pearleus

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ดสร้างโมเดลฐานการเรียนรู้ชีววิถี เศรษฐกิจพอเพียง

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ดสร้างโมเดลฐานการเรียนรู้ชีววิถี เศรษฐกิจพอเพียงสร้างรายได้ให้นักศึกษาภายในบริเวณหอพัก วิทยาลัยฯ
          ที่ ฐานการเรียนรู้ชีววิถีเศรษฐกิจพอเพียงด้านหน้าและรอบๆหอพักนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ดทั้งหอพักนักศึกษาหญิงและนักศึกษาชาย คณะสัตวศาสตร์ พืชศาสตร์ ประมงและสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกันตามนโยบายของ ดร.ชาติชาย  เกตุพรหม   ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ให้มีการจัดสร้างโมเดลฐานการเรียนรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิแปลงพืชผักต่างๆ  หลายชนิดคะน้า ผักบุ้ง พริก ผัดกาด รอบๆบริเวณหอพัก  ทั้งที่ขายไปแล้ว เริ่มทยอยทำแปลงเพื่อลงมือปลูกใหม่ เนื่องจากที่ขายก็ไม่ไกล โดยการขายให้กับโรงครัวของทางวิทยาลัยนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นอาหารสุขภาพ ผักอินทรีย์ ปลอดสารพิษ อีกด้วย  นอกจากนี้ยังมีสวนมะนาว มะละกอ บ่อเลี้ยงปลาดุก ที่น้องๆนักศึกษาช่วยกันขยายพันธ์ตามหลักวิชาที่เรียนในหลักสูตรการเรียนการสอน ขณะนี้มีมะนาวท่อปลูกด้วยระบบน้ำหยดอีก กว่า 200 ต้น  เพียงพอต่อการบริโภคกันทั้งวิทยาลัยฯ
        นางสาวกาญจนา  มาศเกษม นักศึกษาสาขาพืชศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) กล่าวว่ากิจกรรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมของหมู่บ้าน  อกท.หน่วยร้อยเอ็ด หรือ องค์การเกษตรในอนาคตแห่งประเทศไทย หน่วยร้อยเอ็ด ได้จัดทำโครงการชีววิถีโดยได้ทำการเปิดเป็นร้อยเอ็ดโมเดล ประกอบไปด้วยการปลูกพืช  การประมง การเลี้ยงสัตว์และสิ่งแวดล้อม เป็นการฝึกทักษะและประสบการณ์ไปในตัวประกอบการศึกษาอีกด้วย โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีประชากร จำนวน 300 คน เป็นนักศึกษาชาวไทย จำนวน 290 คน และเป็นนักศึกษาจากประเทศกัมพูชา จำนวน 10 คน ที่เป็นนักศึกษา ที่ได้รับทุนจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โดยได้เดินทางมาศึกษาที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด  ทั้งยังเป็นอาหารสุขภาพ ผักอินทรีย์ ปลอดสารพิษ อีกด้วยและนักศึกษาจากประเทศกัมพูชา จำนวน 10 คน ก็ได้จัดกิจกรรมโครงการนี้ เช่นเดียวกัน  
        หลังจากนั้น นักศึกษา ตัวแทนหมู่บ้าน อกท.หน่วยร้อยเอ็ด  ก็นำชมแปลงผัก ต่างๆ สวนมะนาว คอกสัตว์ โรงเรือนเตรียมปลูกเห็ด ที่พึ่งทำโรงเรือน เตรียมไว้ทำกิจกรรม สร้างรายได้กันต่อไป..





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น