มในเกมส์ออนไลน์ ROV จากเลขบัตรดังกล่าวหรือไม่ เราก็ได้แจ้งกับทางธนาคารว่าไม่นะไม่เคยเล่นเกมส์นี้ และโทรศัพท์ก็อยู่กับเราจะไปกดเล่นซื้อไอเท็มเกมส์ได้ไง ธนาคารก็ถามอีกว่าเราได้ให้บัตรกับใครและใครใช้บัตรใบนี้บ้าง เราก็ตอบว่าไม่เคยนะ วันนี้เพิ่งใช้บัตรนี้เติมน้ำมันเมื่อไม่นานนี่เอง และวันนี้ยังไม่ได้ใช้บัตรใบนี้เลย ทางธนาคารเลยบอกว่าอาจจะเป็นเด็กปั๊มหรือเปล่า เราก็ งง! เด็กปั๊มจะมาใช้บัตรเราเล่นเกมส์ได้ไง
ธนาคารบอกว่า ทำได้แค่จดหมายเลขบัตรด้านหน้าและด้านหลัง ก็สามารถเข้าซื้อไอเท็มได้แล้ว  มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ในระหว่างนั้นเราก็บอกให้ระงับการสั่งจ่ายอายัตบัตรไว้ ธนาคารเลยแนะนำให้เราไปแจ้งความกับตำรวจและเอาใบแจ้งความไปที่ สนง ที่เราได้ทำบัตรไว้แล้วเปลี่ยนบัตรใหม่ หลังจากนั้นเราก็ได้เดินทางไปที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม พื้นที่รับผิดชอบพื้นที่นั้นอยู่พอไปถึงได้ไปที่ร้อยเวรเพื่อบอกเล่ารายละเอียดและได้ลงบันทึกประจำวันทำสำนวนต่างๆซึ่งเราเล่าไปตำรวจยัง งง! และตกใจว่า มีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยเหรอแล้วเราเป็นเคนแรก และถ้าเป็นแบบนี้จริงคือความปลอดภัยของผู้ใช้บัตรอยู่ตรงใหน แค่จดหมายเลขบัตรก็สามารถเอาเงินเราออกจากบัญชีได้แล้วคือผู้หมวดที่ทำสำนวนยังถึงขั้นเอาบัตรตัวเองออกมาเทียบแล้วบอกว่าเหมือนกันเป๊ะเลย ผมก็ใช้บัตรนี้บ่อย เพราะทุกคนสามารถเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ทุกคนคะ เพราะทุกวันนี้เราใช้บัตรเดบิต-เครดิตในชีวิตประจำวันแทบทุกธุรกรรม และเค้ายัง งงๆ เราเลยต่อสายให้คุยกับทางธนาคารที่คุยกับเราโดยตรง ปรากฏว่ามันทำได้จริงๆ จากนั้นทางร้อยเวรเลยแจ้งว่าจะให้สายสืบเข้าไปสอบสวนจัดการเรื่องนี้ว่าเป็นมาเป็นไปยังไงมีมูลมากน้อยแค่ใหน หลังจากเขียนสำนวนลงในบันทึกประจำวันก็ได้เข้าห้องสอบสวนและคุยถึงรายละเอียดและได้ตัดสินใจไปที่เกิดเหตุเพื่อจะไปชี้ตัวผู้ต้องสงสัยว่าคนใหน ต่อจากนั้นเราและเจ้าหน้าที่ตำรวจ(นอกเครื่องแบบ)ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ(ปั๊มน้ำมันดังกล่าว)และได้ไปติดต่อกับคนเก็บตังค์และได้แจ้งว่าเป็นตำรวจขอเช็คเพื่อสอบถามหาคนที่เติมน้ำมันให้เราในเวลา 12.15 น และเค้าก็แนะนำให้เดินเข้าไปติดต่อ ผจก. พอเข้าไปถึงคนในห้องก็ทำหน้า งงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ทางพี่ตำรวจก็เลยแสดงตัวและบอกว่า ลูกค้าได้เข้ามาเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้และสงสัยว่าเด็กปั๊มหรือคนที่รูดบัตรได้ทำการนำเลขบัตรไปซื้อไอเท็มเกมส์ออนไลน์ และจะขอเช็คกล้องวงจรปิดทางปั๊ม หลังจากนั้น ผจก. ก็ได้เปิดกล้องให้เรากับตำรวจดูและทุกคนในห้องนั้น เราบอกว่าเค้าต้องถ่ายรูปหน้า-หลังบัตรแน่ๆเลย แต่ ผจก. บอกว่าก่อนทำงานได้ยึดมือถือไม่ให้เล่นในเวลางาน เราเลยสันนิษฐานว่าต้องจดเลขบัตรแน่ๆ จากนั้นก็กรอไปเรื่อยๆตอนแรกยังไม่รู้ว่าเป็นใคร คนใหน เพราะเปลี่ยนกะเช้ามาเป็นบ่าย และเราก็จำหน้าไม่ได้แต่จำแขนมือได้ว่า แขนดำ ผอม มือใส่อะไรดำๆ พอเลื่อนเปิดหาไปเรื่อยๆตั้งแต่รถเราวิ่งเข้ามาในปั๊มน้ำมันจนถึงตอนเด็กปั๊มเข้ามาเลยรู้ว่า เป็นใครชื่ออะไร พอกรอดูพฤติกรรมจะเห็นว่าเค้ารับบัตรจากเราแล้วอ้อมไปนั่งข้างหัวจ่ายน้ำมันและจดอะไรสักอย่าง สักพักอ้อมเอาบัตรไปให้คนรูด และได้เดินไปเหมือนเช็คเลขอีกครั้ง