pearleus

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

สมุทรสาคร จัดพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๓



วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๗.๐๐ น.นำโดยนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร สมาชิกสภาเทศบาล รองปลัดเทศบาลฯ หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล ผู้อำนวยการสถานศึกษา พนักงานครู และประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ บริเวณหน้า สำนักงานเทศบาลนครสมุทรสาคร
 โดยพิธีการเริ่มด้วย ประธานจุดเทียน ธูป บูชา พระรัตนตรัย พิธีถวายปัจจัยไทยธรรม พิธีกรวดน้ำ จากนั้น ประธานในพิธี แขกผู้มีเกียรติ และประชาชน ร่วมกันใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และเพื่อเป็นความสิริมงคลแก่ชีวิต เนื่องใน วันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๓

ภาพ  / ข่าว จากเทศบาลนครสมุทรสาคร 








วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2562

อ.เมืองสค. ตั้งด่านชุมชนป้องกันอุบัติภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563


         วันที่ 29 ธันวาคม 2562 ภายใต้การอำนวยการของนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร มอบหมายให้นายสิริพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองสมุทรสาครที่ 1 ชุดชรบ. เฉพาะกิจ อำเภอเมืองสมุทรสาคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. ฯลฯ ดำเนินการด่านชุมชน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และสกัดกั้นบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร  บริเวณที่ทำการกำนันตำบลท่าทราย หมู่ที่ 6 ตำบลท่าทราย  ถนนเลียบคลองบางน้ำจืด หมู่ที่ 3 ตำบลบางน้ำจืด .บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ซีเจ. หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านบ่อ
 โดยตักเตือน ผู้ขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งไม่สวมหมวกนิรภัย และให้คาดเข็มขัด โดยให้นำหมวกนิรภัยมาถึงปล่อยรถไปต่อ ดำเนินการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำ และตักเตือนตามมาตรการ 10 รสขม ให้กับผู้ขับขี่ยานพาหนะ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป











วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ผู้ว่า ฯ สค. ตรวจเยี่ยมจุดบริการอำนวยความปลอดภัย Proto Go ท่าจีน



วันที่ 28 ธันวาคม 2562 เวลา 11.30 น.  ณ จุดบริการ Proto Go ท่าจีน ตำบลบางโทรัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร นายวีระศักดิ์​ วิจิต​ร์​แสง​ศรี​ ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​สมุทรสาคร​ พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รอง ผวจ.สค. มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ ประกอบด้วย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร กำนันตำบลกาหลง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร อส. อาสาสมัครกู้ภัย พยาบาล อาชีวะอาสา จิตอาสาจราจร  ของจุดตรวจจุดบริการอำนวยความปลอดภัย​ทางท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 และช่วง 7 วัน อันตราย 27 ธันวาคม -​ 2 มกราคม 2563
           ในการนี้ ผวจ.สมุทรสาคร​ได้เน้นย้ำมาตรการรณรงค์ "ขับขี่มีน้ำใจ เสริมสร้างวินัยจราจร"  ด้วยมาตรการจับจริง 10 รสขม. ขับรถความเร็วเกินกำหนดตามกฏหมาย/ขับรถย้อนสอน/ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร/ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย/ไม่มีใบขับขี่/แซงในที่คับขัน/เมาสุรา/มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย/ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่/รวมถึงกฏหมายควบคุมแอลกอฮอล์และสุรา นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำ ให้ใช้มาตรการ "เคาะประตูบ้าน" โดยผู้นำชุมชน ประชาคมชุมชน ให้ความรู้และมาตรการเตือน ป้องกัน ไม่ให้ผู้เมาสุราขับขี่ยานพาหนะ มาตรการปลูกจิตสำนึกสร้างสติ สมาธิ ผ่านกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี  รวมถึงการบูรณาการทำงานของภาคส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างเต็มที่ตลอดห้วงระยะเวลาช่วงเทศกาลปีใหม่








วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

มท.2 เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 (คลิป)




     เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.62) เวลา 09:20 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563  
     นายนิพนธ์ บุญญามณี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน มีความห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จึงได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเต็มกำลัง โดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง   ในช่วงการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจรระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563
โดยมุ่งดำเนินมาตรการลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนอย่างรอบด้าน ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม   ภายใต้หลัก 3 ร. ของนายกรัฐมนตรี ได้แก่ รักตัวเอง รักครอบครัว และรักผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น รวมถึงดำเนินการตามแผนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น เน้นการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสิ่งแวดล้อม โดยปรับปรุงถนนและสภาพแวดล้อมริมทาง แสงสว่างป้ายเตือน สัญญาณไฟ และไฟส่องสว่าง พร้อมปฏิบัติการเชิงป้องกันด้วยการจัดตั้งจุดตรวจในเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งเส้นทางสายหลัก สายรอง และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างตำบล/หมู่บ้าน รวมถึงเสริมประสิทธิภาพการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ ผ่านกลไกพลังชุมชนและจิตอาสา โดยเฉพาะการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย อีกทั้งตรวจสอบสภาพความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะและกวดขันความพร้อมของพนักงานขับรถ เข้มงวดการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ จัดเตรียมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้พร้อมช่วยเหลือและส่งต่อผู้บาดเจ็บอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่ ตลอดจนรณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนนในรูปแบบการสร้างการรับรู้มาตรการบังคับใช้กฎหมาย สถานการณ์อุบัติเหตุ การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และการส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกิจกรรมทางศาสนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ขับรถอย่างมีวินัย และมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ถึงจุดหมายด้วยความสุขและความปลอดภัย


Fast 10 มาแล้วว… สิบล้อคลั่งยาแหกด่านบ้าระห่ำ (คลิป)



 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นครชัยศรี รวบผู้ต้องหาคลั่งยาบ้า ขับสิบล้อผ่าด่าน หนีการจับกุม  ทั้งนี้ขณะก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ตั้งด่านตรวจรถยนต์บนถนนในชนบทเส้นทางแหลมบัว-นครชัยศรี หมู่ 1 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกรถบรรทุกสิบล้อเพื่อขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ตามปกติแต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคนขับรถไม่ยอมหยุดรถกับเร่งเครื่องยนต์ฝ่าด่านตรวจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องวิ่งหลบกันจ้าระหวั่นจากนั้นจึงวิทยุขอกำลังตำรวจไล่ล่าแล้วเรียกให้หยุดแต่คนขับไม่สนใจไม่ยอมหยุดรถโดยขับมุ่งหน้าผ่านแยกวัดเสถียรตัดถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า กทม.
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเรียกให้จอดหลายครั้งก็ไม่เป็นผลและไม่สนใจเพื่อนร่วมทางที่อาจเกิดได้รับอันตราย ตำรวจจึงขับแซงนำหน้าโดยส่งสัญญาณให้รถคันอื่นๆได้รับรู้ให้หลบทางรถสิบล้อที่ขับอย่างบ้าระห่ำผ่านหน้าห้างโลตัส นครชัยศรี ผ่านด่านตาชั่งท่าตำหนัก มุ่งหน้าตรงไปทางสามพราน รถยรต์เก๋งตำรวจทางหลวง และรถยนต์กระบะของ สภ.นครชัยศรี นำหน้าและประกบข้างแล้วชลอความเร็วจึงเป็นผลสำเร็จ จากนั้นตำรวจจึงวิ่งกรูกันขึ้นบนรถบรรทุกทั้งซ้ายและขวาช่วยกันออกแรงจับกุมตัวคนขับให้ลงจากรถแต่คนขับรถสิบล้อยังดิ้นไม่ยอมหยุดทำให้ตำรวจต้องเพิ่มกำลังจับใส่กุญแจมือส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีทราบชื่อภายหลังชื่อ นาย เจริญ สร้อยสวัสดิ์ อายุ 54 ปี  บ้านเลขที่ 2/4 ม.5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

พร้อมด้วย รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 99-1247 กรุงเทพมหานคร
ตรวจผลสารเสพติดให้โทษประเภท1 จากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมโดยข้อกล่าวหาว่า  เป็นผู้ประจำรถ ขับขี่รถบรรทุก ขณะในร่างกายมีสารเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย
2.ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงถึงความปลอดภัยหรืกอความเดือดร้อนของผู้อื่น ก่อนนำตัว ผู้ต้องหา ส่ง พงส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ตม.รวบโค้ชนักปั่น อดีตเหรียญทองโอลิมปิก แอบทำงานไม่มีใบอนุญาต


 เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.๑ ได้ร่วมกันจับกุม MR.MARC อายุ ๓๗ ปี โค้ชจักรยานระดับโลกอดีตนักปั่นแชมป์โอลิมปิค สัญชาติ นิวซีแลนด์  ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน เหตุเกิดที่ สถาบันส่งเสริมสุขภาพด้านการกีฬาประเภทจักรยาน แบงคอก เก็ท ฟิท (Bangkok Get Fit)
            การจับกุมในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.๑ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าสถาบันส่งเสริมสุขภาพด้านการกีฬาประเภทจักรยาน แบงคอก เก็ท ฟิท (Bangkok Get Fit) ซึ่งเปิดสอนการปั่นจักรยานให้กับบุคคลทั่วไป ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท ๒๖  มีโค้ชหรือครูฝึกทั้งคนไทยและคนต่างชาติ คอยให้การดูแลแนะนำแก่ผู้มาใช้บริการ โดยโค้ชชาวต่างชาติน่าจะทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.๑ จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ต่างๆของสถาบันฯ พบว่าสถาบันฯมีการแนะนำโค้ชชาวต่างชาติซึ่งเป็นโค้ชระดับโลกและเป็นอดีตนักปั่นแชมป์โอลิมปิคและแชมป์โลกเป็นผู้ควบคุมการซ้อม เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อมูลคนต่างชาติในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองโดยละเอียดอีกครั้ง พบว่าโค้ชคนดังกล่าวเดินทางเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวและไม่ได้มีการขออนุญาตทำงาน  หลังจากทราบข้อมูลแน่ชัดว่ามีการจ้างคนต่างชาติทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานจริง  เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ สถาบันส่งเสริมสุขภาพด้านการกีฬาประเภทจักรยาน แบงคอก เก็ท ฟิท (Bangkok Get Fit)  ขณะเข้าตรวจสอบพบผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่งกำลังออกกำลังกาย โดยมีทั้งโค้ชคนไทยและคนต่างชาติเป็นผู้ควบคุมแนะนำการฝึกซ้อม ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานของโค้ชชาวต่างชาติ ทราบว่า ชื่อ MR. MARC อายุ ๓๗ ปี สัญชาติ นิวซีแลนด์ เป็นอดีตแชมป์โลกจักรยานและแชมป์โอลิมปิค ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราวโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีเอกสารแสดงการได้รับอนุญาตทำงาน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และทำการจับกุมส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สตม.ดำเนินคดีต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507  ซ.สวนพลู  แขวงทุ่งมหาเมฆ  เขตสาทร  กรุงเทพมหานคร  10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th













