pearleus

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กองปราบ ปธ.สหกรณ์ออมทรัพย์ ม.เอแบค แจ้งจับ 2 เจ้าหน้าที่สหกรณ์ดังกล่าว ปลอมเอกสารสมาชิกฯ ใช้กู้ยืมเงิน สร้างความเสียหาย

                  

                  เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอรรณพ พึ่งเชื้อ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) พร้อมด้วยผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ดังกล่าว รวม 5 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นางกัญชลิกา กุลพนิชย์ อายุ 47 ปี และ น.ส.พรทิพย์ ดีมารยาตร์ อายุ 34 ปี ในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม หลังจากทั้งสองร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของสมาชิกสหกรณ์แห่งนี้ แล้วนำไปใช้กู้ยืมเงิน จนเกิดความเสียหายกับบรรดาสมาชิกที่ถูกนำเอกสารไปใช้โดยไม่ทราบเรื่อง สร้างความเสียหายนับสิบล้านบาท โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
                นายอรรณพ กล่าวว่า เหตุที่ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ เนื่องจากได้ตรวจสอบพบพฤติการณ์ของ นางกัญชลิกา และ น.ส.พรทิพย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีของสหกรณ์ดังกล่าว ได้ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของสมาชิกสหกรณ์ นำไปใช้กู้ยืมเงินของสหกรณ์ โดยที่ผู้เสียหายไม่ทราบเรื่อง ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือประเภทแรก สมาชิกที่ไม่เคยกู้ยืมเงินของสหกรณ์แต่ถูกนำเอกสารไปใช้กู้ยืมเงิน ประเภทที่ 2 คือ กลุ่มที่ได้กู้ยืมเงินของสหกรณ์แต่ถูกเพิ่มยอดเงินกู้เข้าไปจนมีหนี้เกินกว่าความเป็นจริง และประเภทที่ 3 คือ กลุ่มสมาชิกที่กู้ยืมเงินและชำระหนี้เงินกู้ให้กับสหกรณ์จนหมดสิ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการปิดบัญชีทำให้ยังคงมีหนี้เงินกู้ค้างอยู่ รวมแล้วกว่า 140 คน รวมมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท
                นายอรรณพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบอีกว่ามีการถ่ายโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดดังกล่าว เข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัว และมีการทำลายเอกสารและลบข้อมูลต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บไว้ ทั้งที่เป็นข้อมูลสำคัญระหว่างทางสมาชิกและสหกรณ์ ส่วนการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่าได้มีการกระทำผิดมาตั้งแต่ปี 2549 หรือเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีเต็ม ก่อนจะมีการตรวจสอบพบความผิดปกติเมื่อตนเข้ารับตำแหน่งประธานสหกรณ์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา
                “ก่อนหน้านี้ ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.หัวหมาก ท้องที่เกิดเหตุแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้มีการเชิญตัวทั้งสอง มาสอบปากคำ จากนั้นได้พิจารณาดำเนินคดีโดยแจ้งข้อหาและคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญา ผลัดฟ้องฝากขัง แต่ระหว่างการพิจารณาดำนินคดี ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวเนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหลายราย พวกผมเห็นว่าเรื่องนี้มีความเสียหายเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงอยากให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับทางกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้งสองนายอรรณพ กล่าว
                ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งนี้ กล่าวอีกว่า แม้ว่าในเบื้องต้นผู้ต้องหาจะรับสารภาพว่าร่วมกันกระทำความผิดจริง โดยทำกันเพียง 2 คน ไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมีจำนวนมาก และเป็นกรณีที่เกิดขึ้นมานานเกือบ 10 ปีเต็ม ซึ่งอาจจะมีผู้ที่รู้เห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่า 2 คน ส่วนกรณีนี้จะมีอดีตผู้บริหารสหกรณ์ หรือพนักงานในระดับใดเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ คงต้องขอให้ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบ และเอาผิดกับผู้ที่ร่วมกระทำการดังกล่าว
                ด้าน พ.ต.อ.กรไชย กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ต.ณัทปกรณ์ ปัญญาดี พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.สอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลักฐานต่างๆ ไว้ ก่อนจะพิจารณาดำเนินการต่อไป


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น