pearleus

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

อธิบดีจัดหางาน ทอดผ้าป่า ณ วัดป้อม ฯ มหาชัย





อธิบดีกรมการจัดหางาน นำ ผ้าป่าสามัคคี มาทอด ณวัดป้อม วิเชียรโชติการาม พระอารามหลวง
เมื่อเวลา 12.39 น วันที่ 29 กันยายน 2561 นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมข้าราชการในสังกัด ร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดป้อมวิเชียรโชติการามพระอารามหลวง ตำบลมหาชัย  อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาครโดยมี พระราชปริยัติคุณ เจ้าอาวาส เป็น องค์รับมอบ ยอดเงิน จำนวน 708,205 บาท
ทั้งนี้มีรายนามผู้ร่วมทอดผ้าป่าครั้งนี้ ได้แก่
1. นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน และนางณัฐพิชา ทศรัตน์ ภริยา
2. พลเอกมงคล เผ่าพงษ์คล้าย ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
3. นายสุภัท กุขุน อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
4. นายสุวรรณ์ ดวงตา ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน
5. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน
6. นายเชิดศักดิ์ วิสุทธิกุล ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน
7. น.ส. รัมภา คูหเจริญ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน
8. นายไพบูลย์ วังสนตระกูล จัดหางานจ.สมุทรสาคร
9. นายสันติ นันตสุวรรณ ผู้อำนวจการกองนิติการ


















สืบกระทุ่มแบน จับยาเสพติด อาวุธปืน บุหรี่ไฟฟ้า..



เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 61 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.กระทุ่มแบน , พ.ต.ท.ภาคิน แสนพุฒิ รอง ผกก.สส.ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ศุกลฐวิญญ์ พรสิริวัฒก์ สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.วรเมธ โสมนัส พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 447/2561 ลง 27 ก.ย. 2561  เข้าตรวจค้นเป้าหมายห้องเช่าห้องที่ 87 หมู่บ้านอ่างทองธานี ซอย 4 ต.ตลาดกระทุ่มแบนฯ  จับกุม นายอนุภาพ หรือจ๊อด เคารพ อายุ 34 ปี  พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก , เครื่องกระสุน 47 ลูก  ข้อหา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ  จับกุมเมื่อ 28 ก.ย. 61  นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 448/2561 ลง 27 ก.ย. 2561  ค้นบ้านเลขที่ 13/5 หมู่ 1 ต.ท่าเสาฯ  จับกุม นายนิก (นามสมมุติ ) อายุ 15 ปีเศษ และ นายอิง (นามสมมติ) อายุ 15 ปีเศษ  พร้อมของกลาง ยาบ้า 10 เม็ด , บุหรี่ไฟฟ้า 2 เครื่อง ฯลฯ  ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองฯ และร่วมกันรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 (พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ม.246)  จับกุมเมื่อ 28 ก.ย. 61 เวลา 15.30 น. ผู้ต้องหาไม่สามารถขยายผลการจับกุมอื่นได้ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.



วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

สทพ.ประชุมร่างแผนขับเคลื่อนการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 28 กันยายน 2561 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (สทพ.) ครั้งที่ 2/2561 ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ โดยมี พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นรองประธานกรรมการ ตลอดจนคณะผู้บริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนเป็นกรรมการฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวมี นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นกรรมการและเลขานุการ และมี นางพัชรี อาระยะกุล รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ กล่าวว่า การประชุมกรรมการ สทพ. ในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อพิจารณา (ร่าง) แผนขับเคลื่อนการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และพิจารณาการดำเนินงานตามมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน ประกอบกับพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 กำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ สทพ. มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี ซึ่งจะครบกำหนดวาระ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2561 นี้ ส่งผลให้ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการ สทพ. จะหมดวาระลง จึงจะต้องดำเนินการเพื่อแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ต่อไป
          พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ได้กล่าวถึงเนื้อหาบางส่วนของ (ร่าง) แผนขับเคลื่อนการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ซึ่งประกอบด้วย แผนงานหลัก 4 แผน ได้แก่ 1) ส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมระหว่างเพศ 2) ส่งเสริมให้มีการสร้างพลังอำนาจของผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ 3) กำหนดนโยบายที่เอื้อให้องค์กรเกิดพลังในเชิงบวกในการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และ 4) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ
ตลอดจนเนื้อหามาตรการโดยสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานตามมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน ซึ่งมี 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 มาตรการในการดำเนินการของหน่วยงาน ที่มีหลักการที่หน่วยงานต้องถือปฏิบัติ 7 ข้อ ได้แก่ 1) การให้ความคุ้มครองบุคลากรของหน่วยงานทุกคน 2) การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานร่วมกัน 3) การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากร 4) การใช้กระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างไม่เป็นทางการ 5) การจัดการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและเป็นความลับ
6) การร้องเรียนและคุณสมบัติของกรรมการสอบข้อเท็จจริง และ 7) การติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และส่วนที่ 2 ตัวอย่างแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือ คุกคามทางเพศในการทำงาน เป็นมาตรการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยาน ซึ่งเป็นมาตรการเสริมที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ถูกกระทำเกิดความกล้าที่จะดำเนินการเมื่อเกิดปัญหา
          ทั้งนี้ โดยกำหนดการดำเนินการ ดังนี้ 1.กำชับให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไข ปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน 2. เมื่อมีการร้องทุกข์แล้ว ผู้ร้องทุกข์และพยานจะไม่ถูกดำเนินการใด ๆ ที่กระทบต่อหน้าที่การงาน หรือการดำรงชีวิต หากจำเป็นต้องมีการดำเนินการใด ๆ เช่น การแยกสถานที่ทำงานเพื่อป้องกัน ไม่ให้ผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยานและผู้ถูกกล่าวหาพบปะกัน เป็นต้น ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยาน 3. ให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเป็นศูนย์ประสานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน รวมทั้งกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรการฯ 4. ให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยขจัดสิ่งแวดล้อมที่ล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ เช่น ภาพลามก ภาพโป๊เปลือยในปฏิทิน และหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
_________________

ปภ.สมุทรสาคร ออกประกาศเตือนภัยจากฝนฟ้าคะนอง 28 ก.ย. – 1 ต.ค. นี้


ปภ.สมุทรสาคร ออกประกาศเตือนภัยจากฝนฟ้าคะนอง 28 ก.ย. – 1 ต.ค. นี้
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร ออกประกาศเตือนนายอำเภอทั่วจังหวัด ติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศ อันเนื่องมาจากฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงบริเวณประเทศไทย เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง โดยจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรง ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน -  1 ตุลาคม 2561 เริ่มในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลางและภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
โดยได้สั่งการให้นายอำเภอทั้งหลาย ดำเนินการดังนี้  เน้นย้ำการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาพอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงหมั่นตรวจสอบสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือนให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง  ซึ่งหากเกิดสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเตรียมความพร้อมกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร และยานพาหนะให้พร้อมปฎิบัติงาน

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561

MTI แนะเคล็ดลับการทาลิปสติกให้สีเนียนติดทน

หนึ่งในปัญหาของผู้ใช้ “ลิปสติก” นั่นคือ ทาแล้วไม่ติดทน อีกทั้งยังดูไม่เนียนอีกต่างหาก วันนี้กูรูความงาม “เอ็มทีไอ”  (MTI) ได้แนะนำเคล็ดลับทาลิปสติกอย่างไรจะให้ทนนานและดูเนียนนุ่ม

โดยเริ่มตามลำดับดังนี้
  1. ทารองพื้นกลบสีปากเดิม
  2. ทาลิปสติกตามสีที่ต้องการ
  3. เริ่มจากการวาดขอบปากให้ได้ทรงที่ต้องการ
      4. ทาลิปสติกให้ทั่ว
  5. เก็บรายละเอียดด้วยรองพื้นหรือแป้งพัฟให้ได้ขอบปากที่คมกริบ

อีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับแบบง่าย ๆ มาให้ลองให้เลือก 2 วิธีตามความถนัด
 แบบที่ 1 เว้นไว้ทา  
                    -ให้ทาสีลิปสติกด้านนอกก่อน แล้วเว้นช่วงกลางปากไว้ ทาลิปสติกเฉดที่ 2 ด้านในของปาก โดยใช้นิ้วหรือพู่กันเกลี่ยให้สีกลืนเข้ากัน แบบไม่มีรอยต่อ
         แบบที่ 2 ทาให้หมด 
                    -ทาสีลิปสติกด้านนอกให้ทั่วทั้งปาก แล้วทาทับด้านในด้วยสีลิปสติกอีกเฉดใช้นิ้วหรือพู่กัน เกลี่ยให้สีกลืนเข้ากันแบบไม่มีรอยต่อ

ทั้ง 2 แบบ ควรมีหลักเพิ่มเติมดังนี้



1. เลือกลิปสติก 2 สี ขึ้นไป ในเฉดเข้ม-อ่อน ซึ่งจะโทนสีเดียวกัน หรือคนละโทนก็ไม่ผิดกฎใดใด
2. หากต้องการความแวววาวให้ใช้ลิปกลอสเกลี่ยเป็นลำดับสุดท้าย
3. เก็บรายละเอียดด้วย Cotton bud

นอกจากเอ็มทีไอยังได้แนะนำผลิต “MTI JOY LIQUID LIPSTICK” ลิปสติกเนื้อนุ่มลื่น ให้สีเมทาลิค (Metallic)  ติดทน  พร้อมการบำรุงจากจมูกข้าว (Wheat Germ Oil)   ที่อุดมไปด้วยอนุพันธ์วิตามินอีและ เซลาไมซ์ (Ceramide) ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน
พร้อมกันนั้นยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยให้กับสาว ๆ ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น 
สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2693-2480 หรือสามารถหาซื้อได้ที่ MTI SHOP ทุกสาขา , ศูนย์ตัวแทนจำหน่าย MTI ทั่วประเทศ หรือ สั่งซื้อ Online ได้ที่ Website : www.mti.co.th/LINE : @mtishopping/Facebook : MTI  Dealer/MTI Shopping 
ติดตามข่าวสารและร่วมสนุกกับกิจกรรม MTI ได้ที่ Facebook : MTI The Professional Make up
  ทั้งนี้เอ็มทีไอจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยสั่งซื้อ “MTI JOY LIQUID LIPSTICK” เฉพาะทางออนไลน์ www.mti.co.th ลดราคาพิเศษจากราคา 395 บาท เหลือ 350 บาท ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561

*****************

"กลิ่นโคลนสาบควาย"บ้านไพบูลย์ อ.น้ำขุ่น ศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง OTOP นวัตวิถี



สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรมตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว  OTOP นวัตวิถี จ.อุบลราชธานี  พร้อมนำสื่อเยี่ยมชมเส้นทางเชิงนิเวศวิถีเศรษฐกิจพอเพียง 7 อำเภอ 18 หมู่บ้าน ในเส้นทางที่ 2  ณ ศูนย์การเรียนรู้กลิ่นโคลนสาบควาย ต.ไพบูลย์ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี โดยมีชุมชนเข้าร่วม 3 หมู่บ้าน คือ ชุมชนบ้านสว่างอารมณ์ บ้านไพบูลย์ ต.ไพบูลย์ และชุมชนบ้านโนนยาง ต.โคกสะอาด โดยมี  นายสันติพงษ์ สมศรี นายอำเภอน้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี เป็นประธานเปิดร่วมด้วยนายมงคล ปัตลา พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี  นายพิสดาร ประดา หัวหน้า กลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชนจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชน กล่าวรายงาน
                                                                             
นายสันติพงษ์ กล่าวว่า ศูนย์การเรียนรู้ กลิ่นโคลนสาบควาย บ้านสว่างอารมณ์ แห่งนี้จะเป็นแหล่งต่อยอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้อาชีพการผลิตสินค้าโอทอปของชุมชนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเยือนนำรายได้เข้าสู่ชุมชนโดยตรงอันเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายรัฐบาลโดยมีพัฒนาชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุน
                                                               
