มหาดไทย
สั่งผู้ว่าฯ กำชับทุกหน่วย คุมเข้มป้องกันอุบัติภัยช่วงเทศกาลลอยกระทงรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ
และเน้นย้ำมาตรการทางกฎหมาย
เมื่อ 23 พ.ย. 58 นายกฤษฎา
บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ด้วยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง มีหลายพื้นที่ของจังหวัดและกรุงเทพมหานครได้จัดให้มีงานเทศกาลวันลอยกระทง
มีช่วงระยะเวลาการจัดงานแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
และประชาชนนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ
เพื่อร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสถานที่ริมน้ำ โป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสาร
นอกจากนี้ประชาชนยังนิยมจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง
และการปล่อยโคมลอยเพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลดังกล่าว
ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างความเดือดร้อน
และก่อให้เกิดอัคคีภัยตลอดจนอุบัติเหตุสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้
ซึ่งรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา
มีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
โดยได้ฝากให้ทุกพื้นที่ช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงที่จะมีการปล่อยโคมลอย
โคมควัน การเล่นพลุ ท่าเรือ โป๊ะ และที่มีประชาชนสัญจรให้มีความปลอดภัยกับประชาชน
โดยที่ผ่านมา
กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันอุบัติภัยและการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง
เช่น การเข้มงวดกวดขัน การพิจารณาออกใบอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาตให้ทำ สั่ง
นำเข้า หรือค้าดอกไม้เพลิง การตรวจตราอาคารสถานที่ โป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสาร
และสิ่งปลูกสร้างในบริเวณการจัดงานให้มีความมั่นคงแข็งแรงเพื่อรองรับผู้ใช้บริการและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
และเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีเมื่อเกิดภัย
รวมทั้งการเข้มงวดกวดขันตามมาตรการเน้นหนักในเรื่องการสร้างความปลอดภัยทางถนน 10
มาตรการอย่างเคร่งครัด เป็นต้น ดังนั้น
เพื่อให้การป้องกันอุบัติภัยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กระทรวงมหาดไทย
จึงได้มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุดไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ดำเนินการ
ดังนี้ 1) มาตรการทางกฎหมายเนื่องจากการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง
มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอัคคีภัย อันเป็นสาธารณภัยที่ส่งผลต่อสาธารณชน
ก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายของประชาชน
หรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด
ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 พิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 22
วรรคสาม สั่งการให้งดเว้นการกระทำดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้น 2) มาตรการด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้จังหวัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ได้ตระหนักถึงภัยอันตราย
ตลอดจนบทลงโทษทางกฎหมายกรณีการกระทำที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น
การปล่อยโคมลอย โคมควัน ลูกโป่งสวรรค์ การยิงลำแสงเลเซอร์
และการใช้อากาศยานไร้คนขับ (Drone) หากเกิดผลกระทบต่อการบินและอากาศยาน
จะมีความผิดและได้รับบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558
และแจ้งเตือนการดัดแปลงและเล่นประทัด พลุ ดอกไม้เพลิงอย่างคึกคะนองจนเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
จะเป็นความผิดที่ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535
และความผิดฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ให้กำหนดพื้นที่ที่ไม่สมควรให้มีการเล่นดอกไม้เพลิง
เนื่องจากเป็นการสร้างความเดือดร้อน รำคาญ และเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน
โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535
พร้อมทั้งให้เข้มงวดสถานที่ห้ามจำหน่ายสุรา ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พ.ศ.2551 เพื่อลดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น
อุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ เหตุทะเลาะวิวาท และปัญหาอาชญากรรม
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำชับเจ้าหน้าที่ให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว
เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยและค่านิยมที่ดีงามของประเพณีไทย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น