pearleus

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กลุ่มบิ๊กไบค์สมุทรสาครบริจาคเงินช่วยเหลือบ้านที่ไฟไหม้กาหลง



 

วันอาทิตย์ที่ 30 พ.ค. เวลา 07.30 น. กลุ่มบิ๊กไบค์สมุทรสาคร นำทีมโดย กลุ่มสายจ๊วดมหาชัย รวบรวมเงินจากกลุ่มบิ๊กไบค์ใน จ.สมุทรสาคร โดยมีนางบุญศรี บุญมี ผช.ผญบ้าน หมู่ 3 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นตัวแทนรับมอบ หลังละ 3,410 บาท จำนวน 4 หลัง รวม 13,640 บาท มอบให้ผู้ที่บ้านถูกไฟไหม้ ดังนี้

- นางเขียว นาคสวาท

- นางจำปี เอี่ยมวงศ์

- นางมล จันทร์มล

- นางลำเจียก จันทร์มล

     ทั้งนี้ เจ้าของบ้านผู้ที่เกิดอัคคัภัยทั้ง 4 หลัง ได้กล่าวขอบคุณทางทีมมงานกลุ่มสายจ๊วดมหาชัย และทีมงานกลุ่มบิ๊กไบค์สมุทรสาคร ด้วย 

      ในส่วนความคืบหน้าทางเจ้าของบ้านทั้ง 4 หลัง กำลังดำเนินการปรับปรุงบ้านให้กลับมาพักอาศัยให้เร็วที่สุด

ดร.สุนทร ระดมทุนบูรณะอุโบสถ วัดโคกขาม




ดร.สุนทร วัฒนาพร อดีตสมาชิกวุฒิสภา ระดมทุน เพื่อ ช่วยสมทบเงินกับงบประมาณของกรมศิลปากร เพื่อใช้ในการบูรณะอุโบสถหลังเก่า วัดโคกขาม และยังได้ติดต่อประสานงานจนงานนี้สำเร็จไป ส่วนหนึ่ง ที่เหลือเป็นหน้าที่ของวัดโคกขามและสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี จะดำเนินการบูรณะอุโบสถหลังนี้ให้ถูกต้องตามแบบและงบประมาณต่อไป

ปลัดแตจองแน่ วัคซีนซิโนฟาร์มสู้โควิท .




นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า อบจ.สมุทรสาคร พร้อมที่จะจองวัคซีน Sinopharm จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งไม่มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณ เนื่องจาก อบจ.สมุทรสาครมีงบประมาณเพียงพอต่อการสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว หากไม่ติดข้อขัดข้องทางกฎหมายซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการหารือกับจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการสั่งจอง สั่งซื้อ และแผนการฉีดวัคซีนก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับแผนการฉีดวัคซีนเดิม และจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรค์จากส่วนกลาง เพื่อเตรียมความพร้อม ในระหว่างรอให้มีความคืบหน้าเรื่องการปลดล็อคอำนาจในการสั่งซื้อวัคซีนจาก ศบค. และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจึงจะดำเนินการสั่งซื้อและส่งมอบให้จังหวัดสมุทรสาครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปบริหารจัดการและดำเนินการฉีดให้แก่ชาวสมุทรสาครต่อไป 

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

บช.น. แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติด พื้นที่ สน.หัวหมาก





กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.ฯ (สบ.8) ปฏิบัติราชการ บช.น., ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดผลการปฏิบัติดังนี้

ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า บริเวณภายในซอยรามคำแหง 60 แยก 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร มักจะมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งวันที่ 27 พ.ค.64 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายมนัสฯ อายุ 38 ปี บนถนนภายในซอยรามคำแหง 60 แยก 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง

1. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า (แท็กซี่) สีชมพู-คาดเขียว คันทะเบียน ทษ 615 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน 2. ยาไอช์ น้ำหนักรวมถุง 6.9 กิโลกรัม 3. ยาบ้าจำนวน 220,000 เม็ดโดยกล่าวหาว่า “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ” โดยนายมนัสฯ ทราบข้อกล่าวหา พร้อมสิทธิของผู้ต้องหาแล้ว และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สน.หัวหมาก เพื่อดำเนิน

สภาฯอบต.ท่าทรายสมุทรสาครไม่ล่มนะครับ

    ที่เดียวของประเทศ การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย สมัยประชุมสามัญสมัยที่ 2 2564 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2554 เวลา 10.00 น ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทรายชั้น 4 ว่าที่ร้อยตรีถนอม ดาราเย็น ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ได้เรียนเชิญสมาชิก อบต.องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทรายเข้าประชุม โดยที่ทางประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ขอเปิดประชุมทั้งหมด 5 เรื่อง

เรื่องการรับรองรายงานประชุมสมัยสามัญสมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2554 และมีการตั้งกระทู้ถาม เรื่องคณะกรรมการ ที่สภาท้องถิ่นตั้งขึ้นพิจารณาแล้วเสร็จเรื่องที่เสนอใหม่  สอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างสิ่งสาธารณะอุปโภคปีงบประมาณ 2562 ปีงบประมาณ 2564 สอบถามการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ใช้ในการจัดทำศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 7 ที่ 9 และจุดเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา

สภาฯอบต.ท่าทรายสมุทรสาครไม่ล่มนะครับ

ที่เดียวของประเทศ ที่ฝ่ายบริหาร อบต.ท่าทราย และ หัวหน้าส่วนงานฯที่ไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯครั้งนี้ โดยข้ออ้าง กักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่..เจ้าหน้าที่ และพนักงานที่ทำงานห้องเดียวกันกับผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ#ไม่ให้กักตัวด้วย

    ฝ่ายนิติบัญญัติ บรรดา ส.อบต.ถามเรื่อง การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ รพ.สนาม ของ อบต.ท่าทรายสมุทรสาคร

ความจริง ก็คือ ความจริง จะชิ่ง จะหลบ ยังไงก็คงไม่พ้น


วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

บช.น. รวบชายขับรถทะเบียน โล่ตำรวจ ชักอาวุธปืนขึ้นฟ้าที่ ดอนเมือง

 

187441341_1585374768315443_5511783482915265272_n     กรณีปรากฏคลิปชายขับรถจักรยานยนต์ ทะเบียนโล่ตำรวจชักอาวุธปืนขึ้นฟ้าขณะขับรถ ทำให้เกิดความสงสัยต่อประชาชนว่าชายคนดังกล่าวเป็นข้าราชการตำรวจ จริงหรือไม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ศ.2564 เวลาประมาณ 08.00 น. บริเวณสามแยกประชาอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม.
หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่มรรท.ผบก.น.2 ติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ พร้อมกำชับหากเป็นข้าราชการตำรวจ
ก็จะต้องดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าไม่ใช่ตำรวจ ก็จะต้องรีบชี้แจงให้สังคมทราบเพื่อไม่ให้ เกิดความเข้าใจผิดต่อพี่น้องประชาชน
ต่อมาวันที่ 26 พ.ค.64 เ187122572_1585374738315446_269175834547095246_nวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้ติดตามชายคนดังกล่าวในเส้นทางที่มีกล้องวงจรปิดตามโครงการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จนกระทั่งทราบว่าชายคนดังกล่าวได้ขับขี่มุ่งหน้าเข้าเคหะดอนเมือง ซ.ช่างอากาศอุทิศ 15 แขวง/เขตดอนเมือง กทม. พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง ได้เดินทางมากำกับเหตุการณ์และประสาน ผจก.อาคารนิติบุคคล จนสามารถพิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุ คือ นายธเนศพลฯ อายุ 57 ปี จึงประสานกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมตัว พร้อมของกลาง ดังนี้
1. อาวุธปืนบีบีกัน จำนวน 3 กระบอก
2. เครื่องกระสุนปืนบีบีกัน 20 นัด
3. เครื่องแบบยศร้อยตำรวจเอก (ติดอาร์มกองปราบปราม) จำนวน 1 ชุด
4. วิทยุสื่อสาร จำนวน 3 เครื่อง
5. ชุดเสื้อผ้าที่ใช้วันก่อเหตุ
6. รถจยย.ฮอนด้า สีขาว ทะเบียนตราโล่ 94156 จำนวน 1 คัน
จากการสอบถามเบื้องต้น นายธเนศพลฯ ให้การว่าไม่ได้เป็นตำรวจแต่อย่างใด ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างร้านอาหาร ส่วนรถจักรยานยนต์เป็นรถส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนว่าทะเบียนโล่ดังกล่าว นายธเนศพลฯ ได้มาได้อย่างไร เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน
วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน, พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย (ในส่วนเครื่องแบบตำรวจ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเคยมีการแต่งกายเครื่องแบบตำรวจ จะได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป)

