วันนี้ (9 พ.ย.58) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชน ครั้งที่ 1/2558 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานการจัดทำฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ
ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บฐานข้อมูลประชาชนเกี่ยวกับอาชีพ
รายได้ หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการแยกประเภท
และง่ายต่อการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย สามารถใช้เป็นฐานข้อมูล ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้รับประโยชน์โดยตรง
โดยได้มีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชน และการบริการภาครัฐ” โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว
และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ คือ 1. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการ บูรณาการฐานข้อมูลประชาชน มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน
ทำหน้าที่เสนอแนวทางการดำเนินงาน จัดทำฐานข้อมูลประชาชนของส่วนราชการ
จัดทำและรวบรวมบริการของหน่วยงานซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลประชาชนของส่วนราชการต่างๆ เพื่อจัดทำข้อมูลสารสนเทศให้เป็นฐานข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร
รวมทั้งเสนอแนวทางการปรับปรุงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ 2. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปรับปรุงการบริการภาครัฐ
มีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นประธาน
สำหรับการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนในวันนี้
ที่ประชุมฯ ได้มีการติดตาม การดำเนินงานที่ผ่านมา
ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ
ที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อสำรวจฐานข้อมูลที่หน่วยงานราชการมีอยู่ในปัจจุบันด้านอาชีพและรายได้ของ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานประกันสังคม และกรมการพัฒนาชุมชน
เริ่มสำรวจตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2557 – 31 มีนาคม 2558 สามารถสร้างฐานข้อมูลได้จำนวน 21.3 ล้านคน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้อง
เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
รวมทั้งได้มีการสำรวจฐานข้อมูลประชาชนของส่วนราชการอื่นๆ เพื่อบูรณาการฐานข้อมูล
และเชื่อมโยงทะเบียนราษฎรอีก 78 หน่วยงาน
พบว่าหน่วยงานที่มีความพร้อมในการเชื่อมโยงฐานข้อมูล มีจำนวน 10 หน่วยงาน เช่น ฐานข้อมูลผู้ขอหนังสือเดินทาง ฐานข้อมูลผู้ประกันตน
ฐานข้อมูลสิทธิการรักษาพยาบาล และฐานข้อมูลด้านการประกอบอาชีพ (ปลูกข้าว
ปลูกยาง) เป็นต้น
อย่างไรก็ดี
เนื่องจากการจัดทำฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐมีเรื่องที่เกี่ยวข้องในประเด็น ข้อกฎหมายกับการเปิดเผยข้อมูล
บางหน่วยงานมีกฎหมายที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และบางหน่วยงานมีข้อมูล ที่ไม่ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุง
ที่ประชุมฯ จึงได้เสนอแนวทางในการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็น 2 ระยะ คือ
ในระยะแรกภายหลังจากที่ได้รับข้อมูลด้านรายได้และอาชีพของแต่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้วให้จัดทำรายละเอียดข้อมูลของแต่ละส่วนราชการว่ามีข้อมูลอย่างไร
และมีข้อจำกัดอย่างไร ทั้งข้อติดขัดด้านกฎหมาย
และด้านความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล
เพื่อจัดทำข้อมูลทั้งหมดพร้อมแนวทางแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาล
และอาจเสนอแนวทางในการสำรวจฐานข้อมูลรายได้และอาชีพ โดยมีกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลในระยะแรกก่อน
ส่วนในระยะยาวอาจจะมีการเสนอขอแก้ไขกฎหมายที่ติดขัดของหน่วยงานต่างๆ
ให้สามารถจัดเก็บและปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันได้อย่างต่อเนื่องและถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ที่ประชุมฯจะได้สรุปผลการดำเนินงาน ความคืบหน้า และแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไป เสนอต่อคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ
ซึ่งมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน
เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น