pearleus

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

ข่าวประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม

การคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2558
                นายปัญญา  งานเลิศ  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับการประสานจากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ ปี 2558 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2558 เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่เกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ เพื่อเผยแพร่พระคุณ และบทบาทของแม่ที่มีกับครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เพื่อยกย่องแม่ดีเด่นและลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ และขอความร่วมมือจังหวัดสมุทรสงครามประชาสัมพันธ์การคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2558 ในส่วนกลางของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ หากมีผู้สนใจสามารถดำเนินการได้ 2 วิธี ดังนี้
1.             เสนอประวัติส่งอำเภอที่มีภูมิลำเนาอยู่ เพื่ออำเภอพิจารณาผู้ที่เห็นสมควรเป็นแม่ดีเด่น
ตามเกณฑ์ที่สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ กำหนดเข้ารับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่น จังหวัดสมุทรสงคราม ประจำปี 2558 แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1.1             แม่ผู้เป็นเกษตรกร คัดเลือกจากแม่ที่มีอาชีพเกษตรกรรม มีความขยันหมั่นเพียรใน
การประกอบอาชีพเกษตรกรรมจนเป็นที่ยอมรับ มีความซื่อสัตย์สุจริต อบรมเลี้ยงดูลูกด้วยความรักความเอาใจใส่ ด้วยความมานะ อดทน ทำให้ลูกได้รับการศึกษา มีอาชีพที่สุจริต มีความประพฤติดี เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
1.2             แม่ผู้เสียสละ คัดเลือกจากแม่ที่มีลูกเป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัคร ซึ่งได้เสียสละ
ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความมั่นคงของชาติ การรักษาความสงบเรียบร้อย การบรรเทาสาธารณภัย โดยได้ประกอบวีรกรรมที่ควรแก่การยกย่อง หรือทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติอย่างเด่นชัดสมควรเป็นแบบอย่างแก่คนทั่วไป
1.3             แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม คัดเลือกจากแม่ผู้บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
และสังคม ด้วยความเสียสละ มีความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เป็นแบบอย่างได้ เป็นผู้มีความประพฤติดีมีคุณธรรมจริยธรรม เป็นที่ยอมรับของสังคม ให้การดูแลบุพการีและทำหน้าที่ของภรรยาที่ดีโดยไม่บกพร่องรวมทั้งทำหน้าที่ของแม่ที่ดี ให้การอบรมเลี้ยงดูลูกให้มีการศึกษา มีความประพฤติดี และมีอาชีพสุจริต
1.4             แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร คัดเลือกจากแม่ที่มีความยากลำบาก
ขยันหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ เป็นผู้มีความประพฤติดี มีคุณธรรมจริยธรรม และบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม อบรมเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเอาใจใส่ เสียสละ และด้วยความมานะอดทน ทำให้ลูกได้รับการศึกษา มีอาชีพสุจริต มีความประพฤติดี เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
1.5             แม่ของผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ คัดเลือกจากแม่ที่มีความประพฤติดี
เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก มีลูกซึ่งอุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ในด้านการศึกษา พัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การสาธารณสุข สังคมสงเคราะห์ ฯลฯ มีความประพฤติดี มีอาชีพสุจริต เป็นที่ยอมรับของสังคม และเป็นผู้ที่นิยมและรักษาเอกลักษณ์ไทย สมควรเป็นแบบอย่างแก่คนทั่วไป
2.             เสนอประวัติส่งไปยังสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ เพื่อรับการพิจารณา
คัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติในส่วนกลาง ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม แม่ผู้มีความมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร และแม่ของผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้อีกทางหนึ่ง โดยเสนอประวัติ จำนวน 15 ชุด ภายในวันที่ 2 มิถุนายน 2558 ส่งไปยัง งานสารบรรณ สำนักบริหารงานกลาง สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ตึกมหิดล ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2354-7533-37 ต่อ 913, 205, 119, 107 โทรศัพท์/โทรสาร 0-2354-7528.
