pearleus

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

กรมประมง…ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ศูนย์ One stop service IUU สมุทรสาคร แห่งประเทศไทย


       เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ณ บริเวณที่ดินสร้างอาคาร ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร  นายอดิศร  พร้อมเทพ  อธิบดีกรมประมง  เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จ จ.สมุทรสาคร
(One stop service IUU) โดยมีนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจ.สมุทรสาคร และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด เข้าร่วมพิธี
       นายอดิศร  พร้อมเทพ  อธิบดีกรมประมง  เปิดเผยว่า วันนี้ฤกษ์ดีกรมประมงจึงกำหนดวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างศูนย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จ
(One stop service IUU) สมุทรสาคร เป็นแห่งแรกในประเทศไทย
       โดยศูนย์ One stop service IUU จัดสร้างขึ้นเพื่อให้บริการแก่ชาวประมง ผู้ประกอบการด้านการประมง หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน  ในขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งสามารถช่วยลดระยะเวลาและลดขั้นตอนทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
       ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าว จัดสร้างขึ้นเป็นอาคาร 3 ชั้น ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางของศูนย์บัญชาการแก้ไขหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) จำนวน 35 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2563











                                                                            




วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

รมว.พม. มอบที่ดินให้สมาชิกนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ย.62 ที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
 ในการนี้ ได้ให้เกียรติมอบหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) ออกตามความในพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ให้แก่สมาชิกนิคมฯ ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 26 ราย โดยมี รมว.พม. มอบที่ดินให้สมาชิกนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลกโดยมีนายอนันต์ ดนตรี รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวรายงาน และมี นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ นายอำเภอเมืองพิษณุโลกเป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายอำเภอบางระกำ ผู้นำท้องถิ่น อพม.ในพื้นที่อำเภอบางระกำ คณะผู้บริหารหน่วยงาน One Home ของ พม. ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกนิคมฯ กว่าหนึ่งร้อยคนให้การต้อนรับ


สำหรับนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. มีภารกิจในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นบริการสวัสดิการสังคมรูปแบบหนึ่ง โดยในอดีตรัฐบาลมีแนวคิดนำเอาที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ เพื่อสงเคราะห์คนยากไร้ไห้มีที่อยู่อาศัยและมีที่ดินทำกินในลักษณะชุมชนที่เป็นระเบียบ และพัฒนาให้มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แล้วให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และเป็นมรดกตกทอดไปสู่ลูกหลาน และเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในลักษณะโครงการพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและการปกครอง

โดยนิคมสร้างตนเองแห่งนี้ เป็นนิคมฯ ในลักษณะพิเศษเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาทางการปกครอง จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ราษฎรได้รู้จักอาชีพใหม่ ๆ ที่คนไทยไม่คุ้นเคยซึ่งสามารถยึดเป็นพื้นฐานที่มั่นคงในทางเศรษฐกิจและขยายให้เพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคตได้ ตลอดจนแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลกับราษฎร และระหว่างราษฎรกับราษฎรด้วย โดยมีพื้นที่ในความรับผิดชอบกว่า 239,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 4 จังหวัด 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร, อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย และอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร
 
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันดังกล่าวรมว.พม. ได้มอบที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรจำนวน 26 ราย ซึ่งเป็นที่ดินที่รัฐจัดสรรให้ราษฎรผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองก่อให้เกิดรายได้ มีความมั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเป็นราษฎรในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 14 ราย 26 แปลง จังหวัดพิจิตร จำนวน 8 ราย 15 แปลง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 4 ราย 4 แปลง รวมเนื้อที่ทั้งสิ้นกว่า 361 ไร่ นอกจากนี้ รมว.พม. ยังได้พบปะพูดคุยและเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มอาชีพซึ่งเป็นสมาชิกนิคมสร้างตนเองบางระกำรวมกลุ่มกันประกอบอาชีพ จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มถักโครเชต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทอเสื่อกก กลุ่มกระเป๋าผ้า และกลุ่มทอผ้า
 
 
ทั้งนี้ก่อนเคลื่อนขบวนไปเยี่ยมหน่วยงานต่อไป รมว.พม. ได้นำคณะผู้บริหารทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ร่วมกัน “ปลูกต้นรวงผึ้ง” ซึ่งถือเป็นต้นไม้มงคลประจำพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 10 สุดท้ายได้เยี่ยมให้กำลังใจและมอบอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันให้แก่ผู้ด้อยโอกาสแห่งสมาชิกบ้านน้อยในนิคม ซึ่งเป็นคนไร้ที่พึ่ง คนเร่ร่อน หรือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ที่ผ่านการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาศักยภาพทั้งด้านร่างกาย  จิตใจ สังคม และอาชีพ จากการคุ้มครองในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง หรือสถานสงเคราะห์ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ แล้วส่งต่อให้มาอยู่ในความดูแลของนิคมฯ เพื่อฝึกอาชีพ ปรับตัว และปรับสภาพร่างกายและจิตใจก่อนส่งกลับภูมิลำเนาเดิมต่อไป