และไดรับบัตรจาก พนง. แคชเชียร์และแทนที่จะเอาบัตรมาให้เราเลยเขาได้เดินไปอีกด้านข้างตู้และยืนจดตรงนั้นอีกนานพอควร ตรงนี้ชัดเลยว่าเค้ายืนจด หลังจากนั้นจนด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิด ผจก. ก็หน้าเสียบอกว่าไม่คิดว่าน้องเค้าจะกล้าทำเพราะน้องเค้าเพิ่งมาทำงานได้ 10 กว่าวันและยังอายุ 18 แฟน 17 ปีและเพิ่งมีลูกได้ 3 เดือนอยู่ ตจว และทุกวันนี้ก็มาเบิกตังค์ ผจก ไปซื้อข้าวกินวันละ 100 เงินเดือนก็ยังไม่ออก ตำรวจก็เลยแจ้งว่าจะเอายังไงให้น้องเค้ามาเจรจาไหม เพราะดูจากหลักฐานสามารถออกหมายจับได้เลย หลังจากนั้น ผจก. ก็โทรหาน้องคนนั้นและแจ้งว่ามีเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ให้เข้ามาปั๊มแต่น้องไม่มาได้ส่งแฟนกับพี่อีกคนมาแทน และแฟนเค้าบอกว่ามันไม่มาเพราะมัวเล่นเกมส์อยู่(คงกำลังมันละสิท่าได้ไปอัพเดตตั้งเยอะ) หลังจากนั้นเราก็เข้ารถไป กลัวเค้ามาถึงแล้วจำเราได้ แต่พอสักพักนึงตำรวจก็เดินมาหาเราที่รถพร้อมบอกว่าน้องเค้ายอมรับสารภาพแล้ว ว่าทำจริง  ได้วิธีนี้มาจากเพื่อนที่ ตจว สอนมาโดยกดเลขบัตรพ่อแม่เค้า แต่ไอ้น้องนี้มาทำกับลูกค้า  ตำรวจเลยถามว่าจะเอายังไงทำยังไงจะรับผิดชอบค่าเสียหายยังไง ติดต่อญาตพี่น้องได้ไหม เค้าบอกพ่อแม่เค้าก็ไม่มีเงินเลย มีแต่พี่สาวเลยโทรให้พี่สาวเค้ามาเจรจาและขอให้จบวันนี้ เราต้องได้เงินคืน วันนี้ พี่สาวเค้าเลยบอกว่าจะจ่ายวันนี้และได้ยืมเงิน ผจก. จ่ายให้เราไปก่อนพร้อมทั้งขอโทษเราและที่บ้านทุกคน ทั้งน้องที่ทำผิด พี่สาว ผจก. รวมถึงพนักงานตรงนั้น ได้ทำการขอโทษเราและครอบครัว และทางคุณตำรวจได้เขียนหลักฐานการคืนเงินและลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ เพื่อรับทราบและเป็นพยาน ไม่อยากตัดอนาคตของเด็กและไม่อยากให้เดือนร้อนถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้อง
 สุดท้ายนี้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นกรณีศึกษาให้กับทุกคนที่ใช้บัตรเครดิต-เดบิต ในการจ่ายใช้บริการซื้อสินค้าให้มีความระมัดระวัง!รอบครอบ มิฉะนั้นอาจจะเสียเงินโดยไม่รู้ตัว ท้ายสุดนี้ #ขอขอบคุณสถานีตำรวจโพธิ์แก้ว ผู้กองฝ่านสืบสวนและนายดาบมากๆนะคะที่ดำเนินการได้รวดเร็วและสละเวลาออกเวรมาดูแลคดีนี้ เลยทำให้สามารถปิดคดีได้รวดเร็วและตามคนผิดมารับผิดได้
 ขอบคุณ ผจก. ปั๊มน้ำมัน ที่ให้ความร่วมมือในการหาคนผิด ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาให้กำลังใจ  ส่วนพรุ่งนี้จะไปติดต่อธนาคารสอบถามถึงความหละหลวมช่องโหว่ที่เกิดขึ้นและไปเปลี่ยนบัตรใหม่
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่สังคมควรรับรู้รับทราบ ภัย!ที่มาจากรูปแบบการให้บริการในสถานที่ที่ประชาชนไม่ได้เฉียวใจหรือระวัง!ภัย ก็เป็นจุดอ่อนให้บุคคลที่หวังในทรัพย์สินฉกฉวยโอกาสก็เป็นได้ อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าได้สอบสวนจนผู้กระทำความผิดยอมรับ  จำนนต่อหลักฐาน (กล้องวงจรปิด) ผู้เสียหายก็มิได้เอาความแต่อย่างใดเนื่องจากเห็นว่าเป็นเยาวชน ผู้กระความผิดอายุเพียง17 ปี ขณะเดียวกันทางพี่สาวก็รับปากว่ายินดีจะชดใช้เงินตามจำนวนที่ปรากฎแก่ผู้เสียหาย..จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตือนสติระวัง!ภัยอันอาจจะเกิดกับผู้ที่ชอบใช้บัตรเครดิตในการจับจ่ายซื้อสินค้าอาจตกเป็นเหยื่อยของมิจฉาชีพที่นำเทคนิคอันแยบยลมาใช้.