ตม.1 บุกทลายสปาเกย์หรูครบวงจร กลางกรุง แฝงมั่วเซ็กส์


เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2562  เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์  ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., ร่วมกันแถลงข่าว  ตม.1 บุกทลายสปาเกย์หรูครบวงจร กลางกรุง แฝงมั่วเซ็กส์
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 ได้เข้าทำการจับกุมร้านนวดสปา THE PRINCE ซึ่งร้านดังกล่าวเปิดบริการเป็นร้านนวดสปา แต่แฝงให้บริการทางเพศ โดยสามารถจับกุมพนักงานนวดชายชาวต่างชาติได้จำนวนหลายราย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้สืบสวนขยายผลต่อ จนสืบทราบว่า พนักงานนวดชายจำนวนหนึ่ง ได้หลบมาทำงานในลักษณะเดียวกันอยู่ที่ร้าน V CLUB 7 (วีคลับเซเว่น) ย่านซอยอารีย์ 4 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้ตรวจสอบและหาข้อมูลของร้านดังกล่าว จากทางเว็บไซต์ www.vclub7.net พบว่า ทางร้านได้มีการโฆษณาเผยแพร่ภาพเกี่ยวกับการให้บริการอย่างครบวงจร มีข้อความเชิญชวนให้ลูกค้ามาลองสัมผัสการนวดสปา ที่จะพบกับความสุขและความผ่อนคลายอย่างมีระดับ มีการแจ้งรายละเอียดคอร์สพร้อมห้องนวดสปาหลากหลายให้เลือกสรร พร้อมทั้งโพสต์รูปพนักงานนวดผู้ชาย มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ หุ่นหล่อล่ำ หน้าตาดี ใส่เฉพาะกางเกงใน เน้นโชว์สรีระรูปร่าง ความวาบหวิว เพื่อเป็นการดึงดูดใจลูกค้าให้มาใช้บริการ โดยเปิดให้บริการกับลูกค้าทั่วไป เน้นลูกค้าผู้ชายชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้ทำการวางแผนเข้าทำการจับกุม โดยให้สายลับเข้าไปใช้บริการนวดสปาที่ร้าน V CLUB 7 (วีคลับเซเว่น) และนัดแนะกับสายลับว่าเมื่อเข้าไปใช้บริการ หากพบพนักงานนวดที่ลักษณะคล้ายคนต่างด้าวให้ส่งสัญญาณเข้าทำการจับกุมทันที เมื่อสายลับส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในร้านนวดสปาดังกล่าว พบว่า เป็นอาคารสามหลังเชื่อมต่อกันได้ มีทางเข้า-ออกสลับซับซ้อนหลายช่องทาง ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบวงจร เช่น ห้องพักแบบโฮสเทล เคาน์เตอร์บาร์ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบซาวน่า ห้องนวดสปา พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนและสำหรับนั่งรับประทานอาหารที่ติดกับสวนหย่อมและสระว่ายน้ำ บริเวณชั้นล่างจะมีเวทีเป็นชั้นๆ สำหรับพนักงานนวดชาย นั่งรอให้ลูกค้าเลือกเพื่อไปให้บริการนวด ส่วนใหญ่ไม่สวมเสื้อ ใส่เพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว จากการตรวจค้นบริเวณห้องนวดชั้นบนของอาคาร พบพนักงานชายเปลือยกายกำลังให้บริการแก่ลูกค้า และยังพบถุงยางอนามัยทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้อีกจำนวนหลายชิ้นอยู่บนที่นอนและถังขยะภายในห้องนวด จากการตรวจสอบพนักงานนวดชายทั้งหมด มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ มากกว่า 30 คน และจากการตรวจเอกสารหลักฐานการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของพนักงานนวดชายชาวต่างชาติ พบว่าเป็นคนต่างชาติกระทำความผิด จำนวน 11 ราย แยกเป็น สัญชาติกัมพูชา 1 ราย  เมียนมา 4 ราย  ลาว 4 ราย และเวียดนาม 2 ราย ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหา เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้
ภายหลังการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับทั้ง 11 ราย ให้ทราบแล้ว ได้นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายจ้างเจ้าของร้านดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป











Fast 10 มาแล้วว… สิบล้อคลั่งยาแหกด่านบ้าระห่ำ



 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นครชัยศรี รวบผู้ต้องหาคลั่งยาบ้า ขับสิบล้อผ่าด่าน หนีการจับกุม  ทั้งนี้ขณะก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ตั้งด่านตรวจรถยนต์บนถนนในชนบทเส้นทางแหลมบัว-นครชัยศรี หมู่ 1 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกรถบรรทุกสิบล้อเพื่อขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ตามปกติแต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคนขับรถไม่ยอมหยุดรถกับเร่งเครื่องยนต์ฝ่าด่านตรวจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องวิ่งหลบกันจ้าระหวั่นจากนั้นจึงวิทยุขอกำลังตำรวจไล่ล่าแล้วเรียกให้หยุดแต่คนขับไม่สนใจไม่ยอมหยุดรถโดยขับมุ่งหน้าผ่านแยกวัดเสถียรตัดถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า กทม.
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเรียกให้จอดหลายครั้งก็ไม่เป็นผลและไม่สนใจเพื่อนร่วมทางที่อาจเกิดได้รับอันตราย ตำรวจจึงขับแซงนำหน้าโดยส่งสัญญาณให้รถคันอื่นๆได้รับรู้ให้หลบทางรถสิบล้อที่ขับอย่างบ้าระห่ำผ่านหน้าห้างโลตัส นครชัยศรี ผ่านด่านตาชั่งท่าตำหนัก มุ่งหน้าตรงไปทางสามพราน รถยรต์เก๋งตำรวจทางหลวง และรถยนต์กระบะของ สภ.นครชัยศรี นำหน้าและประกบข้างแล้วชลอความเร็วจึงเป็นผลสำเร็จ จากนั้นตำรวจจึงวิ่งกรูกันขึ้นบนรถบรรทุกทั้งซ้ายและขวาช่วยกันออกแรงจับกุมตัวคนขับให้ลงจากรถแต่คนขับรถสิบล้อยังดิ้นไม่ยอมหยุดทำให้ตำรวจต้องเพิ่มกำลังจับใส่กุญแจมือส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีทราบชื่อภายหลังชื่อ นาย เจริญ สร้อยสวัสดิ์ อายุ 54 ปี  บ้านเลขที่ 2/4 ม.5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