191042482_1585374794982107_5446341301109394016_n185699639_1585374901648763_6388011579494813840_n

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

บช.น. รวบผู้ต้องหาก่อเหตุยิงแฟนสาวบนรถแท็กซี่




วันที่ 26 พ.ค.64 เวลา 07.40 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายอำนาจฯ อายุ 53 ปี เนื่องจากก่อเหตุยิง นางสาวกนกภัทรฯ อายุ 20 ปี บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ถ.พระราม 2 ขาเข้า แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โดยตรวจสอบเบื้องต้นเกิดจากความหึงหวง เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณที่เหตุ พร้อมของกลาง 1. อาวุธปืน ออโตเมติกขนาด 9มม.ยี่ห้อglock 19 2. ปลอกกระสุน 10 ปลอก 3. ซองบรรจุกระสุน 2 ซอง บรรจุกระสุนรวม 15 นัด
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอำนาจฯ ได้ติดตามนางสาวกนกภัทรฯ โดยขึ้นรถโดยสารประจำทางมาพร้อมกัน เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ นางสาวกนกภัทรฯ ได้วิ่งลงจากรถโดยสารประจำทางเพื่อขึ้นรถแท็กซี่หน้าห้างบิ๊กซี นายอำนาจฯ วิ่งไล่ติดตามมาทัน และได้ใช้อาวุปืนที่พกติดตัวมาด้วยยิงใส่นางสาวกนกภัทรฯ จำนวนหลายนัด จากนั้น นำส่ง รพ.พระราม2 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นเกิดจากความหึงหวง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายอำนาจฯได้บริเวณที่เหตุ

มอบรางวัลคนดีศรีมวลชนคนสาคร




























คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร โดยดร.สุนทร วัฒนาพร ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้ประชุมและมีมติเอกฉันท์คัดเลือกบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมในการอนุรักษ์และส่งเสริมงานด้านวัฒนธรรมและสร้างคุณประโยชน์แก่สังคมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง สำหรับปี 2563 สภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครได้คัดเลือกคนดีศรีสาครประจำปี 2563 มีผู้ได้รับรางวัล 24 ราย ได้แก่พระภิกษุสงฆ์ 3 รูป ประเภทบุคคล จำนวน 16 คน ประเภทองค์กร จำนวน 5 องค์กร 


ในการประชุมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครเพื่อคัดเลือกคนดีศรีสาครได้มีการเสนอวาระพิเศษเรื่องการมอบรางวัลคนดีศรีมวลชนคนสาครเป็นกรณีพิเศษและได้มีการลงมติเป็นเอกฉันท์มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ "คนดีศรีมวลชนคนสาคร" (กรณีพิเศษ) ให้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเชิดชูเกียรติในฐานะบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่อจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้นำที่มีความเสียสละ ทุ่มเทในการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีผลงานเชิงประจักษ์จนเป็นที่ยอมรับและนิยมชมชอบของมวลชนคนสมุทรสาครเป็นอย่างมาก 