 เงาพญาราหู รายงาน





วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ผลสำรวจ "หญิงไทยยุคใหม่ สไตล์ 4.0" โพล"พม. -นิด้า"พบการยอมรับความสามารถสตรีไทย ไม่เห็นด้วยที่งานบ้านเป็นหน้าที่ผู้หญิงเท่านั้น!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.61  เวลา 12.00 น. ที่หอประชุมมนังคศิลา ถนนหลานหลวง กรุงเทพมหานคร นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 2 (สสว.2) ร่วมกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในประเด็น “หญิงไทย ยุคใหม่ สไตล์ 4.0” ภายใต้โครงการบูรณาการโครงการด้านสังคมในระดับพื้นที่ กิจกรรมวัดอุณหภูมิทางสังคม “พม. POLL” ครั้งที่ 2/2561

ทั้งนี้กระทรวงฯ ตระหนักถึงพลังของสตรีไทยซึ่งมีส่วนสำคัญในการธำรงรักษาความมั่นคงของครอบครัว  เพื่อยกย่องเชิดชูสตรีไทยและส่งเสริม สนับสนุนให้สตรีไทยมีความรู้ ความสามารถ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป จึงได้มีการจัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในประเด็น “หญิงไทยยุคใหม่ สไตล์ 4.0” โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ (สสว.) 1 – 12 ในนาม “ พม. POLL” ศูนย์สำรวจความคิดเห็นทางสังคม
และศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ภายใต้โครงการบูรณาการโครงการด้านสังคมในระดับพื้นที่

โดยกิจกรรมวัดอุณหภูมิทางสังคม (พม. POLL) ครั้งที่ 2/2561 เพื่อดำเนินการศึกษาความคิดเห็นต่อบทบาทและการทำงานของผู้หญิงทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน  การนิยามความสำเร็จในชีวิตของผู้หญิงในยุคไทยแลนด์ 4.0  และความเท่าเทียมของสถานภาพทางสังคมของผู้หญิงเมื่อเทียบกับผู้ชาย โดยสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไปอายุระหว่าง 18 - 72 ปี จำนวน 4,800 ตัวอย่าง จาก 24 จังหวัดทั่วประเทศ จากนั้น มีการนำผลสำรวจส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) และกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานต่อไป

