pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตำรวจทางหลวงและกู้ภัยทางหลวงร่วมปล่อยแถวรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่

1387966261765

23 ธ.ค.56 เวลาประมาณ 11.00 น. การทางพิเศษระหว่างเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และกู้ภัยทางหลวงร่วมปล่อยแถวรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สำนักบำรุงทางที่ 21 มอเตอร์เวย์สาย7 (อ่อนนุช) มี รมว.คมนาคม เป็นประธาน, ผบก.ทล., ผอ.การทางพิเศษระหว่างเมือง ร่วม

จังหวัดนครปฐมมอบทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ ประจำปีการศึกษา 2556 แก่เด็กนักเรียนกำพร้าที่ครอบครัวประสบอุทกภัย

______

วันที่ 25 ธันวาคม 2556 นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานมอบทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ ประจำปีการศึกษา 2556 แก่เด็กนักเรียนกำพร้าที่ครอบครัวประสบอุทกภัย ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม ได้มีการมอบทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ ประจำปีการศึกษา 2556 แก่นักเรียนกำพร้าที่ครอบครัวประสบอุทกภัย โดยมี นายสุเทพ โชคบุญธิยานนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม กล่าวรายงาน สืบเนื่องจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้อนุมัติทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาสงเคราะห์แก่นักเรียนทุนพระราชทานฯ ที่มีภูมิลำเนาและกำลังศึกษาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จำนวน 8 ราย ประจำปีการศึกษา 2556

เนื่องจากครอบครัวประสบอุทกภัย และบิดาเสียชีวิตเมื่อปี 2554จำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 27 อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 23 อำเภอนครไทย จังหวัดพิษนุโลก จำนวน 7 ราย ที่ย้ายมาศึกษาต่อที่จังหวัดนครปฐม โดยมูลนิธิประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โอนเงินทุนพระราชทาน การศึกษาสงเคราะห์ ประจำปี 2556 เข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ของนักเรียนแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งจัดส่งอุปกรณ์การเรียนให้จังหวัดนครปฐมเพื่อมอบทุนให้แก่นักเรียนทุนฯ สำหรับในวันนี้ได้มอบทุนให้กับนักเรียนจำนวน 8 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 110,000 บาท ประกอบด้วย เด็กชายณภัทร ราโรจน์ อายุ 5 ปี เรียนระดับชั้นอนุบาล โรงเรียนอนุบาลเอื้อเพชร ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 5,000 บาท, นางสาวสิริวิมล สีโนนยาง อายุ 19 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ ๑ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับเงินทุนการศึกษา จำนวน 15,000 บาท, นายกิติพงษ์ นามเกียร อายุ 19 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับทุนการศึกษา จำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท, นายอภิชาติ ทองภู อายุ 19 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 15,000บาท, นางสาวรัชรินทร์ อินทะวงค์ อายุ 19 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 15,000 บาท, นายธนาพร ธรรมดี อายุ 18 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 15,000 บาท, นายวีรยุทธ โพธิ์ศรี อายุ 19 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 15,000 บาท, นางสาวชนิกานต์ จันทร์ดา อายุ18 ปี เรียนระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 15,000 บาท

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

รายงานพิเศษ : เปิดประตูอาเซียน

อาเซียน1

          จุดเปลี่ยนผ่านสำคัญที่คนไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนอีก 9 ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไทย และนับเป็นโอกาสสำคัญเมื่อสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมระหว่างอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมาโดยนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยเกี่ยวกับโอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับในครั้งนี้ ว่า สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 จะช่วยผลักดันให้จังหวัดเชียงราย เป็นเมืองสำคัญและมีบทบาททางเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนบน ของไทยมากขึ้น ทั้งการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่จะใช้เส้นทาง R3A ที่เชื่อมระหว่างเมือง คุนหมิง มณฑลยูนนาน ในจีนตอนใต้ผ่านบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา และแขวงบ่อแก้วของ สปป.ลาว เข้าสู่ ประเทศไทย ที่ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ดังนั้นปฎิเสธไม่ได้ว่าสะพานแห่งนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน และสนับสนุนการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 รวมทั้งการเชื่อมระหว่างภูมิภาคอาเซียนกับจีนตอนใต้นอกจากนี้ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้ และ สปป.ลาว ซึ่งกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้นตามการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวตามเส้นทาง R3A มีความสะดวกและรวดเร็ว ด้านกลยุทธ์ตลาดเอเชียในปี 2557 เตรียมรุกเจาะตรงผู้บริโภค หรือ บีทูซี เพื่อรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ในเอเชียที่เพิ่มมากขึ้น โดยในตลาดจีนสัดส่วนเริ่มสูงเป็นร้อยละ 40 คาดว่าเมื่อกฎหมายท่องเที่ยวจีนฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ในเชิงควบคุมบริการของบริษัททัวร์มากขึ้นจะทำให้ตลาด FIT มีโอกาสเพิ่มสูงถึงร้อยละ 50-60นอกจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตแล้ว เชื่อว่าธุรกิจการค้าชายแดนไทยยังจะขยายตัวตามเศรษฐกิจ ที่ปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยนายรชต เลิศทรัพย์สุรีย์ ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร กล่าวว่า การเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) จะทำให้มูลค่าการค้าขายชายแดนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10ในปี 2560 ซึ่งมูลค่าการค้าในปัจจุบันมีมูลค่าเฉลี่ยที่ 13,000 ล้านบาทต่อปี โดยสินค้าที่มีการนำเข้าส่วนใหญ่ เป็นพืชผักทางการเกษตร และผลไม้