วช. จับมือขับเคลื่อนศักยภาพบุคลากรสายอาชีวศึกษาด้วยวิจัย-นวัตกรรม

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) วางเป้าหมายพัฒนาศักยภาพนักประดิษฐ์สายอาชีวศึกษาของภาครัฐและเอกชน จากหลายร้อยสถาบันการศึกษาใน 4 ภูมิภาค เพื่อเพิ่มฐานความรู้ด้านเทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์ และเพื่อระดมสมองแลกเปลี่ยนเรียนรู้
รวมถึงการพัฒนารูปแบบและเนื้อหาการบ่มเพาะนักประดิษฐ์สายอาชีวศึกษา ให้สอดคล้องตามทิศทางการพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีบุคลากรระดับผู้บริหาร อาจารย์ สายอาชีวศึกษา ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม จำนวน 350 คน ในการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “Meet the Trainers : Invention & Innovation สายอาชีวศึกษา” ภายใต้แนวคิด Change for the Future อาชีวะก้าวไกล ด้วยวิจัยและนวัตกรรม ระหว่างวันที่ 29 – 30 กันยายน 2562ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมารวย การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร
โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ เรื่อง “พัฒนากำลังคน 4.0 ด้วยวิจัยและนวัตกรรม”  ประเด็นสำคัญคือมุ่งนำกำลังคนที่ผ่านการบ่มเพาะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ที่เป็นทิศทางสำหรับปี 2563  ได้แก่ B-Biotechnology เทคโนโลยีชีวภาพ C-Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียนและ G- Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว
พร้อมนี้ การประชุมในวันแรกมีหัวข้อการบรรยายและเสวนาที่น่าสนใจ ประกอบด้วยเรื่อง “อาชีวะพันธุ์ใหม่ ก้าวสู่ Thailand 4.0” “การใช้วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนากำลังคนตามนโยบายของประเทศ : Thailand 4.0 และเขตเศรษฐกิจพิเศษ”และ “นักประดิษฐ์ไทยก้าวไกล  เพื่อการพัฒนากำลังคนและนวัตกรรมที่ยั่งยืน”
โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมเป็นวิทยากร เพื่อชี้ทิศทางการพัฒนากำลังคนบนทิศทางBCGและฐานการประดิษฐ์คิดค้นและการพัฒนานวัตกรรม ในหัวข้อข้างต้น ได้แก่ นางเจิดฤดี  ชินเวโรจน์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา,
นายสุวัฒน์ มีมุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BIIC)บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน),ศ.นพ.อภิชาติ  อัศวมงคลกุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล,ศ.ดร.สนอง  เอกสิทธิ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยอุปกรณ์รับรู้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย,นายสาธิต  ครองสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.),
นายพีรชัย   อัศดาชาตรีกุล Business Development Manager บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน),ศ.ดร.ผดุงศักดิ์  รัตนเดโช ผู้อำนวยการ Center of Excellence in Electromagnetic Energy Utilization in Engineering (CEEE)
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ผศ.ดร.วารุณี  อริยวิริยะนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562

