pearleus

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ศิริราชจับมือ บ. เมดโทรนิค พัฒนาการบริการ วิจัยโดยใช้เทคโนโลยีด้านเบาหวาน-ช่วยคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคนี้


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 60 ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลร่วมกับคุณรานีวรรณ รามศิริ Country Director, บริษัท เมดโทรนิค (ประเทศไทย) จำกัดลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาการบริการและการวิจัยโดยใช้เทคโนโลยีด้านเบาหวาน โดยมีศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลMr. Sandeep Chalke, Vice President, Diabetes Group, Medtronic Asia Pacificและทีมผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมด้วยณ ห้องประชุมคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตึกอำนวยการชั้น 2 รพ.ศิริราช
ทั้งนี้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาการบริการและการวิจัยโดยใช้เทคโนโลยีด้านเบาหวานของทั้ง 2 องค์กรจะเป็นการประสานความร่วมมือในการพัฒนาการดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวานและการวิจัยโดยนำเทคโนโลยีด้านเบาหวานมาใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ตามเป้าหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมุ่งเน้นเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เป็นเบาหวาน และบุคลากรทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ รวมทั้งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย เพื่อให้เกิดคุณค่าสูงสุด
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ รายงานว่าในปี พ.ศ. 2558 ผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกมีจำนวน 415 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 642 ล้านคนในปี พ.ศ. 2583ในปัจจุบันประชากรวัยผู้ใหญ่ 1 ใน 11 คน ป่วยเป็นโรคเบาหวาน สำหรับในประเทศไทยรายงานจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 เมื่อปี 2557 พบว่าความชุกของโรคเบาหวานเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 8.9 คิดเป็นผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมากถึง 4.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ซึ่งพบเพียงร้อยละ 6.9หรือประมาณ3.2 ล้านคน

โดยโรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของพันธุกรรม พฤติกรรมการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อม การดูแลรักษาโรคเบาหวานจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์และผู้ป่วย โดยผู้เป็นเบาหวานจำเป็นต้องเรียนรู้การจัดการตนเอง (diabetes self-management) เพื่อส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม หากผู้เป็นเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีและเรียนรู้การจัดการตนเอง จะสามารถป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งของผู้ป่วยเองและในภาพรวมระดับประเทศได้โรงพยาบาลศิริราชให้การดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวานหลายหมื่นรายต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

ทั้งนี้ โรงพยาบาลตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวานอย่างเป็นองค์รวมและมุ่งเน้นให้ผู้เป็นเบาหวานมีสุขภาวะที่ดี โดยมีการพัฒนางานเบาหวานทั้งด้านการดูแลรักษา การศึกษาและการวิจัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับด้านการรักษาผู้เป็นเบาหวานโรงพยาบาลศิริราชให้ความสำคัญกับการสอนให้ผู้ป่วยมีความรู้ในการจัดการตนเองอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมในการดูแลผู้เป็นเบาหวานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น 1) การใช้ Continuous Subcutaneous Insulin Infusion – CSII หรือ Insulin Pump ในผู้ป่วยบางกลุ่มที่มีข้อบ่งชี้ เช่น ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1ที่ต้องฉีดยาอินซูลินวันละ 3-4 ครั้งแล้วยังมีปัญหาน้ำตาลสูงหรือต่ำที่ควบคุมได้ยาก 2) การใช้เครื่องติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitoring System -CGMS) ในผู้เป็นเบาหวานที่มีปัญหาน้ำตาลต่ำบ่อยหรือมีปัญหาในการปรับยารักษาเบา
หวาน เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการรักษาหรือปรับขนาดยา จึงเป็นที่มาของการประสานความร่วมมือกันในครั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อวงการแพทย์ไทยในอนาคต

