วันที่
5 พฤษภาคม 2560 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์”
ในปี 2568กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จึงเห็นถึงความสำคัญและได้ให้ความใส่ใจในเรื่องของการดูแลผู้สูงอายุ
โดยจัดทำโครงการและแนวทางในการดูแลและสนับสนุนคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นองค์กรที่มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน มีอำนาจหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะ
โดยเฉพาะด้านสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา
และผู้ด้อยโอกาส ทั้งการสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
รวมถึงการพัฒนาสังคมด้านต่างๆ จึงสามารถทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการในทุกๆด้านให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง
นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมุ่งผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ดำเนินงานตามแผนผู้สูงอายุในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
นั่นคือ การจัดตั้ง “โรงเรียนผู้สูงอายุ”ให้เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ
ความสามารถในด้านต่างๆ และสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์แก่ตนเองและสังคมสามารถส่งเสริมอาชีพ
หารายได้ และมีความรู้ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุอย่างมีศักยภาพได้ครบทุกด้านและยังให้การสนับสนุนงานด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ
เช่น งานด้านสุขภาพการจัดตั้งและพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุ
คลินิกผู้สูงอายุและบริการแพทย์ทางเลือก การสร้างความเข้มแข็งขององค์กรผู้สูงอายุ การส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มและการสร้างความเข้มแข็งขององค์กรผู้สูงอายุ
ส่งเสริมด้านการทำงาน การสร้างรายได้ และการฝึกอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุ
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้แจ้งหลักเกณฑ์แนวทาง
“การจัดสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้สูงอายุและคนพิการ” ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งประกอบไปด้วย 4 แผนงานหลัก คือ 1. แผนงานให้บริการด้านสุขภาพอนามัย ที่ให้มีการจัดสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุและคนพิการ
เช่น การจัดฝึกอบรมให้ความรู้ด้านต่างๆ โครงการออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นแก่ผู้สูงอายุ๒.
แผนงานส่งเสริมการอยู่ร่วมกัน และสร้างความเข้มแข็งด้านองค์กรผู้สูงอายุ โดยการส่งเสริม
สนับสนุนให้มีการรวมตัวกันจัดกิจกรรมด้านสวัสดิการสังคม การนันทนาการ๓.
แผนงานส่งเสริมอาชีพหรือรายได้ของผู้สูงอายุและคนพิการ โดยฝึกอาชีพและอบรมให้ความรู้ด้านอาชีพต่างๆ
และประสานกับสถานประกอบการเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุและคนพิการที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสามารถเข้าทำงานได้4czo’l;l[[๔. แผนงานด้านการบริหารจัดการระบบพัฒนาคุณภาพชีวิต
โดยการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุและคนพิการ และประชาสัมพันธ์
สื่อสารให้ผู้สูงอายุและคนพิการได้รับทราบถึงสิทธิของตนเองในการเข้าถึงบริการของรัฐ
รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุและคนพิการมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นและพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
นอกจากนี้ ยังให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดอุปกรณ์ช่วยเหลือในการดำรงชีวิต
และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น ทางลาด ห้องน้ำ และที่จอดรถสำหรับผู้สูงอายุด้วย
อีกหนึ่งโครงการที่สำคัญ
นั่นคือ โครงการ “มหาดไทยห่วงใย ใส่ใจผู้สูงอายุ”
ที่มุ่งหวังให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้พัฒนาระบบบริการ
และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ให้มีสุขภาพอนามัย
และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้แก่ ระบบการเฝ้าระวังสุขภาพ /
สุขภาวะด้วยตนเองและครอบครัว การสร้างเครือข่าย การจัดบริการผู้สูงอายุ
เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ ด้านสังคม
และด้านการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีตลอดทั้งปี
และเพื่อให้เกิดเครือข่ายการจัดบริการผู้สูงอายุในท้องถิ่น ตลอดจนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรม 4 ด้าน คือ1.
ด้านการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพ 2. ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต การอยู่ร่วมกันในครอบครัวของผู้สูงอายุและบุคคลอื่นในสังคม
3. ด้านการบริการทางสังคม 4. ด้านการปรับสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เห็นว่า ผู้สูงอายุหลายท่าน
เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมากด้วยประสบการณ์ จึงถือได้ว่าเป็นคลังสมองที่สำคัญที่จะถ่ายทอดภูมิปัญญา
วิถีชีวิต วัฒนธรรมท้องถิ่นให้แก่คนรุ่นหลังได้ ซึ่งทางกรมฯ ได้จัดตั้งศูนย์บริการผู้สูงอายุแล้ว
จำนวน 912 แห่ง และโรงเรียนผู้สูงอายุอีกจำนวน
518 แห่ง เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มารวมตัวกัน แบ่งปันความรู้ความสามารถ และทำกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์
สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ทั้งในแง่ของการมีส่วนร่วมด้านหลักสูตรวิชาที่มาจากความสนใจของผู้สูงอายุ
รวมทั้งการมีส่วนร่วมด้านการทำประโยชน์แก่ตนเองและสังคม เช่น
การช่วยกันจัดการขยะในชุมชน การสร้างความสามัคคีในชุมชน
และรวมถึงการเยี่ยมผู้สูงอายุติดเตียงในพื้นที่ชุมชนตนเอง
และในขณะนี้
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีแนวคิดที่จะทำ โครงการ “ท้องถิ่นสร้างสุขสูงวัย” ซึ่งอยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาหลักสูตรเนื้อหาและกิจกรรมในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
โดยมีมาตรการในการสร้างสุขทั้งสิ้น 5 ส ได้แก่ 1. ส.ศาสนา สร้างสุข 2.
ส.สิ่งแวดล้อม สร้างสุข 3. ส.สัมพันธภาพ สร้างสุข 4. ส.สุขภาพ สร้างสุข 5.
ส.สัมมาอาชีพ/เศรษฐกิจ สร้างสุขซึ่งการขับเคลื่อนดังกล่าว จะต้องอยู่บนพื้นฐาน 4
ประการ นั่นคือ “การสื่อสาร – ฐานข้อมูล
– ศูนย์บริการ – ทีมงานคุณภาพ”
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพอนามัยและด้านสังคมที่ดีขึ้นมีระบบเฝ้าระวังสุขภาพสุขภาวะด้วยตนเองและครอบครัว
รวมทั้งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในฐานะพลเมืองผู้สูงอายุ โดยการประสานความร่วมมือกันแบบประชารัฐ ระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ
ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี
และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น