กองปราบ รวบหนุ่มแสบอ้างตัวแทนประกันชีวิตตุ๋นญาติพยาบาลสาวที่ฆ่าตัวตายเพราะช้ำรัก หลอกเอาเบี้ยประกันภัย พบก่อเหตุมาหลายหนถูกจับไม่เข็ด

 เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 9 เมษายน 2558 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป.พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.แถลงจับกุม นายกิตติเมธี หรือสมชาย แซ่โค้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/41 หมู่ 7 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลแขวงลพบุรี ที่ จ.71/2557 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2557 ข้อหาฉ้อโกง จับกุมได้ที่บริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง กทม.ขณะกำลังเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

                พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิต โทรศัพท์ไปหลอกลวงญาติของ น.ส.มะลิวรรณ หรือไก่ คำรัตน์ อายุ 35 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งฉีดยาฆ่าตัวตายในอพาร์ทเม้นท์ย่านซอยรามคำแหง แขวงและเขตคลองตัน โดยสาเหตุมาจากปัญหาความเครียดจากปัญหาความรัก ว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ ขอให้ทางญาติรีบโอนเงินค่าเบื้ยประกันส่วนที่เหลืออีก 7,000 บาท เพื่อจะได้เร่งรัดจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน 500,000 บาท ให้กับทางญาติผู้เสียชีวิต ทำให้ญาติเข้าใจผิด หลงเชื่อว่าผู้เสียชีวิตได้ทำประกันชีวิตไว้จริง จึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ แต่ภายหลังกลับไม่ได้รับเงินค่าสินไหมตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง ต่อมาผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้

                พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า ภายหลังชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีคดีโดยซื้อตั๋วเครื่องบินเตรียมเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ จ.เชียงใหม่ จึงวางแผนเร่งติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ที่สนามบินดอนเมือง ก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.

                จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุกับญาติของผู้เสียชีวิตรายนี้ จริง ส่วนสาเหตุเพราะต้องการหาเงินไปใช้เที่ยวเตร่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จนต้องรับโทษจำคุกมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่หลังจากพ้นโทษ ก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกเพราะไม่มีทางเลือก เนื่องจากไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และคิดว่าเป็นวิธีที่สามารถหาเงินใช้ได้ง่าย โดยทำเพียงลำพังคนเดียว ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป

                อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหา ยังมีหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ จ.232/2557 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2557 และ หมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 647/2557 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ข้อหาฉ้อโกง ติดตัวอยู่ โดยมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดลักษณะเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจ กก.1 บก.ป.และ กก.2 บก.ป.จับกุมตัวมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ละครั้งก็จะใช้วิธีติดตามข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับคดีที่มีผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะจากอุบัติเหตุก่อนจะหาข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของผู้เสียชีวิต แล้วติดต่อกับญาติอ้างว่าผู้เสียชีวิตทำประกันชีวิตเอาไว้ และยังติดค้างการชำระเบี้ยประกันงวดสุดท้าย หากต้องการได้รับสินไหมทดแทน ก็ขอให้รีบโอนเงินมาเพื่อเร่งรัดดำเนินการให้ ที่ผ่านมาจึงมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายราย นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมหลอกลวงเหยื่อ ด้วยรูปแบบอื่นๆ เช่น หลอกลวงว่าทำธุรกิจจัดโต๊ะจีนราคาถูก เมื่อผู้เสี่ยหายติดต่อและได้รับการโอนเงินค่าจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ก็เชิดเงินหลบหนีไป รวมทั้งอ้างว่ามีแตรวง รับงานจ้างทั่วไป แต่เมื่อมีการว่าจ้างโดยโอนเงินให้ ก็หลบหนีไปเช่นเดียวกัน

Posted in: ข่าวกทม.กองปราบ