ศ.ดร.นพ. ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโรงพยาบาลศิริราช ในฐานะของโรงเรียนแพทย์ขนาดใหญ่นอกจากจะทำหน้าที่ให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชนแล้ว ยังมีพันธกิจที่สำคัญในการเป็นศูนย์ฝึกอบรมวิทยาการและความรู้ใหม่ๆสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งมีพันธกิจในด้านการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการดูแลประชากรไทย โดยในโรงพยาบาลศิริราชมีการวิจัยทางด้านเบาหวานทั้งในด้าน basic molecular ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยเพื่อค้นหากลไกการเกิดโรคเบาหวานในระดับยีนส์และชีววิทยาของเซลล์ เพื่อพัฒนาการ
รักษาแบบ personalized medicine และยังมีกลุ่มงานวิจัยด้านคลินิก เช่น กลุ่มวิจัยโรคเบาหวานผู้ใหญ่ กลุ่มวิจัย โรคเบาหวานเด็ก กลุ่มวิจัยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลุ่มวิจัยสหสาขาเท้าเบาหวานเป็นต้น
ดังนั้น การประสานความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดี ที่ทีมแพทย์และนักวิจัยศิริราชจะสามารถนำเทคโนโลยีด้านเบาหวานมาใช้ในการทำวิจัย เพื่อก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่สามารถนำไปปรับใช้กับบริบทของประเทศไทย และส่งเสริมให้เกิด value-based medicine ต่อไปMr.Sandeep Chalke, Vice President, Diabetes Group, Medtronic Asia Pacificกล่าวว่า บริษัทเมดโทรนิค เป็นบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับโลกที่มอบโซลูชั่นเพื่อบรรเทารักษาอาการของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง บริษัทฯได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ วิธีการรักษา และบริการต่างๆ เพื่อยืดอายุของผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก โดยมีพันธกิจที่ต้องการมีส่วนร่วมในการนำวิศวกรรมชีวทางการ
แพทย์เพื่อวิจัย ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ฟื้นฟูสุขภาพ และทำให้มนุษย์มีอายุที่ยืนยาวขึ้น บริษัทฯมีการประสานความร่วมมือกับภาครัฐ และเอกชนเพื่อพัฒนาการให้บริการการดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังมีความร่วมมือในลักษณะเดียวกันนี้อีกกับประเทศอื่นๆทั้งในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก เพื่อทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

โดยตลอดเวลาบริษัทฯมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานให้ดียิ่งขึ้น โดยมีการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมในการบริหารยา และเครื่องติดตามผลระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องที่ใช้ง่ายขึ้น มีความแม่นยำมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก ให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ตามเป้าหมาย มีความสะดวกสบายในการบริหารยา และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการข้างเคียง และชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อนในอนาคตด้วยโดยในปัจจุบันมี insulin pump แบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปล่อยอินซูลินเข้าสู่ร่างกาย เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมาย มีการพัฒนาระบบที่เพิ่มความปลอดภัยในการบริหารยามากขึ้น มีระบบช่วยเตือนและหยุดการปล่อยอินซูลินเข้าสู่ร่างกายหากพบว่าผู้ป่วยเบาหวานกำลังจะมีระดับน้ำตาลต่ำในเลือด เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถหาทางป้องกันและแก้ไขอาการไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

คุณรานีวรรณ รามศิริ Country Director, บริษัท เมดโทรนิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่าบริษัทเมดโทรนิค (ประเทศไทย) จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือและเป็นพันธมิตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ เพื่อการเปลี่ยนแปลงการรักษาโรคเรื้อรัง โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ร่วมในการรักษาผู้ป่วย ไม่เพียงแต่โรคเบาหวานเท่านั้นก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราชมาแล้ว 2 ครั้ง คือแผนกอุปกรณ์ห้องผ่าตัดและแผนกอุปกรณ์ผ่าตัดศัลยกรรมฟื้นฟูซึ่งผลจากความร่วมมือที่ผ่านมาเป็นประโยชน์ในการนำเอาความรู้ความชำนาญที่ได้จากความร่วมมือดังกล่าวมาใช้เพื่อพัฒนาการดูแลรักษาโรคเรื้อรัง ช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยที่ทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยได้ บริษัทฯจึงมีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อพัฒนาการให้ความรู้ และดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นดังที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นมาก่อนหน้านี้เช่นกัน

รศ.พญ.อภิรดี ศรีวิจิตรกมล รองประธานศูนย์เบาหวาน อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลศิริราชกล่าวโดยสรุปว่าการดูแลผู้ป่วยเบาหวานในปัจจุบัน นอกเหนือจากการควบคุมระดับน้ำตาลให้ถึงเป้าหมายแล้วยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำตาลต่ำหรือน้ำตาลสูงเกินไปในเลือดและความปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆของผู้ป่วยด้วย ปัจจัยสำคัญที่จะสามารถป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและโรคแทรกซ้อนได้คือ การเพิ่มทักษะการจัดการตนเองของผู้เป็นเบาหวานและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเบาหวานอย่างชาญฉลาด ความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาการให้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีด้านเบาหวานและการนำผลจากการศึกษาวิจัยมาใช้อย่างเป็นระบบจะทำให้ผู้เป็นเบาหวาน ผู้ดูแล และบุคลากรทางการแพทย์มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลรักษา และอยู่
กับโรคเบาหวานได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย




*************************

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น