สำหรับงานพิธีฉลองรางวัล “คนดีศรีสาคร”และรางวัลเกียรติคุณ“คนดีศรีมวลชนคนสาคร” ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงยังไม่เหมาะสมที่จะจัดงานในช่วงนี้ ซึ่งจะมีการจัดงานพิธีมอบรางวัลฯ เมื่อใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

จับตาแรงงานเถื่อนลอบเข้าเมืองมหาชัย ฤ สายลม (โควิท) จะพัดหวน

801955

สถานการณ์โควิทระบาดในประเทศไทย ถึงชั่วโมงนี้ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ สารพัดจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ  ทั้งบรรดาชุมชนในกรุงเทพ ฯ หรือหัวเมืองตามต่างจังหวัด ซึ่งก็รวมถึงจ.สมุทรสาคร สถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจเช่นกัน ซึ่งล่าสุดก็เกิดประเด็นขึ้นมาแล้ว โดยมีพ่อเมืองเป็นผู้เปิดเผยด้วยตนเอง

ประเด็นที่ว่านี้ก็คือ มีกระแสข่าวว่าขณะนี้ยังมีคนบางกลุ่มลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย เรียกได้ว่า เอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่เข็ดหลาบกับการระบาดรอบที่แล้วที่สร้างผลกระทบระดับประเทศอย่างที่ประสบกันมา

             ประเด็นนี้เริ่มจากเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า

“ช่วงนี้ยังได้รับข้อมูลทั้งจากประชาชนและภาคเอกชนว่ามีแรงงานต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมาก โดยจากการเข้าจับกุมแรงงานต่างชาติในจังหวัดหนึ่งระบุว่า สมุทรสาครและกรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของกลุ่มนี้ ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอีกครั้ง

“สำหรับประเด็นนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจค้นตามเบาะแสที่แจ้งมาทันที และหลังจากนี้เราจะตรวจค้นเชิงรุกกันอีกอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากพรุ่งนี้ จะมีการประชุมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเข้าแรงงานต่างชาติทั้งหมด เพื่อหารือแนวทางทำงานร่วมกันให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

“แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สบายใจเลย ท่ามกลางวิกฤตเช่นนี้ คนไทยด้วยกันเองกลับ ‘เปิดประตูบ้าน’ ลักลอบทำเรื่องผิดกฎหมายเพราะหวังผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงิน โดยไม่คิดเลยว่ามันจะกระทบกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทำลายสวัสดิภาพและสร้างปัญหาปากท้องของ ‘คนบ้านเดียวกัน’ ทั้งที่รู้ว่าทุกคนกำลังย่ำแย่เต็มที

 

            ใช่ครับ เรื่องนี้ไม่ใช่พ่อเมืองไม่สบายใจคนเดียว ใคร ๆ ในสมุทรสาคร รวมถึงทั่วประเทศไทย ก็ไม่สบายใจ ความวัวยังไม่ทันหาย ความควาย (ตัวเดิม) กำลังจากคืบคลานเข้ามาซ้ำเติมอีกแล้ว คิดแล้วหนาวใจเลยทีเดียว โควิทรุกหนัก  จนทุกวันนี้แทบจากต่อแถวกันฆ่าตัวตายอยู่แล้ว เศรษฐกิจ พังพาบไม่เหลืออะไรจะให้ทำมาหากินกันแล้ว  มาตราสั่งปิด สั่งล็อกดาวน์ทั้งหลาย ทำให้วิถีชีวิตต้องล้มลุกคลุกคลาน มาตรการเยียวยาต่าง ๆ ก็ลีลา ได้น้อยนิดแล้วยังเชื่องช้าเสียด้วยซ้ำ