คณะสื่อลงพื้นที่เยี่ยมชมศูนย์ชุมชนในโครงการฯเช่น บ้านเขาสามโนน ต.โคกสะอาด ชมน้ำตกตาดไฮและการร่อนแร่หาพลอยในบริเวณน้ำตก   บ้านสร็อกโสตหรือบ้านไหม ฐานเจ็มโกนเนียง และคุ้มอยู่ดีมีสุข แต่ะละศูนย์มีอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและผลิตผ้าไหมเป็นรายได้ของครัวเรือน 
นายมงคล  กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ เน้นที่การนำเสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต อัตลักษณ์ท่องถิ่นมาเป็นตัวดึงดูและเพิ่มคุณค่าดึงดูดนักท่องเที่ยว นำรายได้เข้าสู่ชุมชน  ซึ่งกิจกรรม  7 อำเภอ 18 หมู่บ้าน ที่เหลือคือ วันที่ 28 ก.ย. ที่วังปลาพญายาง อ.นาเยีย วันที่ 4 ต.ค. ที่วัดป่าโนนจ่าหอม บ้านโพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก วันที่ 5 ต.ค. ที่บ้านบุเปือย ม.1 อ.น้ำยืน วันที่ 6 ต.ค.ที่สวนป่าท่าหินสอ บ้านบุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ และวันที่ 7 ต.ค.ที่วัดบ้านค้อ อ.ดอนมดแดง


 

เตรียมจัดเทศกาลลิขสิทธิ์สื่อเพื่อเด็กและเยาวชนครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด “Creativity Beyond the Page” 29พ.ย.-2ธ.ค.นี้ที่เชียงใหม่

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร พร้อมด้วยคณะทำงาน ICCRF แถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลลิขสิทธิ์และเนื้อหาสำหรับสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (International Children’s Content Rights Fair: ICCRF)” ครั้งที่ 2  ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์    โดยงานกำหนดจัดระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ. เชียงใหม่   

ทั้งนี้ ICCRF จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Creativity Beyond the Page” เป็นเทศกาลแรกและหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน ที่นำงานศิลป์มารวมกับงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ “art meets IT” เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์และเทคโนโลยีเพื่อเด็กและเยาวชน เจ้าของลิขสิทธิ์ และนักเขียนทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก รวมถึงเป็น “creative marketplace” เปิดโอกาสให้สำนักพิมพ์ไทยและนานาชาติได้เห็นฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของนักวาดภาพประกอบหนังสือเด็กและนักประดิษฐ์ชาวไทยและอาเซียน รวมทั้งสร้างเวทีให้คนไทยได้แสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องสำหรับเด็กและเยาวชนในตลาดอาเซียนและตลาดนานาชาติ

นางสาวตรัสวิน จิตติเดชารักษ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน ICCRF กล่าวว่า โครงการนี้จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์และเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อเด็กและเยาวชน ระหว่างนักวาดภาพประกอบกับนักวาดภาพประกอบ, นักวาดภาพประกอบกับนักประดิษฐ์, นักวาดภาพประกอบ/ นักประดิษฐ์กับสำนักพิมพ์, สำนักพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก สนับสนุนประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านการผลิตเนื้อหาสำหรับเด็กในภูมิภาคอาเซียน และสร้างวัฒนธรรมการอ่านเพื่อการคิดวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์สู่ทุกชุมชนในสังคมไทย

นอกจากคณะทำงานจากสำนักพิมพ์ชั้นนำต่าง ๆ ที่คร่ำหวอดในวงการซื้อขายลิขสิทธิ์แล้ว โครงการนี้ยังได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่าง ๆ อาทิ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), เทศบาลนครเชียงใหม่, สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย, มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก, กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์, มหกรรมหนังสือลดราคาระดับโลก บิ๊กแบ๊ดวู๊ฟ (Big Bad Wolf), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK Park), บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด, ชมรม เชียงใหม่ เมกเกอร์คลับ, สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย, สมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย, เครือข่ายสิทธิเด็กประเทศไทย และเครือข่ายเชียงใหม่อ่าน มาร่วมจัดงานในครั้งนี้ด้วย

พร้อมกันนี้ ICCRF ได้จัดการประกวดวาดภาพประกอบหนังสือเด็ก ASEAN Illustration Award ขึ้น เพื่อเพื่อกระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักวาดภาพประกอบหนังสือเด็กรุ่นใหม่และมืออาชีพที่มีความสามารถโดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน ได้มีเวทีในการแสดงผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพและเสียง การ์ตูน หรือกราฟิก โดยรางวัลจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ 