 สำหรับผลการสำรวจความคิดเห็นทางสังคม “ พม. POLL” ครั้งนี้ มีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้ 1) ประเด็น “สังคมปัจจุบันมีความเท่าเทียมระหว่างหญิงและชาย” พบว่า ร้อยละ 80.21 เห็นว่า สถานภาพทางสังคมระหว่างหญิงและชาย ในปัจจุบันเท่าเทียมกัน และร้อยละ 79.52 เห็นว่า สังคมให้โอกาสกับผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชาย 2) ประเด็น “สังคมยอมรับความสามารถของผู้หญิง ทั้งในการเป็นนักบริหารระดับสูง รวมถึงการเป็นนักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ” พบว่า ร้อยละ 94.46 เห็นว่า ผู้หญิงสามารถ
เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้ และร้อยละ 94.90 เห็นว่า ผู้หญิงสามารถเป็นนักการเมืองได้


3) ประเด็น “ความสำเร็จในชีวิตของผู้หญิงปัจจุบัน” พบว่า ร้อยละ 33.71 เห็นว่า ผู้หญิงปัจจุบันมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 4) ประเด็น “ผู้หญิงในยุคไทยแลนด์ 4.0 ควรจะเป็นมากที่สุด” พบว่า ร้อยละ 42.08 เห็นว่า ผู้หญิงในยุคไทยแลนด์ 4.0 ต้องทำงานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ในขณะที่ ร้อยละ 51.20 เห็นว่า หากผู้หญิงทุ่มเทหรือให้เวลากับการทำงานนอกบ้านมากกว่าในบ้าน จะทำให้เกิดปัญหาครอบครัว นอกจากนี้ ร้อยละ 77.31 ไม่เห็นด้วยกับเรื่องการทำงานบ้านเป็นหน้าที่ของผู้หญิงเท่านั้น ทั้งนี้ มีเรื่องที่น่ายินดี คือ คนส่วนใหญ่ร้อยละ 76.83 เห็นว่า ผู้หญิงในยุคไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องมีบุตรเมื่อแต่งงานแล้ว เพื่อมีคนไว้ดูแลอาศัยกัน และสังคมยุคไทยแลนด์ 4.0 ในปัจจุบัน เทรนสุขภาพกำลังมาแรง พบว่า ร้อยละ 23.95 เห็นว่า ผู้หญิงควรทำอาชีพเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ และรองลงมาร้อยละ 15.42 ผู้หญิงควรทำอาชีพเกี่ยวกับการใช้ภาษาต่างประเทศ

################

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ปปส.สมุทรสาคร วางสายล่อซื้อยาเสพติด 'ฟ่าง บางหญ้าแพรก" ยาบ้ากว่าหมื่นเม็ด


..เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 61  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด (ปส.) กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการอำนวยการของ  พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก. พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไชยภูมิ  ฉลองภูมิ  สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร / เจ้าพนักงาน ปปส.พ.ต.ต.อภิสิทธิ์ ศักดิ์ชัยยันต์ สว.ฯ ช่วยราชการ กก.สส.ฯ ,ร.ต.อ.ธานินทร์  นุชเจริญ รอง สว.กก.สส.ฯ เจ้าพนักงาน ปปส.ร่วมกับพวก เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 26 ก.ค.61เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันประชุมวางแผนลงหาข่าวติดตามพฤติกลุ่มบุคคลเครือข่ายผู้ค้าเข้าล่อซื้อยาเสพติดตามที่ได้ข้อมูลก่อนวางกำลังเข้าจับกุม ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ คือ 1.นายบุญเกิดหรือฟ่าง ภู่เมือง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/61 หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาบ้า 11,340 เม็ด 2.ยาไอซ์ 92.49 กรัม3.อาวุธปืนพกสั้น .38 1 กระบอก4.เครื่องกระสุนปืน .38  6 นัด  5.ถุงแบ่ง 140 ใบ 6.เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล 2 เครื่อง 7.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกับนายประสิทธิ์หรือเตี้ย กล่อมดี(หลบหนี)พยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าและยาไอซ์ )โดยผิดกฎหมาย
            ร่วมกับนายประสิทธิ์หรือเตี้ย กล่อมดี(หลบหนี)มียาเสพติดให้โทษประเภท1 ( ยาบ้าและยาไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ร่วมกับนายประสิทธิ์หรือเตี้ย กล่อมดี(หลบหนี)มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
จับกุมผู้ต้องหา ที่บริเวณบ้านเลขที่ 24/61 หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และที่ห้องแถวห้องที่ 3 และห้องที่ 4 ซึ่งปลูกติดกับบ้านและใช้เลขที่บ้านดังกล่าวโดยผู้ต้องหาเป็นผู้ครอบครองบ้านเลขที่ดังกล่าว    ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