อย่างไรก็ตาม เมื่อการคมนาคมขนส่งเติบโตขยายตัวรองรับกับภาวะเศรษฐกิจ และความเจริญที่จะมีขึ้น ในปี 2558 ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจอื่น ๆ ควรศึกษาการเตรียมความพร้อม เพื่อนำโอกาสมาต่อยอดธุรกิจให้เกิดความแข็งแกร่งสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ในอนาคตอันใกล้นี้

ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกไปจนถึงช่วงปีใหม่ ภาคใต้ บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจาก ประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกไปจนถึงช่วงปีใหม่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-6 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศหนาวกับมีหมอก ในตอนเช้า บริเวณยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก อากาศเย็นกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันตก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ตำรวจทางหลวง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่

          พลตำรวจตรีพงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีปล่อยแถวขบวนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และระดมกำลังออกปฏิบัติอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เทศกาลปีใหม่ 2557 ณ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อบริการประชาชนและเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางถนน ว่า เจ้าหน้าที่พร้อมในทุกด้านเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด โดยปีนี้บริเวณถนนพหลโยธินจะเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. คาดว่าจะช่วยระบายจำนวนรถที่จะออกจากกรุงเทพมหานครได้เป็นจำนวนมาก

ส่วนการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด นั้น ได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ควบคู่กับการดำเนินการตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์และสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ ฝากถึงประชาชนที่จะเดินทางไป และกลับ จากการพักผ่อน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ศึกษาเส้นทางที่จะเดินทาง และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันปัญหาอุบัติเหตุ ที่อาจเกิดขึ้น

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เปิดตลาดนัดสมุนไพรจัดชุดกระเช้าสมุนไพร 6 แบบ เป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ซื้อเป็นของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เปิดตลาดนัดสมุนไพรจัดชุดกระเช้าสมุนไพร 6 แบบ เป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ซื้อเป็นของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม นี้

นายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการทำดีเพื่อพ่อ ตามรอยวิถีพอเพียง ด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่อาคารการแพทย์แผนไทยหลังใหม่ ภายในกระทรวงสาธารณสุข จนถึงวันที่ 27ธันวาคม นี้ โดยจัดเป็น ตลาดนัดสุขภาพรวบรวมสินค้าเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรไทยและสินค้า OTOP หลากหลายมาจัดจำหน่าย โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ได้จัดชุดกระเช้าสุขภาพ 6 กลุ่มมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ประชาชนได้เลือกซื้อหาเป็นของขวัญของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้แก่ กระเช้าอายุวัฒนะ กระเช้าสาวพันปี กระเช้าชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ กระเช้าไม้สมุนไพรนานาพันธ์ กระเช้าน้ำสมุนไพร และกระเช้าสมุนไพรป้องกันโรคเรื้อรัง เพื่อหวังให้ประชาชนไทยเน้นใช้ของไทย และให้ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพแทนของขวัญที่ทำลาย ลดการพึ่งพายานำเข้าจากต่างประเทศที่ปัจจุบันไทยมีสัดส่วนนำเข้ายา จากต่างประเทศถึงร้อยละ 75 มูลค่ากว่าแสนล้านบาทต่อปี หากคนไทยหันมาใช้ยาไทยมากขึ้นจะช่วยลดเม็ดเงินที่ไหลออกนอกประเทศได้

สำหรับปีนี้กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ชูเรื่องสมุนไพรที่เป็นยาอายุวัฒนะ เสริมความแข็งแรง ของร่างกาย ชะลอความเสื่อม บำรุงร่างกายผิวพรรณ ปรับธาตุให้สมดุล คงความเป็นหนุ่มสาวได้ยาวนานขึ้นด้วยสมุนไพรง่ายๆ ที่ประชาชนสามารถหาได้ใกล้ตัว อาทิ พริกไทย ใบบัวบก บอระเพ็ด เป็นต้น

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ชวนนักท่องเที่ยวชมหมู่บ้านช้าง

         นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดปีใหม่ 5 วัน จังหวัดสุรินทร์เชิญชวนนักท่องเที่ยวชมหมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ชมวิถีชีวิตระหว่างคนกับช้างที่อาศัยอยู่ในเรือนเดียวกัน เสมือนสมาชิกที่มีความผูกพันกันมานับร้อยปี โดยหมู่บ้านช้างจังหวัดสุรินทร์ ตั้งอยู่ที่ ม.9 และ ม.13 บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม อยู่ห่างจากจังหวัดสุรินทร์ไปทางทิศเหนือ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 214 (สุรินทร์-ร้อยเอ็ด) ก่อนถึงอำเภอท่าตูม จะมีทางแยกซ้ายตรงหลักกิโลเมตรที่ 36 เข้าปากทางบ้านกระโพ ตรงเข้าไปตามถนนลาดยางอีกประมาณ 22 กิโลเมตร ก็จะถึงเขตหมู่บ้าน พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตนี้เป็นที่นาและป่าละเมาะ สลับกับป่าโปร่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด บริเวณนี้จึงเหมาะสมกับการเลี้ยงช้างอย่างที่สุด

ดังนั้น ถ้าท่านได้ไปที่บ้านตากลาง นอกจากจะได้เห็นสภาพโรงช้างดังกล่าวแล้ว ยังจะได้สัมผัสการดำรงชีวิตของชาวส่วยพร้อมทั้งจะได้พบปะพูดคุยกับหมอช้างที่มีประสบการณ์ในการคล้องช้างมาแล้วหลายครั้งได้ตลอดเวลา และยังสามารถเดินทางชมจุดบริเวณที่ลำน้ำชีและแม่น้ำมูลไหลมารวมกัน ซึ่งห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร ซึ่งเรียกว่า วังทะลุมีทัศนียภาพที่งดงามน่าพักผ่อนหย่อนใจและชวนให้ศึกษาในเชิงของธรรมชาติด้วย นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างขึ้นในหมู่บ้านด้วย ทั้งนี้เพื่อเก็บรวบรวมประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับช้าง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการคล้องช้าง และให้ความรู้ในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับช้าง และจะมีการแสดงช้างให้ชมเป็นประจำทุกๆ วัน วันละ 2 รอบ เช้า-บ่าย รอบเช้า เวลา 10.00 น. รอบบ่ายเวลา 14.00 น. ที่บริเวณลานแสดงของศูนย์ศึกษา อัตราค่าเข้าชม ชาวไทยผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็ก 20 บาท นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบฟรี ชาวต่างประเทศ คนละ 100 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองวันชมการแสดงล่างหน้าได้ที่ ศูนย์ศึกษา โทร 0-4451-7461

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์-นสพ.-สภาวิชาชีพข่าว ร่วมแถลงยุติ แทรกแซงคุกคามสื่อ

Untitled-1

แถลงการณ์เรื่องขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

จากที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระม

หากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำมวลชนไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส

โดยกดดันให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของกปปส.

และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาลนั้นองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบด้วย

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน

ซึ่งขัดแย้งต่อเจตนารมณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ที่กปปส.กล่าวอ้างว่าจะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

และขอให้กปปส.ยุติการกระทำดังกล่าวทันทีองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนขอยืนยันหลักการว่า

สื่อมวลชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นของทุกฝ่ายตามรัฐธรรมนูญ

ดังนั้นกองบรรณาธิการและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในสถานีโทรทัศน์ต่างๆ

ต้องยืนหยัดในหลักการดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

ซึ่งเป็นสื่อสาธารณะที่มีกฎหมายรองรับความเป็นอิสระ จะต้องยืนยันหรือไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามากดดัน

หรือครอบงำการนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยเด็ดขาด หากต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกดดันหรือครอบงำ

การยุติการออกอากาศถือเป็นแนวทางปฏิบัติตามหลักสากลที่ควรกระทำอย่างไรก็ตาม

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความเข้าใจถึงมูลเหตุ ที่กลุ่มมวลชนของกปปส.ไม่พอใจสถานีโทรทัศน์ต่างๆ

ซึ่งที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น

ทั้งๆ ที่เป็นสถานการณ์สำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

นับตั้งแต่เหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ที่มีความต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ในวันที่ 1 ธันวาคม

2556 โดยปรากฏว่าสถานีโทรทัศน์ส่วนใหญ่ยังคงนำเสนอรายการตามผังรายการตามปกติ

เป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์ของสถานีเป็นหลัก

มากกว่าการคำนึงถึงสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนขณะเดียวกัน

สถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐ

ซึ่งมีรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้มีความอิสระในการเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน

และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาล

จะต้องไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาทิ

กรณีที่รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์สั่งให้สื่อในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์นำเสนอข่าวสารเชิงบวกต่อรัฐบ

าล(อ้างถึงบันทึกเลขที่นร0213.071721 เรื่องขอให้กำกับดูแลการนำเสนอข่าวลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556)

เป็นต้นองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวล

ชนในภาคสนามทุกคน โดยขอให้ระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเกินความจำเป็น

ทั้งนี้ ให้ตระหนักว่าความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน

มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านมานำเสนอต่อสาธารณะช

นเราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทุกคน ที่นำเสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านต่อประชาชน

และขอให้ทุกฝ่ายเคารพและไม่แทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในทุกรูปแบบ

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์

1 ธันวาคม 2556