การประกวดดนตรีไทย จังหวัดสมุทรสงคราม
                นายประภัสสร์  มาลากาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม สภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม กำหนดจัดโครงการส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น กิจกรรมลานวัฒนธรรม และประกวดดนตรีไทย ระหว่างวันที่ 8 – 9 สิงหาคม 2558 ณ บ้านดนตรี วัดภุมริทร์กุฎีทอง ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 โดยรับสมัครนักเรียนระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา เข้าประกวดดนตรีไทย โดยขอรับใบสมัครหรือโน๊ตเพลงที่ใช้ประกวดได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม หรือดาวน์โหลดที่ www.m-culture.go.th/samutsongkhram หัวข้อ “ข่าวประชาสัมพันธ์” รับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ในวันเวลาราชการ ส่งใบสมัครโดยตรงที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม หรือทางไปรษณีย์ ที่อยู่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม ชั้น 5 ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 75000 หรือทางอีเมลล์ smk.culture@gmail.com ทั้งนี้ นับวันประทับตราไปรษณีย์วันที่ 30 มิถุนายนเท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวพรทิพย์ ไชยา นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ โทรศัพท์ 0-81-874-5067 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม โทร. 0-3471-8138 โทรสาร 0-3471-8348.
โครงการ 3 ม. มีงาน มีเงิน มีวุฒิหารศึกษาเพิ่ม
                สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม กำหนดจัดประชุม “โครงการ 3 ม.” (มีงาน มีเงิน มีวุฒิหารศึกษาเพิ่ม) ประจำปีงบประมาณ 2558 ในวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ห้องประชุมสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
                นางอัธยา  อ่ำหนองโพ จัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานร่วมมือกับสถานศึกษา หน่วยงานการศึกษาทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานประกอบการ ดำเนินโครงการ 3 ม. (มีงาน มีเงิน มีวุฒิหารศึกษาเพิ่ม)  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานและเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนได้มีงานทำ ในสถานประกอบการควบคู่กันไปกับการศึกษาต่อในสถานศึกษาทำให้มีเงินใช้ในระหว่างการศึกษา และมีวุฒิการศึกษาเพิ่ม ในขณะเดียวกัน สถานประกอบการก็มีแรงงานช่วยปฏิบัติงาน และยังเป็นการผลิตแรงงานใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานอีกด้วย
                จัดหางานจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0-3471-4342-3 ต่อ 106 ในวันเวลาราชการ.
ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จจังหวัดสมุทรสงคราม (One Stop Service) เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2558 ในวันและเวลาราชการ
                นายปัญญา  งานเลิศ  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 มีนาคม 2558 เห็นชอบแนวทางการดำเนินการจัดระบบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา หลังวันที่ 31 มีนาคม 2558 ดังนี้
1.             ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียน ณ ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว
แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ใบอนุญาตทำงานสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 และยังไม่ผ่านการตรวจสัญชาติมารายงานตัวเพื่อขอรับบัตรประจำตัวใหม่ และขอรับใบอนุญาตทำงานจะได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานได้อีก 1 ปี รวมถึงผู้ติดตามที่อายุไม่เกิน 15 ปี ให้มารายงานตัวพร้อมแรงงานต่างด้าว
2.             เปิดจดทะเบียนให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่ยังไม่มี
ใบอนุญาตทำงานเฉพาะกิจการประมงทะเล
                ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสมุทรสงครามได้ตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จจังหวัดสมุทรสงคราม (One Stop Service) ณ อาคารศูนย์สินค้า OTOP เฉลิมพระเกียรติ (ตรงข้ามไปรษณีย์จังหวัดสมุทรสงคราม) โดยเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึง 30 มิถุนายน 2558 ในวันและเวลาราชการ จึงขอให้นายจ้าง/สถานประกอบการพาแรงงานต่างด้าวและผู้ติดตาม ดำเนินการให้ถูกต้อง
หลักฐานเอกสารที่ใช้ 1. แบบคำขออนุญาตทำงาน (ตท.8), 2. หนังสือรับรองการจ้าง, 3. แบบบัญชีรายชื่อเพื่อเข้ารับการตรวจสัญชาติ, 4. บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) พร้อมสำเนา หรือ ทร.38/1, 5. แบบข้อมูลการขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา (กรณีเปลี่ยนนายจ้าง), 6. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน นายจ้างกรณีบุคคลธรรมดา, 7. สำเนาหนังสือรับรองทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
                ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส และเพื่อความสะดวกสามารถติดต่อรับเอกสาร นัดหมายเข้ารับบริการ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม เลขที่ 186 หมู่ที่ 3 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม หรือ โทร. 0-3471-4342-3 ต่อ 103, 105.
โครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2558
                นางศศิฑอณร์  สุวรรณมณี วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม รณรงค์เชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 1 – 30 เมษายน 2558
                โดยจังหวัดสมุทรสงคราม มีวัดที่เข้าร่วมโครงการดังนี้
         

จึงขอเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนที่มีความประสงค์บรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณร และบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อนฯ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่วัดโดยตรง หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0-3471-8138.
การจดทะเบียนรถยนต์ใช้งานส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องแนบหลักฐานเพิ่มเติมตามที่ทางราชการกำหนด มีผลบังคับใช้ 23 มีนาคม นี้ เป็นต้นไป
นายทองคำ  นิสัยสัตย์ ขนส่งจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมนี้เป็นต้นไป รถบรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 1,600 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม ที่เป็นรถที่ใช้ส่วนบุคคลไม่ได้ใช้เพื่อการประกอบการขนส่ง สามารถยื่นขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ จากเดิมที่ต้องยื่นจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และต้องขออนุญาตประกอบการขนส่งด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่มีการพัฒนาจนเป็นเหตุให้รถยนต์ส่วนบุคคลมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยรถยนต์กำหนดไว้เดิมไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มีรถดังกล่าว โดยที่ไม่ได้มีไว้เพื่อการประกอบการขนส่ง
          สำหรับรถยนต์นั่งและรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่และไม่ได้มีไว้เพื่อการประกอบการขนส่ง หากจะจดทะเบียนเป็นรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ต้ออยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่ราชการกำหนด ซึ่งผู้ขอ ต้องสามารถพิสูจน์ให้ได้ว่าจะใช้รถดังกล่าวเพื่อการส่วนตัวโดยแท้จริง โดยให้แนบหลักฐานเพิ่มเติม ได้แก่ หลักฐานการแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง 2 ปี หลักฐานแสดงฐานะการเงินที่มั่นคง และความจำเป็นต้องใช้รถขนาดใหญ่เพื่อการส่วนตัว ภาพถ่ายตัวรถพร้อมรายละเอียด ขนาด สัดส่วน และขนาดของรถจากบริษัทผู้ผลิต หลักฐานแสดงที่จอดรถได้แก่ ภาพถ่ายสถานที่จอดรถที่มีเนื้อที่จอดรถไม่มากกว่า 35 ตารางเมตร แผนที่แสดงที่จอดรถ และหนังสือรับรองการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลตามที่ทางราชการกำหนด โดยเจ้าหน้าที่จะมีการออกตรวจสถานที่จอดรถและหลักฐานต่างๆ ตามที่กำหนด เพื่อป้องกันการนำรถขนาดใหญ่ เช่น รถบัส รถสิบล้อ มาขอจดทะเบียนเป็นรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์แล้วนำไปใช้ประกอบการผิดกฎหมาย
          นายทองคำ  นิสัยสัตย์  ยังกล่าวด้วยว่า การแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ กับการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) หรือรถบรรทุกส่วนบุคคล (รถปิคอัพ) แต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยดำเนินการเช่นเดิมตามที่เคยปฏิบัติมา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรสงคราม สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.
สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงครามประกาศเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือและใช้เรือ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2558
          นายอภิชัย  คล้ายแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 9 – 19 เมษายน 2558 เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2558 ซึ่งในเทศกาลดังกล่าว จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว นิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือทำบุญตามวัดต่างๆ  พร้อมทั้งเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นจำนวนมาก ทำให้การเดินเรือมีความคับคั่งและสับสน อาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม จึงประกาศเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือและใช้เรือ ในช่วงเทศกาลดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ควบคุมเรือ นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปได้ทราบและให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และใช้เรือ ดังนี้
1.       ผู้ควบคุมเรือ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังไม่ประมาท ไม่ดื่มสุราหรือยาเสพ
ติดให้โทษหรือของมึนเมาขณะปฏิบัติหน้าที่ การรับ – ส่งผู้โดยสาร ให้จอดเรือให้เสร็จเรียบร้อยและให้ผู้โดยสาร ขึ้น – ลง เรือให้เรียบร้อยก่อนออกจากท่าเทียบเรือ ห้ามบรรทุก รับ- ส่ง ผู้โดยสารเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งจัดเตรียมและตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครื่องมือ เครื่องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิต ให้พร้อมและเพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร และจัดเก็บไว้ในที่ที่สามารถนำมาใช้ได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุอันตราย และควรรับฟังคำพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีคำเตือนเรื่องพายุและคลื่นลมแรง ควรงดออกจากฝั่งและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2.       เจ้าของเรือหรือผู้ประกอบการเดินเรือ ต้องดำเนินการตรวจสอบ ควบคุม ดูแลตัวเรือ
เครื่องจักรและท่าเทียบเรือ ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงเหมาะสมแก่การใช้บริการของผู้โดยสาร สำหรับโป๊ะเทียบเรือ ต้องมีป้ายแสดงจำนวนคนที่โป๊ะสามารถรับน้ำหนักได้ มีพวงชูชีพ เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการช่วยชีวิตให้เพียงพอ และพร้อมที่จะสามารถใช้การได้ ต้องจัดให้มีป้ายระบุจำนวนผู้โดยสารบนหลังคาเรือหรือที่ตัวเรือ หรือที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจ ควบคุม ดูแลมิให้ประชาชนลงไปอยู่ที่โป๊ะเกินกว่าจำนวนที่ระบุไว้
3.       ประชาชนผู้ใช้บริการเรือโดยสาร การขึ้น – ลงเรือควรให้เรือจอดเทียบเรือจอดเทียบ
ท่าเรียบร้อยก่อน ไม่ควรยืนคอยบนโป๊ะเทียบเรือ อย่าแย่งกันขึ้น – ลง ห้ามนั่งหรือยืนบริเวณท้ายเรือ หัวเรือ กราบเรือหรือหลังคาเรือ และไม่ควรดื่มสุรา หรือของมึนเมาจนไม่สามารถครองสติได้ เครื่องแต่กายควรสามารถถอดออกได้ง่ายและสะดวก เมื่อเกิดอุบัติภัยสำหรับผู้โดยสารที่ว่ายน้ำไม่เป็น ควรสวมเสื้อชูชีพหรือนั่งใกล้อุปกรณ์ช่วยชีวิตภายในเรือ และหากพบเห็นว่าลำเรือใดบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายควรรอเรือลำถัดไป และแจ้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม ที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณท่าเทียบเรือ
          คำเตือน  ผู้ควบคุมเรือหรือเจ้าของเรือหรือผู้ประกอบกิจการเดินเรือ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามที่ได้แจ้งเตือนไว้ในประกาศนี้ อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ในมาตรา 155, 176, 170, 139, 101, 291 และ 297 ต้องระวางโทษซึ่งมีทั้งจำคุกและปรับตามฐานความผิด


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น