  เงาพญาราหู รายงาน




ตร.มหาชัยรวบผู้ต้องหาลักรถจยย.ย่านบางบอน


ตร.มหาชัยรวบผู้ต้องหาลักรถจยย.ย่านบางบอน
เมื่อวันที่  26 ก.ค.61  เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์  ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ทำการจับกุมตัว นายเดชาพล หรือน๊อต   ริยบุตร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3060 ซอยเอกชัย 109 แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน พร้อมด้วยของกลาง
รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สี แดง หมายเลขทะเบียน 2กณ-825 กรุงเทพฯ หมายเลขตัวรถ NF110R-0436721 หมายเลขเครื่องยนต์ NF110RE-0436721 จำนวน 1 คัน (รถที่ใช้ในการก่อเหตุ)  เสื้อยืดคอกลมแขนยาว สีเทาน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว(เสื้อตัวที่ใส่ในวันก่อเหตุ) รองเท้าแตะแบบหนีบ ที่ใส่ในวันก่อเหตุ จำนวน 1 คู่ คีมตัดเหล็ก จำนวน 1 ตัว
โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันลักทรัพย์  ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ"หรือ"รับของโจร" ซึ่งทรัพย์ที่ถูกก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กง-2630 สมุทรสาคร (ไม่ได้คืน)สถานที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าห้องเช่าเลขที่33/6 หมู่5 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่25 ก.ค.61 เวลาประมาณ02.30 น.เศษ   ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และได้ทำการสืบสวนเรื่อยมา จนวันนี้เวลาประมาณ15.30น.ได้จับกุมตัวนายเดชาพลฯได้ที่บ้านเขตบางบอน (พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ เสื้อ  รองเท้า ที่ใส่ในวันก่อเหตุ ยึดได้จากบ้านเพื่อนนายเดชาพลฯที่ซอยเอกชัย 109 และคีมตัดเหล็ก ยึดได้จากบ้านนายเดชาพลฯ)ผู้ร่วมก่อเหตุชื่อนายศุภชัย หรือเติ้ล เขียวโพธิ์ หลบหนีไปพร้อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกก่อเหตุ จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาจัดทำบันทึกการจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบางน้ำจืด เพื่อดำเนินการต่อไป





อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มือปืนลายคราม ยิง 2 ศพ มอบตัวใช้กรรม..


