pearleus

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความบัดซบ ลับ ลวง พลาง พลังงานไทย VS เสียงประชาชน

ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและประชากรส่วนใหญ่ก็ประกอบอาชีพเกษตรกร ความจำเป็นหรือเหตุผลใดๆที่ ภาครัฐอ้างต่อ ชาวบ้านเรื่องปิโตรเลียม จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนรับไม่ได้และไม่อาจเข้าใจได้ง่ายนักจึงเกิดการลุกขึ้นทวงสิทธิขั้นพื้นฐานของตนเองและดูเหมือนประชาชนจะสู้แบบเดียวดายเสียด้วย คณะทำงานจากกองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ ชี้ชัดเจาะลึก จึงอาสาชาวบ้านผู้เดือดร้อนลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาและพร้อมตีแผ่เพื่อให้สังคมได้รับรู้ จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องจึงได้เรียนรู้ปัญหาและเห็นการกระทำที่เรียกว่าการปิดหูปิดตาประชาชนและขัดขวางสิทธิในการเข้าถึงของมูลของภาครัฐ ทำให้เกิดการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับนโยบายของท่านนายก พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ รวมทั้งนโยบายปรองดองสมานฉันที่เป็นนโยบายหลักนั้นทั้งหมดนี้ พูดให้ดี เขียนให้หรู ไม่ได้ทำ ก็ไม่เกิดประโยชน์ นับตั้งแต่การอนุมัติแปลงสัมปทานปิโตรเลียม L27/43 หรือ หลุม ดงมูล 5 ตั้งแต่ปี 2546 นั้นในพื้นที่ก็เกิดความแตกแยกมาโดยตลอด เรื่องยิ่งเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้นเมื่อ บริษัทที่ได้รับสัมปทานเร่งรีบการขุดเจาะบ่อก๊าซในแปลงสัมปทานดังกล่าวให้แล้วเสร็จเพราะใกล้จะครบอายุสัมปทาน จึงทำให้การทำงานอย่างเร่งรีบและไม่ฟังเสียงชาวบ้านจึงเกิดปัญหามากในพื้นที่ ล่าสุดในพื้นที่หลุมสัมปทานได้มีการ เผาแฟลร์ก๊าซโดยไม่มีในแผนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับชุมชนของตนเองเท่าที่ศักยภาพของประชาชนจะทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้  ทางกองบรรณาธิการจึงได้รวบรวมเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่มาตีแผ่ให้สาธารณะชนได้พิจารณากัน
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 ณ หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กลุ่มชาวบ้านเดินทางเข้าร้องเรียนต่อสถานฑูตอเมริกา เพื่อให้ตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทอพิโก้ โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากนั้นแถลงข่าวกรณีการดำเนินโครงการขุดเจาะปิโตรเลียมในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งจะสร้างผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยแถลงการณ์ของชาวบ้านระบุถึงข้อสังเกตกรณีการใช้อำนาจรัฐ เพื่อเร่งรัดและเอื้อประโยชน์ต่อการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของบริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ไม่ว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะใด ปรกติหรือไม่ปรกติ สิ่งที่ชาวบ้านต้องการก็เพียงแค่การมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมือง มีเสรีภาพในการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น การแสดงออก รวมทั้งต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงของทางราชการและบริษัทเอกชนอย่างเปิดเผยและเป็นจริง แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนต้องการหาไม่ได้เลยในพื้นที่ทั้งยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาแสดงความเห็นในเรื่องความขัดแย้งดังกล่าวแทนที่บริษัท อพิโก้ฯ จะเปิดกว้างและเข้าใจประชาชนไทยว่ากำลังประสบวิกฤตทางสังคมและการเมืองอย่างหนัก กลับอาศัยสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปรกติ ฉวยโอกาสเพื่อผลักดันการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็ว
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนามูล-ดูลสาดได้เข้ายื่นหนังสื่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ผู้ว่าราชการขอนแก่น สถานทูตประจำสหรัฐอเมริกา(บริษัทแอลแอลซีซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ อพิโก้(โคราช) เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกา)ให้ตรวจสอบการเผาสำรวจก๊าซปิโตรเลียมครั้งที่2 เหตุเพราะการเผาสำรวจไม่ถูกต้องขั้นตอนเพราะในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของทางบริษัทไม่เคยแจ้งว่าจะทำการเผาทดสอบ ครั้งที่2 และล่าสุดศาลปกครองจังหวัดขอนแก่นได้ไต่สวนคำขอกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษากรณีฉุกเฉิน

