pearleus

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ตำรวจ-ทหาร-ปกครองบุรีรัมย์ จับยาบ้ากว่าครึ่งแสนเม็ด

***ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ,ตชด. และฝ่ายปกครอง สกัดจับเครือข่ายยาเสพติด ที่ลักลอบเดินทางข้ามจังหวัดใช้รถกระบะขับเคลียเส้นทาง ก่อนควบเก๋งซุกยาบ้าได้กว่า 50,000 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ขณะเตรียมนำส่งลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และ จ.นครราชสีมา ด้านเจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนขยายผลติดตามหาเครือข่ายพร้อมยึดอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบหลายรายการ
*** บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 27 พ.ย.58 นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯบรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,พ.ต.อ.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รอง ผบก.ฯ พ.ต.ท.รัฐพล ป้องกัน หัวหน้า ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.ต.นิวัฒน์ อาทวัง รองหัวหน้าฯ ร่วมกันแถลงข่าวผลงาน ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ที่ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยข่าวกรองทหาร สนับสนุนกองกำลังสุรนารี , ชุดต่อต้านข่าวกรอง กองทัพภาคที่ 2 , ตชด.215(นางรอง) ,สภ.นางรอง, ร้อย อส.จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 นาย วางแผนจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด หลังสืบทราบว่าจะมีการขนยาเสพติดจำนวนมาก มาจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ,จ.สุรินทร์ และ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 พ.ย.58 ที่ผ่านมา
*** กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 26 พ.ย.58 พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีน้ำตาล เลขทะเบียน กม 8125 อุบลราชธานี ขับอยู่บนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม มุ่งหน้าเข้ามาในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ โดยมีนายมงคล หรือโอเล่ กระจิการ อายุ 35 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ตำแหน่งครูอัตราจ้าง กศน.แห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ขับขี่เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตาม เมื่อรถคันดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ติดตาม จึงเร่งขับหลบหนีความเร็วสูง เพื่อหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ เมื่อมาถึงบริเวณหน้า รพ.สต.บ้านบัว ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเขตชุมชนเจ้าหน้าที่เกรงจะเกิดอันตรายกับประชาชน และผู้สัญจรบนถนน เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตาม และสามารถสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวได้ ก่อนควบคุมมาสอบสวนขยายผล
***นายมงคล ให้การรับสารภาพว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับพวกอีก 2 คน ใช้รถเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิสวิฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กภ 2276 กรุงเทพมหานคร นำยาบ้าและยาไอซ์มาส่งให้กับลูกค้าในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ตามคำสั่งของเอเย่นต์รายใหญ่ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยตนเป็นคนขับรถนำทางเพื่อเคลียเส้นทางหลบหนี การจับกุมของเจ้าหน้าที่ และได้โทรศัพท์ติดต่อกันกับพวกระหว่างเส้นทาง ว่าถูกตำรวจไล่ล่า ขอให้หลบหนีไปก่อน
 ***จากนั้นเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 26 พ.ย.58 เจ้าหน้าที่จึงเร่งกระจายกำลังติดตามรถเก๋ง และพบจอดอยู่ในห้องพักหมายเลข 1 ปุณณดารีสอร์ท ต.นางรองอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สอบถามผู้ดูแลรีสอร์ท ทราบว่ามีนายคติพจน์ หรืออ๊อฟ  กาญจนพันธ์ อายุ 28 ปี กับนายสุริยา หรือจิ๋ว นามประภา อายุ 30 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ติดต่อขอเปิดห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าทำการตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย พบนายคติพจน์ กับนายสุริยา ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และนั่งโดยสารมากับรถเก๋งคันดังกล่าว อยู่ในห้องพักเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้งสองแสดงอาการตกใจ และพูดจาวกไปวนมา ปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับนายมงคล ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งไม่ได้ขนย้ายยาเสพติดแต่อย่างใด กระทั่งเจ้าหน้าที่พบหลักฐานการใช้โทรศัพท์ติดต่อกัน ระหว่างเส้นทางและสมุดบัญชีรายชื่อเครือข่ายยาบ้า ทำให้ผู้ต้องหาจนมุมยอมรับสารภาพ และยอมนำไปเอายาบ้าและยาไอซ์ที่ซุกซ่อนไว้ในป่าฝั่งตรงข้ามฟาร์มหมู  ซอยเข้าหมู่บ้านหนองโคลน ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์
*** เมื่อไปถึงเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 26 พ.ย. 58 พบถุงปุ๋ยขนาดใหญ่สีฟ้ามีตัวอักษรสีน้ำเงิน เขียนเป็นภาษาลาว อยู่ด้านบนกระสอบ ตรวจสอบภายในพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า พันทับด้วยเทปพันสายไฟสีดำ นับได้ 27 มัด รวมจำนวน 53,828 เม็ด ยาไอซ์2 ถุงเล็กน้ำหนักรวม 12.88 กรัม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมและตรวจค้นอย่างละเอียด ก่อนจะตรวจยึดและอายัด โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง บัตรเอ.ที.เอ็ม สมุดบัญชีธนาคารมียอดเงินในบัญชีจำนวนหนึ่ง รถยนต์ 2 คันไว้ทำการตรวจสอบ
 ***สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า นายสุริยา หรือจิ่ว นามประภา เพิ่งจบการศึกษาเอกวิศวะคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสาน และมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เคยติดคุกคดียาเสพติดและพ้นโทษออกมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พร้อมด้วย นายคติพจน์ หรืออ๊อฟ กาญจนพันธ์เป็นครูอัตราจ้าง กศน.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ได้รับการว่าจ้างจากนายยศ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ให้รับยาบ้าและยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้าในจังหวัดบุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ และ จ.นครราชสีมา โดยนายยศจะนำยาบ้าไปรออยู่ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 10 อ.เมืองอุบลราชธานี ตกลงค่าจ้างกันเที่ยวละ 30,000 บาท โดยให้นายมงคล หรือโอเล่ เป็นคนขับรถนำทาง ป้องกันการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งเข้าเขต อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นายอ๊อฟได้รับโทรศัพท์จากนายโอเล่ ว่ากำลังถูกติดตาม นายจิ๋ว ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋ง ขนยาเสพติดอยู่ในขณะนั้นได้ขับรถหลบหนีเส้นทางเข้าไปในเขต อ.หนองกี่ และอีกหลายอำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนจะนำยาบ้าไปซุกไว้ในพงหญ้าข้างทางในพื้นที่ ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ และกลับมาเปิดห้องพักในอำเภอนางรอง กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม
*** นายจิ๋ว ยังสารภาพอีกว่าตนทำมาแล้ว 3 ครั้ง ต้องการหาเงิน 1 แสนบาท ไว้เป็นทุนในการทำงานรับเหมาก่อสร้าง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายนำตัวสอบสวนขยายผล หาผู้ร่วมขบวนการเพื่อติดตามหาต้นตอของเอเย่นต์จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีต่อไป

*** ด้าน ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวว่า ผลงานดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่ได้มีการเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายยาเสพติด ทั้งกลุ่มผู้เสพและผู้ค้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้มีการออกสืบสวนหาข่าวกระทั่งได้ข้อมูลของผู้กระทำความผิดจนแน่ชัด ก่อนจะร่วมกันวางแผนจับกุมได้ดังกล่าว ซึ่งทถกครั้งที่ปฎิบัติหน้าที่ตนได้กำชับให้ผู้ปฎิบัติงานทุกนาย ทำงานด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวผู้ปฎิบัติเอง และประชาชนด้วย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น