วันที่ 26 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว สามารถควบคุมตัว นายซ้ง แซ่ตั้ง อายุ 72 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง นายจักรพันธ์ สื่อสุวรรณ อายุ 33 ซึ่งเป็น(ลูกเขย)สามีของลูกเลี้ยงตนเอง และนางสาวบัวผัน มะโมทะนัง อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นน้องเมียของผู้ต้องหา เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ บริเวณหน้าร้านส้มตำไม่มีเลขที่ ริมถนนคลองกก ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 ก.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ภ 1855 นครปฐม หลบหนีไปทางจังหวัดสมุทรสงคราม ส่วนสาเหตุการสังหารโหดครั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากปมหึงหวงและระแวงว่าผู้ตายทั้งสองยุยงให้นางทองขาล มะโมทะนัง ภรรยาผู้ต้องหา บอกตัดความสัมพันธ์และขอแยกทาง  และไม่พอใจที่นางทองขาล(ภรรยา)เซ้งร้านค้าให้กับนางสาวบัวผัน(ผู้ตาย)ซึ่งเป็นน้องสาวของนางทองขาลฯ ตำรวจสืบภาค 7 สืบจังหวัดและสืบบ้านแพ้ว ตามแกะเส้นทางไล่กล้องไปถึง วัดศรีเพชรพัฒนาราม รอยต่อแยกใยแมงมุมหลายจังหวัด จนล่าสุดเผ่น
ไปหลบซ่อนตัวที่ วัดศรีสวัสดิ์ หมู่ที่ 3 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่พระรูปหนึ่งจะพูดคุยจนผู้ต้องหายอมมอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านแม่แฉลบ หลังจากนั้นได้ประสานมายัง สภ.บ้านแพ้ว ให้มารับตัวผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อเวลา18.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.บ้านแพ้ว ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร มจ.265/2561 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ข้อหา กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีติดตัวไปโดยไม่มีเหตุอันควร
ไปรับตัวผู้ต้องหาที่ สภ.ด่านแม่แฉลบ นำตัวกลับมาถึง สภ.บ้านแพ้ว เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากนั้นได้นำตัวเข้าห้องขัง จนเวลา 10.00 น.ได้นำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา  ฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปื่นไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต พกพาอาวุธปืน ไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
โดย พ.ต.อ.สาโรจน์ รอดมณี ผกก.ได้สอบปากคำ นายซ้ง แซ่ตั้ง มือปืนรุ่นใหญ่วัย 72 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนร่าเริงหรือ"ขุนแผน โรงเข้" มีเมียหลายคน ลูกเป็น 10 ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนชนวนของการก่อเหตุผู้ต้องหาเล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ต้องลงมือโหดในครั้งนี้ เกิดจากความกดดันที่ถูก นายจักรพันธ์ สื่อสุวรรณ และนางสาวบัวผัน มะโมทะนัง พูดจาดูถูกเป็นประจำ จนทำให้เกิดความแค้นสะสม และก่อนลงมือโหดครั้งนี้ ผู้ต้องหาก็ได้มีปากเสียงกับผู้ตายทั้งสองก่อนที่จะตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต โดยเมื่อยิงเสร็จได้ขับรถหลบหนีไปตามถนนจนถึงวัดหนองกระทุ่ม ต.หินกอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ใก้ลกับ เรือนจำเขาบิน ได้นำรถไปจอดที่วัดแห่งนี้โดยเอาปืนที่ใช้ก่อเหตุซ่อนไว้ใต้ที่นั่งฝั่งคนขับ หลังจากนั้นได้เดินทางต่อโดยขึ้นรถ
เมล์ ไปยังวัดศรีสวัสดิ์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี  เพราะเคยมาทำบุญที่วัดแห่งนี้บ่อยครั้ง จนมาพบพระรูปหนึ่งเล่าเรื่องราวที่เกิดเหตุให้ฟังโดยพระได้ใช้ธรรมะเตือนสติก่อนตัดสินใจมอบตัวกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
 หลังทำบันทึกคำรับสารภาพเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายซ้งฯมือปืนรุ่นลายครามเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่จุดเกิดเหตุ โดยมี พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก. พ.ต.อ.สาโรจน์ รอดมณี ผกก. พ.ต.ท.สมโภชน์ จูเจริญ รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.นพดล เกิดปราโมทย์ รอง ผกก.ป.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว ควบคุมการทำแผนโดยมี ชาวบ้านที่รู้จักคุ้นเคยมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นจำนวนมากโดยไม่มีเหตุการรุนแรงเกิดขึ้น หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวกลับมายัง สภ.บ้านแพ้ว เพื่อสอบสวนก่อนฝากขังดำเนินคดีตามกฏหมมาย.

 เงาพญาราหู รายงาน













หน.ชุด ชป.กร.อ.เมือง ลงพื้นที่ ม.๗ เพื่อเข้าสังเกตการณ์ ในการรับซื้อปลาหมอสีคางดำ


เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2561  มว.รส.จว.ส.ส.(มทบ.๑๖) โดย ร.ท.ญาณพัฒน์ เข็มเพ็ชร หน.ชุด ชป.กร.อ.เมือง ลงพื้นที่ ม.๗ เพื่อเข้าสังเกตการณ์ ในการรับซื้อปลาหมอสีคางดำตามโครงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและระบบนิเวศ ในแหล่งน้ำธรรมชาติในระยะเร่งด่วน ของ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ วัดธรรมประสิทธิ์ ม.๗ ต.คลองโคน อ.เมือง จว.ส.ส. วันนี้มีเกษตรกรได้นำปลาหมอสีคางดำมาขายจำนวนหลายรายในราคากิโลละ ๒๐ บาทร่วมแล้วประมาณ ๕๐ ตัน  เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ผลการเข้าสังเกตการณ์ไม่พบว่ามีการสวมสิทธิ์ของเกษตรกรจากพื้นที่อื่น การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย







หน.ชป.รส.อ.บางคนที ลงพื้นที่ วัดบางน้อย ร่วมโครงการเทศกาลเข้าพรรษา



 
เมื่อวันที่  26 ก.ค. 2561  มว.รส.จว.ส.ส.(มทบ.๑๖ ) โดย ร.ท.เกรียงไกร  รุ่งจำเริญ หน.ชป.รส.อ.บางคนที ลงพื้นที่ วัดบางน้อย ต.จอมปลวก อ.บางคนที ร่วมโครงการเทศกาลเข้าพรรษา เที่ยวงานวัด เมืองรอง ทำบุญตักบาตร ไหว้พระ  เทศการเข้าพรรษา ณ วัดบางน้อย โดยมี ดร.พงศ์ศักดิ์  เสมสันต์ ที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน นายยงยุทธ สิงห์ธวัช รองผวจ.ส.ส.,วัฒนธรรมจังหวัด,นายอำเภอบางคนที,นายกอบต.จอมปลวก ,กำนัน - ผญบ.,ประชาชน ร่วมงาน ๒๐๐ คน








อ.กระทุ่มแบนแห่เทียน ถวายวัดหงอนไก่


25 กรกฎาคม 2561 เวลา 08.00 น. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน เป็นประธานในพิธีแห่เทียนจำนำพรรษา ถวายวัดราษฎร์บำรุง (หงอนไก่)  พร้อมนายวิชัย แตงเอี่ยม นายกเทศมนตรีตำบลดอนไก่ดี นายทศพล ศรีวิไล กำนันตำบลดอนไก่ดี นายวรงค์ เอี่ยมสะอาด วัฒนธรรมอำเภอกระทุ่มแบนประธานสภาวัฒนธรรมตำบลดอนไก่ดี ร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯ แพทย์ สารวัตรกำนัน ทต.ดอนไก่ดี ชมรมผู้สูงอายุ รพ.สต.ดอนไก่ดี อสม. ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ทต.ดอนไก่ดี นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยประมง รร.บ้านดอนไก่ดี หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ประชาชนทั่วไป และชาวเขาแม่จัน ร่วมจัดกิจกรรมแห่เทียนจำนำพรรษา ถวายวัดราษฎร์บำรุง (หงอนไก่) เข้าร่วมกิจกรรม







วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

พม.จับมือสภาสตรีแห่งชาติเตรียมจัดใหญ่ งานวันสตรีไทย ประจำปี61 ภายใต้แนวคิด “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี”1 ส.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.61 นายปรเมธี  วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมเป็นประธานแถลงการจัดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี 2561” ภายใต้แนวคิด “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี”   โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นางสาววรนัน  รัตรวิภัคกุน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยไคร้  อ.แม่สาย  จ.เชียงราย ตัวแทนสตรีไทยดีเด่น ประจําปี 2561  และ นางสาวพรรณพนัช   สกุลรัตนตรัย นักเรียนโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี จ.สมุทรปราการ ตัวแทนเยาวสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2561 ได้กล่าวถึงผลงานและความภาคภูมิใจที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นสตรีไทยดีเด่นและเยาวสตรีไทยดีเด่นประจำปี 2561  ณ หอประชุมมนังคศิลา 
โดย ปลัดกระทรวงพม. กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9  ทรงกอปรด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจคู่พระบารมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงนำความร่มเย็นสุขสวัสดิ์มาสู่ประเทศชาติและพสกนิกรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชกรณียกิจเพื่อสตรีไทยอย่างเหลือล้นพ้นประมาณ อีกทั้ง
พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้วันที่ ๑ สิงหาคม เป็น“วันสตรีไทย” และให้ใช้ “ดอกกล้วยไม้คัทลียาควีนสิริกิติ์” เป็น ดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทย ตั้งแต่พุทธศักราช 2546  เป็นต้นมาตราบเท่าทุกวันนี้ สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และภาคีเครือข่าย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงร่วมกันจัดงาน “วันสตรีไทย” สืบเนื่องมาเป็นประจำทุกปี
สำหรับปี 2561  กำหนดจัดงาน“วันสตรีไทย” ภายใต้แนวคิด “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 66  พรรษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระอุปถัมภิกาสภาสตรีแห่งชาติ ฯ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 86  พรรษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ  63  พรรษา  อีกทั้งเพื่อธำรงไว้ซึ่งวันสตรีไทยอันแสดงถึงพลังสตรีไทยที่สามารถเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือสังคมและเชิดชูเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติให้ยั่งยืนสืบไป

