เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2558 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปราม นายกุลิศ
สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมรถยนต์บรรทุกสิบล้อ จำนวน 2 คัน บรรทุกสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และลักลอบหนีภาษีศุลกากร
มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ
หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด
เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม นายกุลิศ
สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้นายจำเริญ โพธิยอด
รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาและบริหารจัดเก็บภาษี และนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันทชัย
ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม
เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบนำสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร
ต่อมาเมื่อเวลา 01.30
น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558
ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวน และปราบปราม
สามารถปฏิบัติการตรวจค้น – จับกุมรถยนต์บรรทุกสิบล้อ จำนวน 2 คัน หมายเลขทะเบียน 70 – 0342 นครพนม และ 70
– 0343 นครพนม ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ ได้เฝ้าติดตามมาจากเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
จนมาถึงถนนมอร์เตอเวย์ช่วงระหว่างบางปะกง – ลาดกระบัง
จึงได้ปฏิบัติการตรวจค้น – จับกุม
ซึ่งพบว่าภายในกระบะบรรทุกมีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
และลักลอบหนีภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวนรวมประมาณ 100,000 ชิ้น สินค้าประเภท โทรศัพท์มือถือพร้อมกล่องอุปกรณ์, เครื่องเล่นเกมแบบพกพา, แท็บเล็ต, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้า, ของเล่นเด็ก,
กระเป๋า, รองเท้า, อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์
และอุปกรณ์กีฬา มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 100
ล้านบาท เจ้าหน้าที่ฯ
จึงได้สอบถามคนขับชื่อนายบรรจง แสงพงษ์ และนายจันทร์ ถินคำเชิด
โดยทั้งคู่ยอมรับว่าได้รับคำสั่งจากเจ้าของรถยนต์บรรทุกสิบล้อ
ให้มารับสินค้าที่โกดังแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา จะนำไปส่งแถวถนนพระราม 2 โดยเจ้าของสินค้าจะแจ้งจุดส่งสินค้าอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมนายบรรจงฯ และนายจันทร์ฯ เป็นผู้ต้องหา และยึดสินค้าพร้อมรถยนต์บรรทุกสิบล้อ
ทั้ง 2 คัน
เป็นของกลางตามฐานความผิดลักลอบสินค้าหลบหนีภาษีเข้ามาในราชอาณาจักร หรือรับซื้อ
รับไว้ด้วยประการใดๆ
อันของที่นำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรเป็นความผิดตามมาตรา ๒๗ , ๒๗ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ ประกอบกับมาตรา ๑๖,๑๗ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร
พ.ศ.2482(ฉบับที่ 9) อันมีระวางโทษปรับ
4 เท่าราคาของรวมค่าอากร และ/หรือจำคุก 10 ปี และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นำส่งกรมศุลกากรดำเนินคดีต่อไป
อนึ่ง
การตรวจค้น – จับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมสินค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
และลักลอบหนีภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ที่ได้ของกลางปริมาณและมูลค่าสูงมากครั้งหนึ่ง
อันเป็นการปฏิบัติการตามแผนปฏิบัติการ ของกรมศุลกากร
ที่ได้กำชับและมุ่งเน้นหน่วยงานทั่วประเทศให้มีการปฏิบัติการอย่างเข้มงวด
ซึ่งการปฏิบัติการตามแผนกรมฯ นั้น จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศในลักษณะปฏิบัติการตรวจค้นต้นทางทั้งชายแดน,
ท่าเรือสินค้า, กลางทางขณะลำเลียงไปยังจุดเก็บ
และปลายทางตามจุดเก็บโกดังสินค้า พร้อมแหล่งจำหน่าย เพื่อทำลายขบวนการอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
และคุ้มครองสุจริตชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ประชาสัมพันธ์ศุลกากร/รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น