พร้อมด้วย รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 99-1247 กรุงเทพมหานคร
ตรวจผลสารเสพติดให้โทษประเภท1 จากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมโดยข้อกล่าวหาว่า  เป็นผู้ประจำรถ ขับขี่รถบรรทุก ขณะในร่างกายมีสารเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย
2.ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงถึงความปลอดภัยหรืกอความเดือดร้อนของผู้อื่น ก่อนนำตัว ผู้ต้องหา ส่ง พงส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พิเศษต้อนรับปีใหม่ด้วยบัตรสมาชิก Thonburi 2 Member Card

ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังมาถึงนี้ โดยการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับตัวเองและคนที่คุณรักด้วย บัตรสมาชิก Thonburi 2 Member Card บัตรเดียวที่ดูแลครบครันเรื่องการรักษา และยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพยุคใหม่ที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิเช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ฟรี , ตรวจสุขภาพฟรี , ส่วนลดค่าห้องพักโรงพยาบาล 50% , ส่วนลดค่ายาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน 10% เป็นต้น

บัตรสมาชิก Thonburi 2 Member Card มี 2 ประเภท คือ Platinum อัตราค่าสมัครสมาชิกรายปี 5,600 บาท และ Gold อัตราค่าสมัครสมาชิกรายปี 3,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อซื้อบัตรได้ที่โรงพยาบาลธนบุรี 2 แผนกลูกค้าสัมพันธ์ ชั้น 1 อาคาร 2 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร 02-487-2100 หรือ สายด่วน 1645 กด 2 และ https://www.thonburi2hospital.com/member-card-detail.php?id=5

เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย...ด้วยวัคซีนผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงวัยแล้วเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นแน่นอนว่าสภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยลงตามธรรมชาติ การทำงานของอวัยวะต่างๆ มีประสิทธิภาพลดลง และยังอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกด้วย โรงพยาบาลธนบุรี 2 จึงขอเชิญชวนผู้สูงอายุเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วยแพ็กเกจ วัคซีนผู้สูงอายุ  อาทิเช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม วัคซีนป้องกันงูสวัด วัคซีนคอตีบ ไอกรน และบาดทะยัก เพื่อลดความเสี่ยงของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะอายุมากขึ้น...ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2563

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์สมองและระบบประสาท โทร. 02 487 2100 ต่อ 1150, 1151
ศูนย์ตรวจสุขภาพ โทร. 02 487 2100 ต่อ 5155, 5158
คลินิกอายุรกรรม โทร. 02 487 2100 ต่อ 5166, 5167
สายด่วน 1645 กด 2  หรือ https://www.thonburi2hospital.com/package-detail.php?id=185 


10 เรื่องเด่นการวิจัยไทย ปี 2562


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 62 ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้เปิดเผยเรื่องเด่นการวิจัยไทยในปี 2562 10 เรื่อง

ได้แก่ 1. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) (Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation : MHESI)  กระทรวงใหม่ล่าสุดของประเทศ ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 2 พ.ค. 2562 จากการควบรวม 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

 โดยมี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนและสนับสนุนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

2. วช. โฉมใหม่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ - วช. 5G  สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปลี่ยนเป็น สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการให้ทุนวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ตั้งแต่การวิจัยจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์ประกาศนโยบาย วช. 5G พลิกโฉมเป็นส่วนราชการที่มีประสิทธิภาพสูง รวดเร็ว คล่องตัว เชื่อมโยงนโยบายสู่การปฏิบัติได้ทันที


3. กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และบทบาท PMU ในการบริหารการวิจัยและนวัตกรรม มีการบริหารงบประมาณการวิจัยของประเทศผ่านกลไกกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และเกิดหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม (Program Management Unit, PMU) หลักทั้งในและนอกกระทรวงการอุดมศึกษา ฯ ประกอบด้วย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และจัดตั้ง  หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม อีก 3 PMU ขึ้นใหม่ ได้แก่ ด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)





4. งบวิจัยและนวัตกรรมของไทย ถึง 1.25% ของ GDP ประเทศไทยมีการลงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 216,376 ล้านบาท คิดเป็น 1.25% ของ GDP และคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายของประเทศที่ตั้งไว้คือ 1.5% GDP ภายในปี  2565 และ 2.0% GDP ภายในปี 2570