            การแอบนำแรงงานเถื่อนลับลอบเข้าเมือง ถือเป็นความเห็นแก่ได้ของนายหน้าค้าแรงงานบางกลุ่ม ไม่อยากจะคิดเลยว่า ที่ทำอย่างนี้ได้ก็เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐ ‘บางคน’ เอื้ออำนวยความสะดวกให้ด้วยหรือเปล่า

          บทเรียนจากการระบาดรอบที่แล้วที่เกิดขึ้นในคลัสเตอร์ตลาดกุ้งของสมุทรสาคร ยังคงเป็นภาพหลอนที่ใคร ๆ ในเมืองนี้เข็ดขยาด  เมื่อมีเบาะแสจากพ่อเมืองที่มีการข่าวเชิงลึกมาบอกกล่าว  ส่วนที่เหลือก็คือ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสกัดเส้นทางเถื่อนเหล่านี้  ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ไล่รวมไปถึงประชาชนที่ต้องแจ้งทางจังหวัดโดยเร่งด่วน เมื่อได้รับข้อมูลหรือเบาะแสอะไรที่ไม่ชอบมาพากล

            งานนี้ถ้ามองเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เอาเป็นธุระ แล้วถ้าเกิดการระบาดกลับมาอีกครั้ง ก็อย่ามาปากกล้าด่ากันเองก็แล้วกันว่า ทำไมถึงปล่อยให้มีลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้าเมือง  …ได้ยินเมื่อไหร่ จะเดินเข้าไปตบปากแตกเลยเชียว

801954

 

801953

 

 

          801952

เรือนจำสมุทรสาคร ยอดเยี่ยม เอาอยู่ โควิท 100 %




การระบาดของเชื้อไวรัสโควิท ยังคงมีต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดการระบาดขึ้นในเรือนจำทั่วประเทศ ขึ้นหลักพัน  สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย ซึ่งก็ร่วมถึงญาติมิตรผู้ต้องขังที่ไม่สามารถรู้ชะตากรรมของคนที่พวกเรารัก   

 ต่อประเด็นนี้ ทีมงานชี้ชัดเจาะลึก ได้ลงพื้นที่เรือนจำจ.สมุทรสาคร เพื่อเข้าพูดคุยและสอบถามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิท 19 ในเรือนจำแห่งนี้ โดยได้พูดคุยกับ นายชำนาญ เล็กสกุล’ ผู้บัญชาการเรือนจำสมุทรสาคร  

 นายชำนาญ ได้อธิบายถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิทในเรือนจำสมุทรสาครว่า ขณะนี้ ณ วันที่ 15 พ.ค. 2564 การติดเชื้อยังคงเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกักโรคที่ตั้งขึ้นมา  โดย เมื่อเกิดการระบาดรอบใหม่ทำให้หลายกิจกรรมต้องถูกยกเลิกชั่วคราว เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างกัน  ซึ่งก็รวมถึงกิจกรรมการเยี่ยมญาติในเรือนจำด้วยเช่นกัน  


     

 “เรือนจำเรามีผู้ต้องขังมากถึง 2,300 คน ซึ่งเกินมาตรฐานอยู่พอสมควร ความแออัดตรงนี้อ่อนไหวมากเลยครับ ถ้ามีการติดเชื้อขึ้นมาจะจัดการได้ลำบาก ดังนั้นมาตรการต่าง ๆ ขณะนี้จึงต้องเข้มงวดเป็นอย่างมาก” ผบ.ชำนาญกล่าว  

 เมื่อเล็งเห็นถึงภัยโควิทที่แวดล้อมอยู่ในเมืองมหาชัยอย่างแพร่หลาย ทำให้ทางผบ.ชำนาญ ต้องวางแนวทางการป้องกันขึ้น โดยกำหนดให้มีห้องกักกันขึ้นมาเฉพาะจำนวน 9 ห้อง แบ่งเป็นชาย 5 ห้อง และหญิง 4 ห้อง วางหลักเกณฑ์ว่า ผู้ต้องเข้าออกเรือนจำแห่งนี้ ต้องถูกกักตัวจำนวน 21 วัน ก่อนปล่อยเข้าเรือนนอนปกติ  ซึ่งต่อไปจะทำการซอยห้องเพื่อเพิ่มพื้นที่การกักกันอีก รวมถึงให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาสุมตรวจเชื้อโควิทจำนวน 3 วันต่อ 1 ครั้งด้วย 

