เมื่อช่วงสายของวันที่ 25 เมษายน 2565 ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้เข้าตรวจสถานประกอบการไม่มีใบอนุญาตใน หมู่4ตำบลชัยมลคล พร้อมด้วย นายทนงศักดิ์ งามกาละ นายก อบต.ชัยมงคล, นางสาวเบญญพร เฮงซิ้ม กำนันตำบลชัยมงคล, ปลัดอำเภอเมือง, เจ้าหน้าที่จาก อบต.ชัยมงคล,เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร,เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดสมุทรสาครผู้นำท้องที่ท้องถิ่นในตำบลชัยมงคล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด
ซึ่งสถานประกอบการแห่งนี้อยู่ภายในซอยแห่งหนึ่งในเขตหมู่ 4 ตำบลชัยมงคล ห่างจากวัดปากบ่อราว 1 กิโลเมตร โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจ ได้มีการให้รองนายก อบต.ชัยมงคลและ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาคอยซุ่มดูโดยรอบเพื่อจะดูการทำงาน ซึ่งเมื่อชุดที่เฝ้าดูเห็นว่ามีการทำงานจึงได้แจ้งให้หน่วยงานเข้าตรวจสอบ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถูกล้อมด้วยรั้วสังกะสี ด้านในมีกองวัตถุที่มีลักษณะเป็นผง มีทั้งสีคล้ายดิน และสีดำ ที่วางกองไว้กลางแจ้ง และมีบ่อที่มีวัตถุที่เป็นฝุ่นสีดำด้วย และจากการสังเกตช่วงที่มีลมพัดมา วัตถุในบริเวณนี้ก็จะปลิวตลบ และยังมีกลิ่น
นอกจากนั้นยังคนจำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน โดยผู้หญิงมีบัตรคนไม่มีสถานะทางทะเบียนและไม่มีใบอนุญาตออกนอกพื้นที่,ผู้ชายจีน 1 คน มีพาสสปอร์ตนักท่องเที่ยว และแรงงานข้ามชาติพม่า 2 คน มีพาสสปอร์ตทำงานที่จังหวัดอื่นและเป็นบัตรที่หมดอายุแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานก็ได้คุมตัวไปเพื่อสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนสถานที่แห่งนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของ อบต.ชัยมงคลบอกว่า อยู่ในที่ดินเดียวกับบริษัทข้างเคียงที่มีใบอนุญาตประกอบการเกี่ยวพลาสติก แต่ใบอนุญาตนั้นใช้กับโกดังนั้นอย่างเดียว ส่วนจุดนี้แม้จะอยู่ในพื้นที่ดินเดียวกันแต่ไม่ได้มีการขออนุญาตประกอบกิจการใดๆทั้งสิ้น และที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านร้องเรียนเพื่อเรื่องผลกระทบเข้ามาด้วย จึงต้องเข้าตรวจสอบตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข และจากการสอบถามหาเจ้าของกิจการ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทย และชายชาวจีนคนดังกล่าวได้มีการแสดงเอกสารซึ่งเป็นเอกสารรับรองนิติบุคคลของสถานประกอบการเกี่ยวกับหล่อหลอมแห่งหนึ่งในตำบลนาโคกและบอกว่าวัตถุที่ได้จากการแยกนั้นได้ถูกส่งไปยังสถานประกอบการที่นาโคกด้วย ส่วนจากการสอบถามชาวบ้านที่มีบ้านใกล้เคียงสถานประกอบการแห่งนี้บอกว่า ได้รับความเดือดร้อนทั้งฝุ่นทั้งกลิ่น เมื่อก่อนนั้นเป็นเจ้าอื่นมาประกอบการ ทางชาวบ้านได้มีการร้องเรียนรายเก่าจึงเลิกทำไป ส่วนเจ้านี้เข้ามาทำทีหลัง ซึ่งตั้งแต่ทำมา ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ต้องได้รับความเดือดร้อนอีก จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยให้การประกอบการแบบนี้หมดไป เพราะเป็นการทำที่สร้างมลพิษให้กับชุมชน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก