pearleus

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2561

อุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก ฉลองครบ 10 ปี เชิญชวนประชาชนเสริมบารมีรับปีใหม่62

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  29 ธันวาคม 2561 ม.ล.ภัทรสุดา กิติยากร เป็นประธาน ในงานครบรอบ 10ปี อุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายกซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพิฆเณศปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีหน้าตักกว้าง 9 เมตรสูง 15 เมตร และได้รับการยกย่องจากเลขาธิการศาสนสัมพันธ์ฮินดูโลกว่าเป็นพระพิฆเณศที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกันนั้นก็จะประกอบพิธีเบิกเนตรองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้ซึ่งมีมหาเมตตามหากรุณาต่อสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ พร้อมเชิญชวนทุกท่านมาเสริมความเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาราศีรับปีใหม่กันที่อุทยานพระพิฆเณศจังหวัดนครนายก ตลอดปี 2562
ม.ล.ภัทรสุดา กิติยากร กล่าวถึงพิธีการบวงสรวงองค์พระพิฆเณศ ณ อุทยานพระพิฆเณศ ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลกับผู้ที่มาร่วมพิธีและเดินทางมาสักการะขอพรในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมด้วยพิธีเบิกเนตรองค์พระแม่กวนอิม ปางประธานพร ผู้ซึ่งมีมหาเมตตามหากรุณาต่อสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ เพื่อผู้ที่มาขอพรที่อุทยานพระพิฆเณศได้พ้นจากความทุกข์ในชีวิตด้วยมหาเมตตาแห่งองค์พระโพธิสัตว์และประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองจากการสักการะเทพเจ้าแห่งความสำเร็จเทพเจ้าแห่งการประทานพร พระพิฆเนศวร ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง พร้อมกล่าวอวยพร เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2562 ขอให้ทุกท่านมีความสุขสวัสดี สมความปราถนาทุกประการ พร้อมกล่าวเชิญชวนทุกท่านมาเสริมความเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาราศีรับปีใหม่กันที่อุทยานพระพิฆเณศ จังหวัดนครนายก
ม.ล.อรุณกลม วรวุฒิ กล่าวถึงความประทับใจ ณ อุทยานพระพิฆเณศ ที่มีความงดงาม พร้อมด้วย องค์พระแม่กวนอิม ปางประธานพร ที่ได้เบิกเนตรในวันนี้ และขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ สร้างทานบารมี เสริมดวงชะตา รับปีใหม่ 2562 และเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2562 ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขสวัสดี สมความปราถนาทุกประการ
สุพัชชา สมบูรณ์ฐานะ ผู้จัดการอุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยนอกจากจะมีการไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ภายในอุทยานฯ แล้ว ในช่วงการจัดงานยังมีพิธีสำคัญโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการก่อตั้ง ทาง อุทยานพระพิฆเณศ จะกำหนดให้มีการจัดงานบวงสรวงสักการะ องค์พระพิฆเณศองค์ใหญ่ และพระโพธิสัตว์กวนอิม และยังมีการกำหนดให้มีพิธีสวดโซฮา ขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม2561 เป็นพิธีสำคัญในการเสริมก็ตาต่อบารมีให้กับประชาชนทั่วไป มีความเชื่อกันว่าบุคคลใดที่ได้เข้าไปอยู่ในพิธีสวดโซฮาและ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทำงานประสบความสำเร็จครอบครัวพบแต่ความสุข
อุทยานพระพิฆเณศ นครนายก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเณศขนาดใหญ่มหึมา ที่มีความสูงถึง 9 เมตร ซึ่งเป็นองค์ปูนปั้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2551 ซึ่งในปีพ.ศ.2561 โดยภายในอุทยานฯ แห่งนี้จะมีพระพิฆเณศองค์ใหญ่ 2 ปาง ตั้งอยู่ใกล้กัน ซึ่งทุกท่านจะพบกับความสวยงามและความยิ่งใหญ่อลังการอย่างที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมองค์พระพิฆเณศปางต่าง ๆ จำนวน 108 ปาง ที่ครบสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตลอดจนหอมหาเทพ ซึ่งประดิษฐานมหาเทพสูงสุดทั้ง 3 พระองค์ ได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ รูปปั้นฤๅษีปางต่าง ๆ ตำหนัก3 มหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ให้ประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาได้เข้ามาสักการบูชาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตกันอีกด้วย สามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้ที่อุทยานพระพิฆเณศจังหวัดนครนายก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร 088-914-1987

