pearleus

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จนมุม! แก๊งตุ๋น หลอกขายที่ดิน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

                                   
                                                                         
 29 พ.ย.60 เวลา 11.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก1 บก.ป. จับกุมตัว นายนบดี รักช่วย อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมและ นายวิวัฒ ทักขพาณิชย์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ถ.ขุนราม ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1910/2560 ลงวันที่ 22 ส.ค. 2560 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมพร้อมของกลาง หลักฐานการเปิดบัญชีธนาคารของนายวิวัฒ ใบนำฝากเงินธนาคาร เอกสารในการซื้อขายที่ดิน จับกุมผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนหมายเลข 347 ม.8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. หลังถูกกลุ่มคนร้ายหลอกขายที่ดินย่านบางกะปิ ในราคาเกือบ 100 ล้านบาท ตกลงจ่ายค่ามัดจำเป็นเงิน 19 ล้านบาท ต่อมาพบว่ากลุ่มคนร้ายไม่ใช่เจ้าของที่ดินตัวจริง จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยติดตามคดี จากการสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่าพฤติกรรมคนร้ายกลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 คน ทำทีเข้ามาเสนอขายที่ดินพร้อมนำสำเนาโฉนดที่ดินมาให้ผู้เสียหายดูเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เมื่อตกลงซื้อขายเรียบร้อยจ่ายเงินมัดจำกลุ่มคนร้ายเงียบหายไป

พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายที่จ่ายค่ามัดจำเป็นเช็คเงินสด 19 ล้านบาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ด้วยการโอนไปเข้าบัญชีนาย นายวิวัฒ ส่วนสำเนาโฉนดที่ดินที่กลุ่มคนร้ายนำมาแอบอ้างตรวจสอบแล้วพบว่า มีที่ดินอยู่จริง แต่เจ้าของตัวจริงได้ขายไปแล้วอีกทั้งไม่ทราบว่าสำเนาโฉนดที่ดินไปอยู่กับคนร้ายได้อย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่าหนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ปลอมบัตรประชาชนขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เป็นชื่อตรงกับเจ้าของโฉนดที่ดินจนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลเพื่อติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีอยู่

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การภาคเสธ โดยนายวิวัฒอ้างว่านายนบดีเป็นคนชักชวนให้เปิดบัญชีเพื่อโอนเงินในการซื้อขายที่ดิน จะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงิน 3 แสนบาท ส่วนในเรื่องการหลอกซื้อขายที่ดินไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งหาตามหมายจับ ก่อนจะควบคุมตัวส่งศาลอาญาเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะจับกุมผู้ต้องหาสองรายนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุบนายเชวงศักดิ์ จรเสมอ อายุ 52 ปี หนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้ยังเหลือผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย เป็นผู้หญิงทั้งคู่ ทำหน้าที่เป็นผู้ปลอมบัตรประชาชนให้ชื่อตรงกับชื่อในโฉนดที่ดินที่ยังหลบหนี โดยขออนุมัติศาลออกหมายจับไว้แล้ว



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น