- รางวัลชนะเลิศภาพประกอบหนังสือเด็กอาเซียน 1 รางวัล โล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1 ดอลลาร์สหรัฐ = 32.5 บาท) 

-รางวัลภาพประกอบหนังสือเด็กอาเซียนยอดเยี่ยม ประเภทบันเทิงคดี 1 รางวัล 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ
-รางวัลภาพประกอบหนังสือเด็กอาเซียนยอดเยี่ยม ประเภทสารคดี 1 รางวัล 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ 
-รางวัลสำหรับนักวาดภาพประกอบมือสมัครเล่น 5 รางวัล รางวัลละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ

โดยงาน ICCRF กำหนดจัดอย่างจุใจ 4 วันเต็ม ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (CMECC) จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2561 สำนักพิมพ์ชาวไทยและต่างชาติที่สนใจในการเข้าร่วมจัดแสดงงานในเทศกาลลิขสิทธิ์และเนื้อหาสำหรับสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้เข้าชมงานทั่วไป สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานนี้ได้ทางเว็บไซต์ https://iccrfthailand.com และ www.facebook.com/iccrfthailand



*********************

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

หนุ่มโกรกกราก ซุกเบียร์ร้านเอ็กซ์เพรส หนีลงคลอง สายตรวจปิดล้อมรวบทันควัน..


หนุ่มโกรกกราก ซุกเบียร์ร้านเอ็กซ์เพรส หนีลงคลอง สายตรวจปิดล้อมรวบทันควัน..
เมื่อวันที่  26 ก.ย 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร รุดไปตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ภายในร้านโลตัสเอ็กซ์เพลส สาขา ดอนไก่ดี ต.ตลาด อ.กระทุ่มแบนฯ หลังรับแจ้งจากพนักงาน เมื่อไปถึงทราบว่าผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิ๊ก สีดำ หมายเลขทะเบียน   วบย 243 กรุงเทพฯ ไว้ที่หน้าร้านแล้ววิ่งหนีไปตามถนน 
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานขอกำลังสนับสนุนปิดล้อมจนตามไปพบคนร้ายซ่อนตัวอยู่ในคลองจึงเข้าทำการจับกุม ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นาย วีระ แก้วสามสี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ( โกรกกรากใน) เบื้องต้นให้การปฏิเสธบอกว่าตนเองมีใบเสร็จซื้อของ  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัยพร้อมรถจักรยานยนต์นำส่งพนักงานสอบสวน ที่ สภ.กระทุ่มแบน 
สอบถาม นางสาวแอน พนักงาน โลตัสเอ็กซ์เพลส เล่าว่า ตนเห็นผู้ต้องสงสัยเอาเบียร์กระป๋องยัดใส่ไป ในกางเกง ก่อนจะเดินไปซื้อขนมและจ่ายเงินเฉพาะค่าขนม ตนจึงกดกริ่งเรียกผู้จัดการแล้วมาดักรอที่ประตูทางออกเพื่อรอเรียกตรวจ แต่ผู้ต้องสงสัยกับวิ่งหนีไป ตนจึงตะโกนให้คนช่วยจับและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอภาพวงจรปิดภายในร้านเพื่อไปตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.




ปฎิบัติการพิเศษสิงห์แพ้ว จัดระเบียบสังคม


ปฎิบัติการพิเศษสิงห์แพ้ว   จัดระเบียบสังคม

ปฎิบัติการพิเศษสิงห์แพ้ว  ที่ทำการปกครองอำเภอบ้านแพ้ว  จัดระเบียบสังคม
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2561 เวลา 10.00 น. ภายใต้การอำนวยการของนายเอกวิทย์  มีเพียร นายอำเภอบ้านแพ้ว มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแพ้ว ดำเนินการโครงการสถานประกอบการป้องกันยาเสพติด  เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปราม  และสอดส่องการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มลูกจ้าง  และเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ  เกิดความตะหนักในการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง  มิให้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด  ผลการปฎิบัติ  ดำเนินการสุ่มตรวจโรงงานเขตอำเภอบ้านแพ้ว  เหตุการณ์ในพื้นที่ปกติ  ไม่พบสารเสพติดในกลุ่มลูกจ้างแต่อย่างใด