 “ถ้าตรวจเจอเมื่อไหร่ เราจับส่งโรงพยาบาลทันทีครับ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มีพบบ้าง ก็ส่งรพ.ทันที พอหายก็ยังต้องนำมากักตัวไว้ที่รพ.สนามที่เรือนจำสร้างขึ้นมา ” ผบ.ชำนาญกล่าวเสริม  

 ทั้งนี้นอกเหนือจากมาตรการกักกัน   รพ.สนามก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางการแก้ปัญหา โดยทางผบ.ได้จัดสร้างรพ.สนามภายในเรือนจำ   เพื่อแบ่งเบาภาระของทางจังหวัดและป้องกันการแพร่ระบาด โดยใช้พื้นที่ว่างบริเวณข้างเรือนจำเนื้อที่กว่า 200 ตารางเมตร สามารถดูแลผู้ป่วยได้ถึง 60 คน เป็นในส่วนของผู้ต้องขังชาย  ส่วนผู้ต้องขังหญิง ทำไว้ 4 ห้อง แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน  

 ผบ.ชำนาญ เล่าให้เราฟังต่อว่า การดำเนินมาตรการป้องกันโควิทของเรือนจำ ไม่ได้แค่ทำในส่วนของผู้ต้องขังเท่านั้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ทุกระดับ รวมถึงตนเองก็ต้องถูกกักบริเวณทั้งสิ้น ซึ่งก็รวมถึงตัวผมเองด้วย ก็ต้องพักอยู่บริเวณเรือนจำ ไม่สามารถกลับบ้านที่แม่กลองได้ เพราะทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือมา” ผบ.ชำนาญกล่าว  

 นอกเหนือจากขอความร่วมมือจากลูกน้องในการป้องกันภัยโควิทแล้ว ทางผบ.ชำนาญ ยังเสริมความมั่นใจ ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องตรวจหาเชื้ออยู่สม่ำเสมอ  

  สำหรับการเยี่ยมผู้ต้องขัง ทางเรือนจำสมุทรสาคร ได้มีคำสั่งห้ามเยี่ยม แต่เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการเยี่ยมแบบ ‘ออนไลน์’ ซึ่งบรรดาญาติไม่ต้องเดินทางมาที่เรือนจำ แต่อยู่ที่บ้าน โดยสามารถติดต่อกับผู้ต้องขังผ่านสมาร์ทโฟน ที่ทางเรือนจำจะจัดเตรียมไว้    

 “ผมขอการันตีเลยครับว่า เรือนจำที่นี่ปลอดโควิทแน่นอน เราทำงานกันอย่างหนัก เข้มข้น ระวังภัย ทั้งทุกภาคส่วนทั้งผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่ รวมถึงตัวของผบ.เรือนจำ เองก็ไม่มีข้อยกเว้น  เพราะเรารู้ดีกว่า ถ้าพลาดเกิดการระบาดขึ้นมา จะเกิดปัญหามาก เนื่องจากเรามีผู้ต้องขังเป็นหลักพัน” 

  และนี้ก็คือ มาตรการเข้มข้นในการป้องกันเชื้อโควิท 19 ของเรือนจำสมุทรสาคร จากฝีมือของ นายชำนาญ เล็กสกุล’ ผู้บัญชาการเรือนจำสมุทรสาคร ส่งผลให้ทุกวันนี้ สามารถ ‘เอาอยู่’ สกัดการแพร่ระบาดในเรือนจำได้ 100 %

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564