มูลนิธิเพื่อนร่วมโลกจัด The Sound of Silence

มูลนิธิเพื่อนร่วมโลกจัดกิจกรรม The Sound of Silence เพื่อให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้รักสัตว์เลี้ยง โดยนายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานมูลนิธิเพื่อนร่วมโลก กล่าวถึงความเป็นมาว่า “ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปของสังคมไทย คนรุ่นใหม่แต่งงานช้าและมีแนวโน้มเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น
อีกทั้งการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุ ทำให้คนนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงา และเกิดความผูกพันจนสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และสถานพยาบาลสัตว์มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว กอปรกับผมได้รับทราบข้อมูลการจากไปก่อนเวลาอันควรของสัตว์เลี้ยงของคุณธิษณา เดือนดาว กรรมการผู้จัดการบริษัท มายด์เอ็นแม็ทเทอร์ส จำกัด ผู้สร้างสรรค์งาน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิอย่างดียิ่งตลอดมา
มูลนิธิเพื่อนร่วมโลกจึงเสนอตัวจัดกิจกรรม The Sound of Silence ขึ้น เพื่อให้เจ้าของและคนรักสัตว์เลี้ยงทั้งหลายลุกขึ้นมาพูดแทนสัตว์เลี้ยงที่พูดไม่ได้ ทำให้เสียงของพวกเขาไม่เงียบอีกต่อไป โดยภายในงานจัดให้มีการเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ ‘การสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของสถานพยาบาลสัตว์ และสิทธิ์ในการรับรู้ข้อมูลของเจ้าของสัตว์เลี้ยง’
โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านพัฒนาวิทยาเขตและการสัตวแพทย์  ศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย  ผศ.น.สพ.กัมปนาท สุนทรวิภาต อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย  ผศ.พรรณศักดิ์ สุขี ผู้อำนวยการศิลป์ คณะละคร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมี ดร.นิธินาถ สินธุเดชะ เตลาน ดำเนินการเสวนา”
โดย น.ส.ธิษณา เดือนดาว ผู้สร้างสรรค์งานกล่าวเสริมว่า “เรามุ่งหวังจะรวบรวมเนื้อหาจากการเสวนานำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบาย ทั้งเรื่องสิทธิ์ในการรับรู้ข้อมูลของเจ้าของสัตว์เลี้ยง การยกระดับมาตรฐานทางจริยธรรมของสถานพยาบาลสัตว์ หน้าที่ของสถานพยาบาลสัตว์ หน้าที่ของสัตวแพทย์  บทบาทของผู้มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสถานพยาบาลสัตว์ ฯลฯ เป็นต้น”
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการภาพถ่าย The Sound of Silence โดยมีศิลปินช่างภาพร่วมงานพร้อมนำภาพถ่ายสัตว์เลี้ยงร่วมจัดแสดง อาทิ ธนากร เตลาน ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ศิลปะไฟน์อาร์ตชื่อดังของเมืองไทย สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ นักสร้างสรรค์โฆษณาที่ได้รับการจัดอันดับเป็นมือหนึ่งของเอเชีย ภาคภูมิ หัศบำเรอ  หนึ่งใน Undiscovered Photographers และวิราช แอนดรูว์ บุนนาค ช่างภาพและนักตกแต่งภาพอิสระ  ฉลองวงศ์ มานะกิจ ช่างภาพระดับมือรางวัล
นอกจากนี้ยังมีศิลปิน ดารา คนดังทุกวงการนำภาพถ่ายสัตว์เลี้ยงแสนรักร่วมจัดแสดงนิทรรศการด้วย อาทิ ฌอห์ณ จินดาโชติ,  พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ, ฌอน บูรณะหิรัญ, อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ, แหม่ม-พิไลวรรณ บุญล้น  โดยนิทรรศการภาพถ่าย The Sound of Silence จะจัดแสดงระหว่างเวลา 10.00-21.00 น. ตั้งแต่ 26-29 ก.ย.นี้ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเชิญชวนผู้ร่วมงานจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงสัตว์เลี้ยงและสัตว์ต่างๆ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโลกที่จากไป และเปิดตัวเพลง “เสียงที่เคยเงียบในหัวใจ” ที่ประพันธ์เนื้อร้องโดย น.ส.ธิษณา เดือนดาว และประพันธ์ทำนองโดย รศ.จารุณี หงส์จารุ โดยมี ลูกหว้า-พิจิกา จิตตะปุตตะ ขับร้องสดสร้างบรรยากาศหน้าหอศิลป์ฯอีกด้วย
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ใน  facebook.com/majourandfriends

ทีพี-ลิงค์เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Wi-Fi6 พร้อม Router Ax series สัมผัสประสบการณ์อินเทอร์เน็ตที่เหนือกว่า

บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพร์ส ประเทศไทย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายระดับโลก จัดงาน TP-Link Next-Gen Wi-Fi Family, Wi-Fi 6 is here เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Wi-Fi6
พร้อมชมสินค้า Router Ax series ชวนสัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีใหม่ ที่จะช่วยให้การท่องโลกอินเทอร์ลื่นไหลไม่มีสะดุด โดยได้รับเกียรติจาก Mr.Dave Chen Managing Director กล่าวเปิดตัวเทคโนโลยี Wi-Fi “TP-Link Next-Gen Wi-Fi Family, Wi-Fi 6 is here” พร้อมด้วยนายปิยะวัฒน์ เข็มเพชร(คุณพีเค) ดีเจ-พิธีกรชื่อดัง ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 และ นายทรงศักดิ์ สังขเวทัย ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงคุณสมบัติแต่ละรุ่นของ Archer AX series เมื่อวันที่  27 กันยายน ณ  ชั้น 7 โรงแรม Mode Sathorn
นายทรงศักดิ์ สังขเวทัย ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงคุณสมบัติแต่ละรุ่นของ Archer AX series ว่า สำหรับเราเตอร์ตัวแรก  Archer AX6000 เป็นเราเตอร์รองรับมาตรฐาน 802.11ax หรือเราเตอร์ Wi-Fi 6 เราเตอร์บ้านสเปคเทพ ซึ่งเป็นมากกว่าเราเตอร์ทั่วไป โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ คือ เทคโนโลยี OFDMA และ MU-MIMO (รวมทั้งดาวน์โหลดและอัพโหลด) สามารถสร้างประสิทธิภาพได้มากกว่าเราเตอร์ 802.11 ac อัดการรองรับความเร็ว 1148 Mbps บนคลื่นความถี่ 2.4GHz และ  4804 Mbps  บนคลื่นความถี่ 5GHz band  พร้อมรองรับ Wan Port ระดับ 2.5Gbps อีกด้วย
นอกจากนี้ ทีพี-ลิงค์ ยังได้มีการเปิดตัวเราเตอร์ AX11000 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเราเตอร์เกมมิ่งที่ทรงพลัง มาพร้อมกับฟีเจอร์ Wi-Fi 6 ทั้ง OFDMA , MU-MIMO และ Tri-band ที่สามารถเปิดโลกอินเทอร์เน็ต โดยกระจายความเร็วได้มากสุดที่ 4804 Mbps และ 1148 Mbps ให้ความเร็วรวม Wi-Fi ถึง 11,000 Mbps ตัวเสาให้สัญญาณถึง 3 ช่อง บนความถี่ 2.4 GHz ที่ความเร็ว 1148 Mbps และบนคลื่นความถี่ 5 GHz  ที่ความเร็ว 4804 Mbps ถึง 2 ช่อง ซึ่งจุดสำคัญของรุ่นนี้อีกอย่างคือ GameDashboard และ Game Accelerator ที่ทำให้การเล่นเกมเสถียรมากยิ่งขึ้น สร้างประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตที่ดีกว่าเดิม สำหรับลูกค้าที่มีงบประมาณที่จำกัด แต่มีความต้องการในการใช้งาน Wi-Fi6 ทาง ทีพี-ลิงค์ ก็มีอีกทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย คือ เราเตอร์ Archer AX50 และ  Archer AX10
โดย Archer AX50 เราเตอร์ Dual Band ให้ความเร็วรวม Wi-Fi ที่ 3,000 Mbps ซึ่งเป็นเราเตอร์ตัวแรก ที่มาพร้อมกับ Intel® Home Wi-Fi Chipset เราเตอร์ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ Wi-Fi 6 Gig+ ระดับพรีเมี่ยมด้วยราคาที่คุ้มค่า มีความเร็วและเสถียร ช่วยเพิ่มสปีด WI-Fi6 ให้กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของคุณ ทั้งยังมาพร้อมกับความเร็ว 2,402 Mbps บนคลื่นความถี่ 5 GHz และ 574 Mbps บนคลื่นความถี่ 2.4 GHz ที่เพียงพอต่อการดาวน์โหลดหนัง HD 8 GB ด้วยเวลาไม่ถึง 2 นาที ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลและดูหนัง 4K อย่างไม่สะดุด โดยทางทีพี-ลิงค์ยังคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกค้าด้วยการแนะนำ TP-Link HomeCareTM  ซึ่งจะช่วยให้ทุกการเล่นอินเทอร์เน็ตของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น (รองรับ Archer AX11000 , AX6000 และ AX50)
ในส่วนของ Archer AX10 นั้นเป็นเราเตอร์ตัวใหม่ที่นำเสนอ Wi-Fi 6 ด้วยราคาแสนประหยัด แต่ให้ความเร็วรวม Wi-Fi ที่ 1,500 Mbps เราเตอร์ Dual Band สองย่านความถี่ที่ ให้ความเร็ว 1201 Mbps ที่ย่าน 5 GHz และความเร็ว 300 Mbps ที่ย่าน 2.4 GHz , Full Gigabit Ports-ให้ความเร็วบรอดแบนด์สูงสุดที่ 1 Gbps นับได้ว่า Archer AX10 เป็นเราเตอร์ตัวแรกที่จะให้คุณสนุกกับเทคโนโลยีใหม่ Wi-Fi6 ด้วยราคาที่ไม่ถึง 3,000 บาท
“สำหรับลูกค้าที่มี PC เครื่องเก่าแต่ต้องการเปิดประสบการณ์เทคโนโลยี Wi-Fi6 ทาง ทีพี-ลิงค์ ยังมีการเปิดตัว Archer TX3000E (AX3000 PCIe Adapter) ให้ความเร็วที่เหนือกว่า 3 เท่า ให้พลังที่แข็งแรงและการจับคู่ที่เหมาะสมกับเราเตอร์ Wi-Fi 6 ซัพพอร์ตแบนด์วิดท์มากถึง 160 MHz. ให้ความเร็วสูงสุดมากถึง 2402 Mbps ที่ย่าน 5 GHz และ 574 Mbps ที่ย่าน 2.4 GHz มาพร้อมกับเทคโนโลยีบูลทูธ 5.0 ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สนุกบนโลกอินเทอร์เน็ตแบบไม่มีสะดุด และเหนือกว่าทุกสิ่ง” นายทรงศักดิ์ กล่าว