5. ฐานข้อมูลกลางการวิจัยของประเทศ  เกิดฐานข้อมูลกลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ มีการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของข้อมูล เช่น Analytic & Prediction, Cloud Computing, IOR, AI,  Big data  เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมระดับชาติและนานาชาติ เป็นฐานข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรม ที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นเอกภาพ โดย วช. และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รับผิดชอบ

6. วิจัยไทยใช้ได้จริง ผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยสามารถนำไปใช้ได้จริงจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น
ปลดล็อคส่งออกมะม่วงไปสหรัฐอเมริกา ตอบสนองแนวคิด BCG Model  โดยความสำเร็จของผลงานวิจัยและพัฒนา ทำให้สามารถส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองไปยังสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จในรอบ 12 ปี ศูนย์ข้อมูลฝุ่น PM 2.5 อย่างครบวงจร เรียกว่า ระบบข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเบ็ดเสร็จ (NRCT Air Quality Information Center) เพื่อให้เป็น Platform การตรวจวัดและข้อมูลค่าฝุ่นละอองที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างทันท่วงที ธนาคารปูม้าทั่วประเทศ ขยายผลจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม และบูรณาการขับเคลื่อนธนาคารปูม้า จำนวน 531 แห่ง จากเป้าหมาย 500 แห่ง โดยมีจำนวนแม่ปูเข้าสู่ธนาคารกว่า 113,000 ตัว ประมาณการจะมีลูกปู กลับเข้าสู่ทะเลไทย 56.5 ล้านตัว

7. ผลงานวิจัยไทยคว้ารางวัลระดับโลก นักวิจัยไทยคว้ารางวัลระดับโลกใน 4 เวทีนานาชาติ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกาหลี เยอรมัน มาเลเซีย ได้รางวัลเป็น
1 รางวัลเกียรติยศ (Grand Prize) จากผลงานเรื่อง ระบบควบคุมอุณหภูมิการเผาไหม้เครื่องกังหันก๊าซ แบบอัตโนมัติ ของ กฟผ.
3 เหรียญทองเกียรติยศ
12 Special Prizes
69 เหรียญทอง
128 เหรียญเงิน
 88 เหรียญทองแดง

8. โครงการวิจัยท้าทายไทย การวิจัยมุ่งเป้าขนาดใหญ่เพื่อประชาชน
ประเทศไทยไร้พยาธิใบไม้ตับ แก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดีแบบครบวงจร อัตราการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ลดลงจาก 43% เหลือ 13% ใน 2 ปี
Precision Medicine in Cancer ช่วยให้แพทย์ค้นหาผู้ป่วยมะเร็งที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ป้องกันหรือคัดกรองมะเร็งในสมาชิกครอบครัว เช่น ในกรณีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจะช่วยป้องกันหรือลดโอกาสเกิดมะเร็งรายใหม่ได้ราวปีละ 5,000 ราย

9. วิจัยเพื่อท้องถิ่น ผลิดอกออกผล
นวัตกรรมในการจัดฟาร์มกระบือแบบประณีต ทำให้การจัดการฟาร์มกระบือมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิตอาหาร โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ทำให้กระบือมีคุณภาพดีการกระตุ้นการออกดอกและเพิ่มการติดผลของลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ทำให้ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมออกดอกและควบคุมให้มีการพัฒนาจนสามารถเก็บผลผลิตได้
เครื่องอบแห้งผลิตผลการเกษตร ช่วยลดความชื้นผลผลิตทางการเกษตร สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทำให้ลดระยะเวลาและลดปัญหาการขาดแรงงาน โดยกลุ่มเกษตรกรใน 17 จังหวัดได้ใช้เครื่องนี้แล้ว

10. เชื่อมไทย เชื่อมโลกด้วยการวิจัย ศูนย์แห่งความเป็นเลิศนานาชาติ ดิจิทัลหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกรุงเทพ (DBAR-ICoE Bangkok) โดยเป็น 1 ใน 8 ศูนย์ทั่วโลกความร่วมมือกับนานาชาติ อาทิ เยอรมัน อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ความร่วมมือด้านพลังงานระหว่าง วช. สกสว. และ Korea Institute of Energy Technology Evaluation and Planning (KETEP)

ในปี 2563 วช.และหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ จะได้ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อทำให้เกิดผลงานที่มี Impact สูงทางสังคมและเศรษฐกิจ สร้างองค์ความรู้พื้นฐานทางวิชาการ ตอบโจทย์ท้าทายสำคัญทางสังคม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ บรรลุตามเป้าหมายการปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศต่อไป