เสียงจากชาวบ้านกรณีการเผาก๊าซครั้งนี้ บอกให้รับรู้ได้หลายเรื่องหลายมิติเช่น เรื่องรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) นั้นเปรียบเป็นเพียงกองกระดาษ ที่รัฐใช้อ้างกับชาวบ้านเวลาที่ชาวบ้านคิดว่าอาจจะเกิดผลกระทบ คำกล่าวอ้างที่ว่า บริษัททำถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรการป้องกันผลกระทบใน EIA แล้ว แต่นอกจากปัญหามาตรการป้องกันผลกระทบจะใช้ไม่ได้จริง และ ไม่มีการชี้แจงมาตรการให้ชาวบ้านว่าต้องปฏิบัติอย่างไรแล้วยังพบว่า บริษัทไม่ปฏิบัติตามมาตรการใน EIA ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดอะไร เพราะมีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติช่วยชี้แจง ฉะนั้นจะมี EIA หรือไม่ ไม่มีความหมาย เพราะในนั้นไม่มีมาตรการที่ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินประชาชน คณะกรรมการไตรภาคี ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นตั้งขึ้น เป็นกลไกที่ใช้อ้างในการแก้ปัญหา และผลักดันให้บริษัทดำเนินโครงการ เป็นปัญหาสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลไกนี้ ประกอบด้วย รัฐ บริษัท ประชาชนบางกลุ่มบางพวกนอกจากการประชุมชี้แจงที่จัดโดยบริษัท ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยทราบว่ากลไกนี้ทำหน้าที่อะไรบ้าง ขอรายงานการประชุมมากว่า 70 วัน ไม่มีการตอบสนอง เพราะรายงานอยู่ที่บริษัท คณะกรรมการบางคนเป็นลูกจ้างบริษัทอีกตำแหน่งและอีกมุมหนึ่งซึ่งทำให้ชาวบ้านระแวงมากคือภาพที่เห็น ทหาร ตำรวจ ทำเสมือนว่ามีหน้าที่คุ้มครองบริษัทเท่านั้น ชาวบ้านจะเจอเจ้าหน้าที่ก็ต่อเมื่อบริษัทจะดำเนินโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการขนอุปกรณ์การเผาก๊าซ ชาวบ้านจะเห็นเจ้าหน้าที่รัฐมาอารักขาอย่างแข็งขัน ส่วนชาวบ้านที่ลุกมาต่อสู้กับกระบวนการไม่เป็นธรรมเราก็จะเจอกับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาสืบข่าวคราวความเคลื่อนไหว ถ่ายภาพจากนั้นก็อ้าง กฎอัยการศึก ม 44 หรือ พรบ.ชุมนุมข่มขู่ชาวบ้าน รัฐทหาร รัฐข้าราชการ ไม่ใช่คำตอบของประชาชนอย่างเรา นี่คือส่วนหนึ่งจากเสียงของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่



                                                                        "ขอพรปู่ดงมูล"


ชาวบ้านได้ทำพิธีอันเชิญ "ปู่ดงมูล" มาประจำหลักกลางบ้าน เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองลูกหลานจากภัยอันตราย ปู่ดงมูล คือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวนามูล ในวันที่หมู่บ้านเราต้องเผชิญกับความยากลำบากครั้งใหญ่ เจอภัยคุกคามจากการขุดเจาะปิโตรเลียม ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมมือกับนายทุน กดขี่ชาวบ้าน วันที่หาความยุติธรรมจากสังคมได้ยากลำบาก ปู่ดงมูล คือ ความหวัง และพลังใจสำคัญที่เรายึดในการต่อสู้ ไม่ว่าต้องยากลำบากแค่ไหน พวกเรายืนยันจะต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม เพื่อปกป้องชุมชน
งานกิจกรรมเรารักแผ่นดินที่โรงแรมไดอารี่ปาร์ค จ.กาฬสินธุ์
ในกรณีศึกษา ที่ผ่านมาเมื่อคราวที่ชาวบ้านคำไผ่-โนนสง่า จ.กาฬสินธุ์ เจอก๊าซพิษไข่เน่าหรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ ล้มป่วยระนาวถึง 200 คน ชาวบ้านต้องลุกขึ้นมาประท้วงเรียกร้อง แต่ก็ถูกโจมตีและขัดขวางจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่าชาวบ้านป่วยเพราะก๊าซไข่เน่า ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องดิ้นรนรักษาด้วยตนเอง สถานการณ์ขณะนี้แสดงให้เห็นว่าภาครัฐอ่อนแออย่างสิ้นเชิงในการปกป้องสิทธิและชีวิตของชาวบ้าน หรืออาจจะมาจากการที่รัฐตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของทุนต่างชาติหรืออย่างไรจึงอยากฝากให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบโดยตรง ออกมาแสดงตนในฐานะกินเงินภาษีจากประชาชนด้วยหากประชนไม่ทุกข์ยากและเดือดร้อนจริง คงไม่ออกมาเรียกร้องเรื่องแบบนี้ เรียนท่านผู้มีอำนาจวาสนาในบ้านนี้เมืองนี้ดูและพิจารณาเอาเถิดอย่าปล่อยให้ประชาชนต้องสู้อย่างเดียวดายหันไปฟังความเห็นของพวกเขาบ้างและไม่ใช่จะมีแค่ชาวนามูล-ดูลสาด แห่งนี้เท่านั้นนะครับหากท่านยังละเลยถือว่าธุระไม่ใช่คงมีอีกหลายๆกลุ่มที่เตรียมจะรวมตัวลุกขึ้นสู้กับกลุ่มนายทุนปิโตรเลียมกลุ่มนี้เช่นกัน หนังสือพิมพ์ ชี้ชัดเจาะลึก ขอทิ้งท้ายให้ข้อคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้ไว้ว่า รัฐและทุนควรใช้พลังที่มีในการแบ่งปันไม่ใช่ ใช้พลังที่มีเพื่อหวังแต่เพียงผลประโยชน์และการแย่งชิงเท่านั้น สื่อมวลชนอย่างเราจะขอเกาะติดสถานการณ์ข่าวนี้ไปจนกระทั่งความจริงจะปรากฏและขอกระชากหน้ากากพวกเอาเปรียบสังคม เอาเปรียบประชาชน และพวกข้าราชการที่ชอบเอาแต่สอพลอประจบนายทุน

                                                                                                                ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน









0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น