pearleus

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จับกุมหญิงไทย ลักลอบนำเข้าโคเคน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,600 กรัม มูลค่าประมาณ 10.4 ล้านบาท

เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2558 เวลา 11.00 น. กรมศุลกากรแถลงข่าว สืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับด่านศุลกากรกระบี่จับกุมหญิงไทยลักลอบนำเข้าโคเคน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,600 กรัม มูลค่าประมาณ 10.4 ล้านบาท เข้ามาในราชอาณาจักร ณ ห้องประชุมสำนักสืบสวนและปราบปราม สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร คลองเตย
ตามที่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด จึงให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักสืบสวนและปราบปรามเข้มงวดในการสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษกับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทุกท่าอากาศยาน ซึ่งมีแนวโน้มลักลอบทางท่าอากาศยานในส่วนภูมิภาคสูงขึ้น จึงได้สั่งการให้ นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายจำเริญ โพธิยอด รองอธิบดีฯ รักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายธาดา ชุมไชโย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม และนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ นายด่านศุลกากรกระบี่ ดำเนินการวางแผนจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา 08.00 น. หน่วย Airport Interdiction Task Force : AITF ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) นำโดย นายเดชา วิชัยดิษฐ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร กับพวก ได้ตรวจค้นและจับกุม นางสาวศิริวรรณ ยอดที่รัก อายุ 32ปี สัญชาติไทย 
ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยหมายเลข AA2453417 ผู้โดยสารของสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินที่Z2940/20.11.58 เดินทางมาจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เปลี่ยนเครื่องที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ AK886/21.11.58 ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ราชอาณาจักรไทย เครื่องลงเวลาประมาณ 07.20 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 แต่สัมภาระของผู้โดยสารไม่ได้มาพร้อมกับเที่ยวบินดังกล่าว และสายการบินได้ส่งสัมภาระตามมาในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 07.30 น. นางสาวศิริวรรณ ยอดที่รัก ได้เดินทางมารับสัมภาระที่ตกค้างด้วยตนเองที่สนามบิน และเจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์พบสิ่งผิดปกติภายในกระเป๋าสัมภาระ จึงได้ทำการตรวจค้นโดยละเอียดพบวัตถุต้องสงสัยเป็นผงสีขาว ห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ จำนวน 1 ห่อ ซุกซ่อนอยู่ในผนังของกระเป๋า เมื่อทำการทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติด ผลปรากฏว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน หรือโคเคน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,600 กรัม มูลค่าประมาณ 10.4 ล้านบาท
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหายอมรับสารภาพและยินยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการขยายผล
เพื่อจับกุมผู้ว่าจ้าง โดยสามารถจับกุม นางสาวแอ๋ว วิจิตร ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่โรงแรมโฮมเทล จ.กระบี่ 
เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 และกฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวข้อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป    
ในปีงบประมาณ 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน กรมศุลกากรสามารถจับกุม

ผู้ลักลอบนำเข้า-ส่งออก ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) จำนวน 4 คดี มูลค่าประมาณ 66,972,000 บาท

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น