เมื่อ 15 พ.ค. 60 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 5 อาคารสถาบันดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดการศึ กษาอบรมหลักสูตร “นักปกครองระดับสูง” (นปส.) รุ่นที่ 69 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 จำนวน 102 คน ซึ่งจัดโดย สถาบันดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย เพื่อพัฒนาสมรรถนะการบริ หารงานของผู้บริหารให้เป็นผู้ นำที่มีวิสัยทัศน์ มีสมรรถนะด้านการบริหารจัดการที่ ดี มีคุณธรรมและจริยธรรม รวมทั้งเป็นผู้นำการเปลี่ ยนแปลงและเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิ ทธิภาพ เกิดประโยชน์สุขแก่พี่น้ องประชาชนและประเทศชาติ โดยผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย ข้าราชการหน่วยงานในสังกั ดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 86 คน และข้าราชการหน่วยงานอื่นๆ จำนวน 16 คน อาทิ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี DSI กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน สำนักงาน ป.ป.ง. เป็นต้น โดยใช้ระยะเวลาการอบรม ประมาณ 3 เดือน ในระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 25 สิงหาคม 2560 ณ วิทยาลัยมหาดไทย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
โอกาสนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีกับข้ าราชการที่ได้เข้ารับการศึ กษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดั บสูง รุ่นที่ 69 พร้อมได้มอบโอวาทให้แก่ผู้เข้ ารับการอบรม โดยกล่าวว่า การศึกษาอบรมหลักสูตรนี้ สำนักงาน ก.พ.ได้รับรองผู้ผ่านการศึ กษาอบรมจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ สำหรับการแต่งตั้งเป็นผู้บริ หารระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถในอนาคต และมีทักษะในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารงานสมัยใหม่ ก้าวทันต่อการเปลี่ ยนแปลงของโลก
หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่เข้ มข้น มีการทดสอบทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมศึ กษาหาความรู้จากคณาจารย์ในแต่ ละหมวดวิชาอย่างเต็มที่ รวมทั้งขอให้ตระหนักและประพฤติ ปฏิบัติตนให้เหมาะสมเป็นข้ าราชการที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรม สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้พั ฒนางาน เพื่อสร้างประโยชน์สุขให้แก่พี่ น้องประชาชนและประเทศชาติ
จากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “ประสบการณ์นักบริหาร” พร้อมทั้งได้มอบแนวทางการทำงาน โดยขอให้น้อมนำพระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2525 เกี่ยวกับคุณธรรม 4 ประการ มาเป็นหลักในการคิดและปฏิบัติ เพื่อให้การทำงานบรรลุตามเป้ าหมาย ได้แก่ ประการแรก คือ การรักษาความสัจ ความจริงใจ ต่อตัวเองที่จะประพฤติแต่สิ่งที่ เป็นประโยชน์และเป็นธรรม ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสั จความดี ประการที่สาม คือ การอดทน อดกลั้น และอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัตย์สุ จริตไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใด และประการที่สี่ คือการรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนน้ อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้ านเมือง นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการทุกคนยึ ดมั่นอุดมการณ์ในการทำงาน และครองตนเป็นข้าราชการที่ดีมี คุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติงานโดยยึดหลักกฎหมาย กฎ ระเบียบ และยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็ นสำคัญ ตลอดจนการปรับตัวให้เข้ากั บสภาวะสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการดู เรียนรู้ และการฟัง พร้อมทั้งรู้จักนำเทคโนโลยีสมั ยใหม่มาปรับใช้ให้เท่าทันยุคปั จจุบัน และต้องมีการพัฒนาตนอย่างต่อเนื่ อง เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์ของงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น