pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รมว.มท. เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง 25 จังหวัด

เมื่อ 26 พ.ย. 58 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พลเอก อนุพงษ์  เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้แก่ผู้ปกครองท้องที่ (กำนันและผู้ใหญ่บ้านของจังหวัดปทุมธานี) และผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง 25 จังหวัด โดยภาคเช้าเป็นการมอบนโยบาย แก่ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคบ่ายจะเป็นการมอบนโยบายแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
    ในภาคเช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายแก่นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 4,002 คน จากท้องถิ่น 2,001 แห่ง 
   โดยกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย เป็นกระทรวงเดียวที่สามารถยึดโยงงานของรัฐบาลลงไปสู่ในพื้นที่ โดยมีกลไกของคนมหาดไทยในการทำงาน ในด้านความมั่นคง เรามีท้องที่ มีฝ่ายปกครอง 
     ด้านการพัฒนาความเจริญ เรามีท้องถิ่น มีอปท. ทุกรูปแบบ ดังนั้น ท่านทุกคนจึงมีความสำคัญที่จะนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การพัฒนาในพื้นที่ ซึ่งการที่เราจะมีประชาธิปไตยที่ดี เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ การทำงานของท้องถิ่นจึงต้องใช้ทั้งความรู้ และความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใสเป็นหลักสำคัญ ต้องเก่ง ต้องดี มีความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
   ซึ่ง คนของท้องถิ่น ถือเป็นคนที่รู้พื้นที่ รู้สภาพภูมิสังคมมากที่สุด ดังนั้น การบริหารจัดการท้องถิ่น จึงต้องยึดโยงกับแผนพัฒนาจังหวัด การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นต้องตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและศักยภาพของพื้นที่ มีการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ ตามกรอบวินัยการเงินการคลัง ด้วยความสุจริตโปร่งใส มีมาตรฐานด้านคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล
    สำหรับวาระสำคัญที่อยากจะฝากคือ 1. การปกป้อง และ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ
ของคนไทยทั้งชาติ โดยขอให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในท้องถิ่นให้ทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมนำแนวทางพระราชดำริ และหลักการทรงงาน หลักปรัชญาเศษรฐกิจ ถ่ายทอดให้ถึงพี่น้องประชาชน ให้สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงขอให้ช่วยกันปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 
     2. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เน้นย้ำในการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ อย่าให้ประชาชนขัดแย้ง จนนำไปสู่การใช้ความรุนแรง ต้องทำให้ประชาชนยอม
รับความคิดเห็น หรือความชอบที่อาจแตกต่างกันได้ แต่ต้องไม่เกิดความขัดแย้ง และต้องไม่ให้มีการยุยงปลุกปั่น ประชาชน หรือมีการทำผิดกฎหมาย 
    โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ขอให้ท่านทำในสิ่งที่ดี  ต้องไม่เข้าไปมีส่วนในการปลุกระดมมวลชนอย่างเด็ดขาด โดยขอให้ใช้วิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง และให้เอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 
     ยกตัวอย่าง การแก้ไขปัญหายาเสพติด ท่านต้องรับผิดชอบในพื้นที่ของตนเองโดยให้ยึดถือตามแนวทางการลด Demand (อุปสงค์) ลดปริมาณผู้เข้าสู่การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และนำคนออกจากวงจรการกระทำผิด  และลด Supply (อุปทาน) โดยบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ของตนเอง
      เรื่องการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยของ อปท. ในภาพรวมของประเทศ  ขอให้ดูตัวอย่างจากต่างประเทศที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ        
      สำหรับประเทศไทย เราจะต้องสร้างจิตสำนึกในการช่วยกันลดปริมาณขยะในพื้นที่ลงให้ได้ ซึ่งอนาคตจะมีการรวมกลุ่มพื้นที่ (Clusters) ในการจัดการขยะมูลฝอยร่วมกัน และจะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ (Law) ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะมูลฝอย จึงขอให้เตรียมความพร้อมดำเนินการอย่างเป็นระบบ
     สุดท้าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขอบคุณและให้กำลังใจผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกคนที่ได้ร่วมกันทำงานด้วยความเสียสละ อดทน ทุ่มเท และมุ่งมั่น 
ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถเชื่อว่าท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นคนดี เพราะมาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนที่เลือกคนดีมาทำงาน และขอให้ทุกคนช่วยพิสูจน์ตนเอง โดยช่วยกันทำให้ประเทศชาติเกิดความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนและสร้างความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน
     ในส่วนของ นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำการทำงานของท้องถิ่นทุกภารกิจ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่ในระดับท้องถิ่น  การจัดเก็บภาษี การปฏิบัติตามแผนการกระจายอำนาจ การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะการขอความร่วมมือจากประชาชนในการเปลี่ยนการเพาะปลูกมาเป็นพืชใช้น้ำน้อย และขอให้ท้องถิ่นช่วยสนับสนุนการทำงานต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้งบประมาณในการส่งเสริมความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน เริ่มลงไปสู่พื้นที่แล้ว จึงอยากจะเห็นทุกพื้นที่ได้ทำงานเป็นทีม โดยสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ทีมประเทศไทย และทีมประชารัฐ ด้วยความเอื้ออาทร ระหว่าง ภูมิภาค ท้องที่ และท้องถิ่น สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน ด้วยความรู้รักสามัคคี เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
   ในส่วนของการดูแลพื้นที่ ขอให้ช่วยดูแลเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง แม่น้ำลำคลอง สิ่งแวดล้อมต่างๆ ตามโครงการคลองสวย น้ำใส อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมกับฝ่ายปกครองและตำรวจในพื้นที่ 
    ในด้านการช่วยเหลือประชาชน ผู้มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาส ขอให้ดำเนินโครงการของท้องถิ่นที่เพื่อสร้างโอกาส อาชีพ และขยายโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในทุกระดับและส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ไม่มีหนี้สิน ใช้ชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การลดต้นทุนการผลิต การช่วยเหลือในเรื่องปัจจัยการผลิต เป็นต้น 
     ด้านการบริหารจัดการ เน้นการทำงานเป็นทีม และมีการบริหารงาน "เชิงสร้างสรรค์" มีความสุจริตโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น
    และขอให้ร่วมขับเคลื่อนศูนย์ดำรงธรรมท้องถิ่น โดยผู้บริหาร อปท. ต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเชิงรุก ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจ เข้าถึงประชาชน เพื่อให้ปัญหายุติให้ได้ในระดับท้องถิ่น โดยใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เข้ามาแก้ปัญหา
    รวมทั้งขอให้ช่วยดูแลและร่วมพัฒนาสินค้า OTOP เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น มีคุณภาพ มีตลาดรองรับ สามารถนำไปขายในตลาดต่างประเทศ ขอฝากให้ท้องถิ่นเข้าไปช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเปิดตลาดชุมชนในพื้นที่  เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 
        สำหรับการมอบนโยบายในภาคบ่ายนั้นจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ประกอบด้วย กำนัน ทุกตำบล จำนวน 1,828 คน ผู้ใหญ่บ้านของจังหวัดปทุมธานี จำนวน 407 คน โดยมีวาระสำคัญด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ อาทิเช่น การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ลดความขัดแย้งของประชาชาชนในพื้นที่ การรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งปี 2558/59 โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และการดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) เป็นต้น 
    ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกลเพื่อให้นายอำเภอ และผู้ใหญ่บ้านทุกคนในพื้นที่ภาคกลาง ได้เข้าร่วมรับชมโดยพร้อมเพรียง ณ สถานที่ที่แต่ละจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ด้วย     





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น