พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีสารเนื่องในวาระครอบรอบ 50 ปี ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน วันที่ 28 มกราคม 2562 ระบุว่า “พี่น้องอาสาพัฒนาชุมชนและผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนทุกท่าน เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ผมขอส่งความปราถนาดีและขอแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจมายังทุกท่านที่ได้ทุ่มเท เสียสละ ทั้งแรงกาย แรงใจ ในการทำงานเพื่อพัฒนาหมู่บ้าน ตำบลของตนเองอาสาพัฒนาชุมชนและผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ถือเป็นกำลังอันสำคัญในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน มาเป็นระยะเวลายาวนาน 50 ปี”
ขณะที่ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่ากรมฯได้กำหนดดำเนินโครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนขึ้นมา โดยคณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2512 และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยได้ค้นหาประชาชนที่มีจิตอาสา เข้ามาเป็นอาสาพัฒนาชุมชน (อช.) หมู่บ้านละไม่น้อยกว่า 4 คน ในสัดส่วนชายหญิงที่ใกล้เคียงกัน และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ตำบลละ 2 คน (ชาย 1 คน หญิง 1 คน) โดยในปัจจุบันมีผู้นำอช. จำนวน 13,500 คน และ อช. มากกว่า 300,000 คน ในการทำหน้าที่ขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาชุมชนต่างๆ โดยมีระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555รองรับการปฏิบัติงาน
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่าในปี 2562 กรมฯ ได้มอบหมายภารกิจเน้นหนักให้ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) และอาสาพัฒนาชุมชน (อช.) เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตครัวเรือนที่ตกเกณฑ์ จปฐ. ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยกรมฯ ได้กำหนดแนวทางเพื่อพัฒนาศักยภาพของ อช. และผู้นำ อช. ด้วยการจัดทำฐานข้อมูลอาสาพัฒนาชุมชนเพื่อการบริหารจัดเก็บและใช้ประโยชน์ให้ถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมเพิ่มทักษะความสามารถด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นทักษะการเป็นวิทยากรกระบวนการ หรือวิทยากรสัมมาชีพชุมชน รวมไปถึงการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ร่วมกับสมาคม/ชมรมผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนระดับจังหวัด/อำเภอ เพื่อติดตามให้คำแนะนำ คำปรึกษาแก่ อช. และผู้นำ อช.ในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
เนื่องในวาระครบรอบการดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ปีที่ 50 ในวันที่ 28 มกราคม 2562 กรมฯได้น้อมนำพระบรมราโชบาย และพระกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และพระองค์มีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า โดยกำหนดจัดกิจกรรมตลอดเดือนมกราคม โดยเฉพาะในวันที่ 28 มกราคมภายใต้แนวคิด “พลัง อช. จิตอาสา สร้างสุขสู่ชุมชน บนพื้นฐานแห่งความพอเพียง”อาทิ การจัดกิจกรรมทางศาสนา การแสดงพลังอาสาพัฒนาชุมชน (การร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และกล่าวคำปฏิญาณตนเพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร) การอ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การจัดนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานของ อช./ผู้นำ อช.การจัดเวทีสัมมนาทางวิชาการการมอบประกาศเกียรติคุณแก่ อช. /ผู้นำ อช. ที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2561การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์และกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ เป็นต้น
ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ทั้งผู้นำ อช.และ อช. นับเป็นบุคคลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ และมีจิตใจเสียสละในการทำงาน เพื่อพัฒนาหมู่บ้าน/ตำบลของตนเอง เป็นกำลังสำคัญในการทำงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชน มาอย่างต่อเนื่อง เป็นดั่ง “นักพัฒนาภาคประชาชน” หรือ “เพื่อนคู่คิดของพัฒนากร” โดยที่ผ่านมา ได้สร้างผลงานไว้มากมายร่วมกับชุมชน ซึ่งนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อาสาพัฒนาชุมชน สามารถยืนหยัดทำงานอยู่ในชุมชนได้จนกระทั่งบัดนี้ และที่สำคัญ บุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชนทุกคน พร้อมเสมอที่จะก้าวเดินเคียงข้างไปกับชาวอาสาพัฒนาชุมชนทุกคนตลอดไป
"ในโอกาสนี้ ผมขอให้พี่น้อง อช. และผู้นำ อช. ได้ยึดแนวทางในการพัฒนาชุมชนเพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็ง ร่วมกันสร้างความสุขให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือครัวเรือนยากจนให้ลุกขึ้นมาประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอง ตามแนวคิด “ช่วยเพื่อให้เขาช่วยตัวเอง” อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี โดยบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นรายครัวเรือน ด้วยแนวทาง 4 กระบวนงาน คือ ชี้เป้าชีวิต แผนที่ชีวิต บริหารจัดการชีวิต และดูแลชีวิต และที่สำคัญขอให้ทุกท่านได้ร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานในการบำเพ็ญตนเป็นผู้ให้ ร่วมกันน้อมนำแนวทางจิตอาสาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตามโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” มาขยายผลและต่อยอดในการสร้างจิตสำนึกสาธารณะให้กับทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวางต่อไป”อธิบดี
กรมการพัฒนาชุมชนกล่าว