pearleus

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

มหาดไทยตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย

                                    
นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

31 ต.ค.60  เวลา 15:30 น. ณ ห้องหงส์ยนต์ ท่าอากาศยานขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพบปะ เยี่ยมเยียนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย โดยมี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมต้อนรับเป็นจำนวนมาก

สำหรับสรุปสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 14 อำเภอ 85 ตำบล 782 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 18,689 ครัวเรือน 38,842 คน โดยมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมขัง จำนวน 11 ตำบล 33 หมู่บ้าน 3,266 ครัวเรือน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานปิดพนังคันดินคลองส่งน้ำชลประทานบ้านคุยโพธิ์ หมู่ 6 ตำบลบึงเนียม และเดินทางต่อไปยังบ้านบึงสวาง หมู่ 5 ตำบลบึงเนียม อำเภอเมืองฯ จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและชุดเวชภัณฑ์ ให้แก่ประชาชนใน 10 หมู่บ้าน คือ บ้านบึงเนียม บ้านดอนดู่ บ้านบึงใครนุ่น บ้านบึงฉิม บ้านบึงสวาง บ้านคุยโพธิ์ บ้านปากเปือย บ้านสงเปือย บ้านฮ่องเดื่อ และบ้านท่าหิน รวม 1,000 คน
     พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาจะต้องดำเนินการในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งทรัพยากรน้ำเพื่อการอุปโภค การบริโภค และระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ จากสถานการณ์อุทกภัยในปีนี้ ส่งผลให้เกิดผลกระทบในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจและเร่งบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ เอกชน เครือข่ายประชารัฐ ร่วมกันดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งจะได้ดำเนินการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามระเบียบของทางราชการต่อไป และขอให้พี่น้องประชาชนปรับแนวคิดการเพาะปลูกพืชด้วยการเตรียมอาชีพสำรองเพื่อรับมือกับน้ำท่วมซึ่งจะเกิดขึ้นทุกปี รวมทั้งติดตามข่าวสารจากทางราชการอยู่เสมอ
    







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น