pearleus

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กระทรวงมหาดไทยน้อมนำแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

เมื่อวันที่ 16พ.ย. 58 นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยด้านการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามโครงการ ตามรอยเท้าพ่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นความจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงงานเพื่อประชาชน ตลอดจนขยายผลโครงการพระราชดำริ และแบบอย่างที่ได้ทรงวางรากฐานไว้น้อมนำสู่การปฏิบัติ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
          ในปีงบประมาณ 2559 กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการสำคัญหลายโครงการตามนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้พระราชทานไว้ตามพื้นที่ต่างๆ มาทำให้เกิดประโยชน์ และขยายผลแก่ประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน  อาทิเช่น การดำเนินโครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ปวงประชาเป็นสุขด้วยพระบารมี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2559” เพื่อน้อมนำแนวทางพระราชดำริ หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้มีองค์ความรู้ และสามารถนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานและในชีวิตประจำวัน รวมทั้งเผยแพร่พระราชกรณียกิจนานัปการให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน เพื่อสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้เกิดความรัก ความสามัคคี และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามแนวทางกิจกรรมในลักษณะ ปฏิบัติบูชาโดยจังหวัดจะจัดทำโครงการ/กิจกรรมในลักษณะการเสริมสร้าง  องค์ความรู้ การส่งเสริมอาชีพ หรือโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวม เสนอมายังกระทรวงมหาดไทย   เพื่อจัดสรรงบประมาณให้จังหวัดนำไปดำเนินการในพื้นที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
          นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นกลไกหลักในการสั่งการและบูรณาการ  ทุกภาคส่วนในพื้นที่ กำกับดูแลการขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องการปรับแผนพัฒนาจังหวัดและการปรับปรุงโครงสร้างของหน่วยงาน เพื่อรองรับการทำงานในพื้นที่ โดยให้  ทุกจังหวัดทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (พ.ศ.2557 – 2560) โดยน้อมนำและประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัด ให้เป็นไปอย่างสมดุลและยั่งยืนใช้กรอบแนวทางการดำเนินงาน 5 มิติ ได้แก่ มิติด้านสิ่งแวดล้อม ด้านคุณภาพชีวิต ด้านการเกษตร ด้านวิถีชีวิต และมิติอื่นๆ ตามความสอดคล้องของพื้นที่หรือภูมิสังคม รวมทั้งให้สนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคเกษตรและชนบท ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะ 4 ปี (2557 – 2560) ที่สำนักงาน      ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำขึ้นให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันในทุกระดับ
ด้านการปรับปรุงโครงสร้างและความรับผิดชอบงานโครงการพระราชดำริในระดับจังหวัด ได้มีการจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานการขับเคลื่อนและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดขึ้น ภายในสำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์รวบรวมบูรณาการข้อมูล จัดทำบัญชีรายชื่อโครงการพระราชดำริในพื้นที่ให้เป็นปัจจุบัน และประสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมาย และทำหน้าที่เสมือนสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในระดับจังหวัด ตลอดจน  เป็นหน่วยงานเพื่อรับสนองพระราชดำริ กระแสพระราชดำรัสของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในคราวเสด็จในพื้นที่  รวมทั้ง การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการต่างๆ ที่มีอยู่เดิมทุกระดับในจังหวัด ให้ครอบคลุมองค์ประกอบ  ของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคการศึกษา และภาคการศาสนา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด   เป็นประธาน ส่วนในระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะได้จัดให้มีการประชุมวีดีทัศน์ทางไกล เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทางโครงการพระราชดำริให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และหัวหน้ากลุ่มงานที่รับผิดชอบให้สามารถขับเคลื่อนงานในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม


          ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ ภายในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาภัยแล้ง หรือปัจจัยจากภายนอกประเทศที่เกิดขึ้น กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าการน้อมนำแนวทางพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักสำคัญในการดำเนินงานทุกๆ ด้านจะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนให้สามารถพึ่งพาตนเอง   ได้บนพื้นฐานความพอเพียง อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น