ตร.สืบชุด 2 มหาชัยส่งท้ายปีจอ จับผู้ค้ายาบ้า 2 ราย กว่า 6,000 เม็ด


เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 29 ธ.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุด 2  เมืองมหาชัย ภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑะศรี ผกก. พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.สุทธิศักดิ์ สิทธิโชคธรรม สว.สส. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อภิวิทย์ แจ่มแจ้ง สว.สส. ร.ต.อ.พีรยุุทธ บริสุทธิ์ธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุด 2 สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมกันวางสายขยายผลหลังได้รับรายงานจากสายว่าที่ห้องเช่าไม่มีเลชที่ หมู่บ้านเคหะชุมชนมหาชัย หมู่ที่ 4 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร  มีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดมาเช่าอาศัยพักยาเสพติดเพื่อกระจายส่งจำหน่ายให้ผู้เสพย์ตามสถานบันเทิงเมืองมหาชัย จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัว นายณัฐวุฒิ หรือ วุฒิรอดดารา อายุ  37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ที่ 5 ต.บางโทรัดฯ อาชีพบังหน้าขับรถรับจ้าง พร้อมของกลาง ยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก สีดำ รูปแอปเปิ้ล จำนวน 10 ถุงๆละ 200 เม็ด รวม 2,000 เม็ด ห่ออยู่ในกระดาษสา พบอยู่ในกล่องกระดาษวางไว้ใต้โต๊ะทีวี กับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสั่งและส่งยาเสพติดอีก 1 เครื่อง จึงคุมตัวมาสอบสวนขยายผล

ต่อมาเมื่อเวลา 17.25 น.ของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้นำกำลังไปตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 88/161 หมู่ที่ 7 ต.บางกระเจ้าฯ หมู่บ้าน  จับกุมตัว นายวัชระพล หรือบิว เฮงสกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 /4 หมู่ที่ 5 ต.บางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร เช่าพักอาศัยพบยาบ้า 2 มัด ห่อหุ้มด้วยกระดาษสา ภายในมีถุงพลาสติก สีน้ำฟ้า แบบซิปปิด เปิด จำนวนมัดละ 10 ถุงๆละ 200 เม็ด 2 มัด รวม 4,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ลิ้นชักเก็บของในห้องพร้อมด้วย อาวุธปืนขนาด .357 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 อยู่ในลูกโม่ 5 นัด โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร 1  เครื่อง จึงนำตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนเพื่อทำข้อมูลสมทบ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาว่ามี ยาเสพติดประเภทที่ 1(ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.




วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นอภ.บ้านแพ้วสั่งการจนท.จัดระเบียบผู้ประกอบการค้าของเก่า


 

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561  เวลา 12.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ ร.ต.ประพันธ์  ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว  มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแพ้ว
ดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านฝ่ายความมั่นคง  กรณีผู้ประกอบการค้าของเก่า  จัดวางสิ่งของไม่เป็นระเบียบ  สร้างทัศนียภาพในด้านลบกับผู้สัญจรทางถนน  และจัดวางสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรทางถนน  เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในการจัดการให้เรียบร้อย  เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น  และเป็นการสร้างหน้าร้านให้ดูเป็นระเบียบ  สร้างความรู้สึกในแง่บวกให้กับผู้สัญจรทางถนน  เจ้าหน้าที่ได้ให้เวลาในการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด  ผู้ประกอบการรับฟังคำแนะนำ และพร้อมปฎิบัติโดยเร็วที่สุด









วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

พม.เปิดศูนย์ฯนวัตกรรมอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการเป็นของขวัญปีใหม่62