ทั้งนี้นายปรเมธี  กล่าวว่า กระทรวงฯ  ตระหนักถึงพลังของสตรีไทยซึ่งมีส่วนสําคัญในการธํารงรักษาความมั่นคงของครอบครัว รวมทั้งเพื่อยกย่องเชิดชูสตรีไทย และส่งเสริม สนับสนุนให้สตรีไทยได้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น และเป็นพลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ จึงได้ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติ ฯ จีดงานดังกล่าว เพื่อยกย่องเชิดชูสตรีไทยและส่งเสริมสนับสนุนให้สตรีไทยได้มีความรู้ ความสามารถ เพิ่มขึ้นและเป็นพลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
ดร.วันดี   กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เสด็จฯ แทนพระองค์ไปทรงเปิดงาน “วันสตรีไทย” ประจำปี 2561  ในวันพุธที่ 1  สิงหาคม 2561  เวลา 17.30  น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี การจัดงานครั้งนี้ สภาสตรีแห่งชาติ ฯ พร้อมด้วยองค์กรสมาชิก 211  องค์กร และภาคีเครือข่าย
รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่9  อย่างหาที่สุดมิได้ จึงได้จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 86  พรรษา 12  สิงหาคม 2561  ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญดังนี้
1. การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญภาพพระราชกรณียกิจบางส่วนของแต่ละภาคมาจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติขึ้นในวันสตรีไทย และสัญจรไปยังภาคต่างๆ 5 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและเพื่อจารึกพระเกียรติคุณไว้ให้ยั่งยืนสืบไป  โดยนิทรรศการดังกล่าวได้นำเสนอพระราชกรณียกิจที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9  ทรงมุ่งมั่นในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  ในการอุปถัมภ์บำรุงพสกนิกร ให้มีความอยู่ดี กินดี อาทิ
ทรงส่งเสริมศิลปาชีพเพื่อสร้างอาชีพแก่ราษฎรในทุกภูมิภาค โครงการฟาร์มตัวอย่างเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ เพื่อราษฎรสามารถดำรงชีพอยู่ในพื้นที่ทำกินเดิมได้อย่างมีความสุขมีอาหารเพียงพอต่อการบริโภคทั้งปีและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (ปะการังเทียม) เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีแหล่งทำการประมงสำหรับชาวประมงขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ทรงช่วยเหลือราษฎรผู้ยากไร้ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงราษฎรในประเทศเพื่อนบ้านที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นในประเทศไทยกรณีการจัดตั้งศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เป็นต้น
2. การประชุมเสวนาเรื่อง “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์จากบุคคลที่ได้รับพระมหากรุณาจากพระองค์ท่านส่งผลให้มีอาชีพ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3. การจัดทำพระฉายาลักษณ์พระราชทาน  ซึ่งสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดทำขึ้น เพื่อมอบแก่สตรีไทย และประชาชนทั่วไปไว้บูชาเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลต่อครอบครัวและวงศ์ตระกูล
อันแสดงออกถึงความจงรักภักดีสืบไป
ท้ายนี้ขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนติดตามรับชมการถ่ายทอดสด “วันสตรีไทย” ซึ่งช่วงพิธีเปิดงานจะมีขบวนอัญเชิญเทียนชัย “วันสตรีไทย” ที่แสดงให้เห็นถึงพลังของ “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง ๑๑ (NBT)  และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยในวันพุธที่ 1  สิงหาคม 2561  ตั้งแต่เวลา 17.00-18.30  น.



**************