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 61 เวลา 14.30 น. ที่บริเวณอาคารด้านหน้ากรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการภายในสถานสงเคราะห์บ้านราชวิถี ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์เรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ เพื่อเป็นศูนย์กลางการรวบรวมการศึกษา วิจัย และเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ และเป็นของขวัญปีใหม่ 2562 ส่งความสุขให้กับคนพิการทั่วประเทศ โดยมี นายปรเมธี  วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก องค์กรคนพิการจากทุกประเภทความพิการ และสถาบันการศึกษา เข้าร่วมงาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 300 คน
พลเอก อนันตพร กล่าวว่า รัฐบาล ได้ขับเคลื่อนนโยบายด้านสังคมที่มุ่ง “ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างการเข้าถึงบริการของรัฐ” โดยมอบหมายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงานด้านสังคมและวางรากฐานในการพัฒนาระยะยาว ตามยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ด้วยยุทธศาสตร์ชาติที่ 4 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ
สร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต และการมีส่วนร่วมเป็นพลังในสังคมสำหรับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนพิการ ด้วยการเชื่อมโยงระบบข้อมูลสวัสดิการและพัฒนาระบบสวัสดิการถ้วนหน้า สนับสนุนการพัฒนาบนฐานข้อมูลความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมโดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลมิติต่างๆ และพัฒนากลไกเพื่อสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รมว.พม.กล่าวต่อว่า ด้วยมติคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2561เห็นชอบให้มีการจัดตั้งศูนย์ฯดังกล่าว เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมและการแสดงสาธิตจำลองในด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความพิการและคนพิการ เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ
รวมทั้งการทดสอบและประเมินการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับความพิการ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกและการทดลองใช้อุปกรณ์ นวัตกรรม เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ การประเมินสาธิตทดลองการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกตามความจำเป็น และการให้บริการแก่คนพิการทุกประเภทความพิการ ทั้งด้านการศึกษา การทำงาน และการดำรงชีวิตอิสระของคนพิการให้สามารถอยู่ในสังคมอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน โดยมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2562 ส่งความสุขให้กับคนพิการทั่วประเทศ
ทั้งนี้ศูนย์ฯใช้พื้นที่ภายในบริเวณสถานสงเคราะห์      เด็กหญิงบ้านราชวิถี เพื่อจัดเป็นพื้นที่ต้นแบบ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 การจัดบริการสำหรับคนพิการ ได้แก่ ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร และบริการสายด่วนคนพิการ 1479
โซนที่ 2 ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยีสิ่งอำนวความสะดวกสำหรับคนพิการ แบ่งออกเป็น 5 ห้อง คือ ห้องข้อมูล ห้องการเข้าถึงและใช้ประโยชน์สภาพแวดล้อมสาธารณะ ห้องเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องนวัตกรรมต้นแบบ และห้องประเมินเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก
โซนที่ 3 แบบบ้านจำลองสำหรับคนพิการ โซนที่ 4 การฝึกอาชีพและขายผลิตภัณฑ์คนพิการ ได้แก่
ร้าน DIS-ABILITY ร้านกาแฟ For All Coffee ร้าน 60 plus และร้าน Chocolate Cafe และ โซนที่ 5 อาคารฝึกอบรมคนพิการครบวงจรของศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชีย และแปซิฟิก หรือ APCD

นอภ.บ้านแพ้วสั่งจนท.ตรวจสอบผู้ประกอบการเครื่องยนต์ถูกร้องเรียน


วันที่ 26/12/61 เวลา 9.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ ร.ต.ประพันธ์  ถึกสกุล  นายอำเภอบ้านแพ้ว  มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแพ้ว ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.อำแพง  เจ้าหน้าที่ อบต.อำแพง ดำเนินการตามข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านฝ่ายความมั่นคง  กรณีมีผู้ประกอบการประเภทจำหน่ายเครื่องยนต์ปล่อยปละละเลยในการดูแลความสะอาดบริเวณร้าน  ทำให้มีน้ำมันจาระบี เปรอะเปื้อนบริเวณถนน  ซึ่งอาจทำให้ประชาชนผู้สัญจรทางถนนเกิดอุบัติเหตุได้ 
จากการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว  มีการสร้างหน้าร้านรุกล้ำที่ดินสาธารณะ  และไม่ได้ขออนุญาตเป็นผู้ประกอบการประเภทขายของเก่า  เจ้าหน้าที่จึงได้ให้เวลาในการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย  มิฉะนั้นจะใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด  ผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี









'ศรีวราห์' เรียกประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยช่วยเทศกาลปีใหม่


วันพฤหัสบดีที่ 27 ธ.ค.61 เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค) เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อซักซ้อมการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพื้นที่การจัดงานช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2562
โดยมี พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ , พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. , ข้าราชการชำรวจชุดปฏิบัติการ และผู้แทนจากสถานที่จัดงานต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมใหญ่ บช.น. จากนั้นได้เดินทางมาชมระบบการทำงานรถโมบายของ กองบังคับการตำรวจสื่อสาร บริเวณถนนด้านหน้า บช.น./














วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

พม.เปิดโครงการ"ออมเวลา"นำร่องเขตดินแดงมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561) เวลา 14.00 น. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปรเมธี วิมลศิริ เป็นประธานเปิดโครงการออมเวลา จิตอาสาใส่ใจพัฒนาสังคม โดยมีนางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การเคหะแห่งชาติ และผู้อยู่อาศัยในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 เข้าร่วมในพิธีเปิด อาคารโครงการฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดงระยะที่ 1 เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มคนในพื้นที่ดูแลซึ่งกันและกันในรูปแบบธนาคารเวลาเพื่อเปิดการดำเนินงานพื้นที่นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยใช้รูปแบบของธนาคารเวลา โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 200 คน
นายปรเมธี กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากการเคหะแห่งชาติ กองทุนการออมแห่งชาติศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง และเทศบาลตำบลช่องลม อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่อาคารโครงการฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดง ระยะที่ 1 เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่นำร่อง มีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพื่อยกระดับระบบการดูแลผู้สูงอายุ และระบบการให้บริการด้านสวัสดิการผู้สูงอายุให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลตลอดจนเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับทุกคนทุกวัยในการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และจะขยายการดำเนินงานธนาคารเวลาให้ครบทั้ง 50 เขต กรุงเทพมหานคร ซึ่งการดำเนินโครงการธนาคารเวลาสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. ได้สนับสนุนพื้นที่ที่ดำเนินงานโครงการธนาคารความดีเข้าร่วมการเป็นพื้นที่นำร่องและมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจเข้าร่วมเป็นพื้นที่นำร่อง รวมมีพื้นที่นำร่องโครงการธนาคารเวลาในส่วนภูมิภาคจำนวน 42 พื้นที่ 28 จังหวัด
นายปรเมธี กล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการออมเวลา จิตอาสาใส่ใจพัฒนาสังคม เป็นการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการจัดสวัสดิการ และการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิผู้สูงอายุ ซึ่งธนาคารเวลาสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ เป็น 1 ในมาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติ เรื่อง สังคมผู้สูงอายุ โดยศึกษารูปแบบการดำเนินงานธนาคารเวลาในต่างประเทศนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้คนในสังคมดูแลซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยจิตอาสาจะได้รับการดูแลหรือการตอบแทนอื่น ๆ ตามเวลาจำนวนที่สะสมไว้โดยการดำเนินการที่ชุมชน อาคารแปลงจี ดินแดง ประกอบด้วยกิจกรรมสร้างสุขฝึกอาชีพ การตรวจสุขภาพ การจัดบริการรับ - ส่ง ไปโรงพยาบาล การให้คำปรึกษา ดูแลความสะอาดภายในห้องผู้สูงอายุ สำหรับผู้อยู่อาศัย จำนวนทั้งสิ้น 956 คน เป็นผู้สูงอายุจำนวน 252 คน และมีจิตอาสาธนาคารเวลา จำนวน 21 คน
ทั้งนี้ กระทรวง พม. ขอฝากทุกท่านได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของสังคมผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้คนในสังคมร่วมดูแลซึ่งกันและกัน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุได้ และขอให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมร่วมขับเคลื่อนการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุร่วมกันต่อไป และขอเชิญชวนผู้สนใจ เข้าร่วมเป็นจิตอาสาโครงการธนาคารเวลา โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมกิจการผู้สูงอายุ www.dop.go.th เว็บไซต์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ www.m-society.go.th  เฟสบุ๊ค ธนาคารจิตอาสา (FB : Jitarsabank) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองส่งเสริมสวัสดิการและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ หมายเลข 0-2642-4306 หรือ สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า แม้โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 จะเป็นโครงการใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ แต่ผู้อยู่อาศัยในอาคารเป็นผู้อยู่อาศัยเดิมที่มาจากโครงการเคหะชุมชนดินแดง ซึ่งถือเป็นชุมชนดั้งเดิมที่อยู่กันมายาวนานกว่า 50 ปี ดังนั้นการอยู่อาศัยร่วมกันของคนในชุมชนจะเป็นเสมือนครอบครัวใหญ่ที่คอยดูแลพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เมื่อมีโครงการธนาคารเวลาเข้ามา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดจิตอาสาให้เข้ามาดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้น
สำหรับโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1
ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ 956 คน แบ่งออกเป็นผู้สูงอายุ 252 คน ผู้พิการ 12 คน และผู้ป่วยติดเตียง 1 คน ปัจจุบันการดำเนินงานโครงการธนาคารเวลาได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากคณะกรรมการเฉพาะกิจอาคารโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 จำนวน 12 คน มีอาสาสมัครที่จะเข้ามาเป็นจิตอาสาคอยให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ 20 คน และจะมีการรับสมัครอาสาสมัครในโครงการธนาคารเวลาเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับผู้สูงอายุในโครงการฯ ต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นจิตอาสาโครงการธนาคารเวลา สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมกิจการผู้สูงอายุ www.dop.go.th เว็บไซต์กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ www.m-society.go.th เฟซบุ๊กธนาคารจิตอาสา (FB : Jitarsabank) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองส่งเสริมสวัสดิการและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ โทร. 0 2642 4306 หรือ สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300