pearleus

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อธิบดีส.ค.เผยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุม ความเสมอภาคทางเพศ-ครอบครัว ระดับรมต.เอเชียตะวันออก17ปท. แลกเปลี่ยนแนวทางพัฒนาร่วมกัน

นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)เปิดเผย  ถึงความพร้อมในการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านครอบครัวและด้านความเสมอภาคระหว่างเพศ (The East Asia Ministerial Forum and Gender Equality)โดย กระทรวงฯเป็นเจ้าภาพซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย  โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 ธ.ค.59 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นความเห็นชอบของการประชุมครั้งที่ 5 พ.ศ.2556  ณ ประเทศจีน และครั้งที่ 6 ปี 2557 ณ กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้แยกเป็นการประชุมด้านการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชายและด้านครอบครัวออกจากกัน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ให้มีการรวมการประชุมทั้งสองอย่างไว้ด้วยกัน เนื่องจากหลายประเทศรับผิดชอบงานด้านความเสมอภาพและครอบครัวกระทรวงเดียวกันและเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณด้วย
                อธิบดีกรมสตรีฯกล่าวต่อว่า สำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูลนโยบาย การสร้างกรอบดำเนินงาน รวมถึงการพัฒนาและการประยุกต์การทำงานแห่งสตรีและสถาบันครอบครัวเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในระดับที่ดีขึ้น
                โดยเบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 50 ท่าน แยกเป็น เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส 25 ท่าน ระดับรัฐมนตรี 25 ท่าน จาก 17 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศที่ดูแลด้านครอบครัวและสตรี อยู่ในกระทรวงเดียวกัน มี  9 ประเทศ ได้แก่ ไทย บรูไนดารุสซาลาม  ราชอาณาจักรกัมพูชา ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี ไทย และประเทศที่มีกระทรวงด้านครอบครัวและสตรีแยกจากกันอีกจำนวน 8 ประเทศ ได้แก่  เครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินเดีย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
สาธารณรัฐติมอร์-เลสเต และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
สำหรับหัวข้อหลักของการประชุม คือ สังคมที่เป็นมิตรกับครอบครัว : การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่าน
สถาบันครอบครัวและส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ” “A Family - Friendly Society : A contribution to the Achievement of SDGs through Families and Gender Equality”
                อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ ไทยจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติหรือแบบอย่างที่ดีในการดำเนินงานด้านครอบครัวและด้านความเสมอภาคระหว่างเพศของประเทศในแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งอาจนำมาปรับใช้กับการทำงานของประเทศไทย อันจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยต่อไป อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศที่จะได้ทำงานด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศร่วมกัน              
                โดยรูปแบบการประชุมประกอบด้วย : การประชุมระดับรัฐมนตรี การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลรายประเทศ (Country Presentation) การพิจารณาและรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) การศึกษาดูงานในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา รัฐมนตรีหรือหัวหน้าคณะผู้แทน 16 ประเทศเข้าพบเพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรี
                พร้อมกันนี้ได้จัดบรรยายพิเศษเรื่อง “สถาบันครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”  “Challenges to Reaching A Family-Friendly Society and Gender Equality”โดย อจ.นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ 
                นายเลิศปัญญา กล่าวด้วยว่า  เนื่องจากช่วงนี้ ประเทศไทยของเราอยู่ในช่วงของความเศร้าโศกจากการเตรียมความพร้อมในการจัดการประชุมมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก ขอให้สื่อมวลชนประชาสัมพันธ์การจัดประชุมนี้ รวมถึงเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันเป็นเจ้าภาพ 
                "ก่อนเริ่มการประชุม ได้กำหนดให้มีการยืนถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  นอกจากจะเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านแล้ว ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าพระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนามนุษย์" นายเลิศปัญญา ระบุและว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 หรือเมื่อ 10 ปีผ่านมา นายโค ฟีอันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ในขณะนั้น ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล "ความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์ (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award)ซึ่งเป็นรางวัลชิ้นแรกของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

                นอกจากนี้สัญลักษณ์การจัดการประชุมครั้งนี้ ยังมีการนำเครื่องทองน้อยมาประดับไว้บน โลโก้การจัดประชุม เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน  ในส่วนของกรมฯซึ่งเป็นเจ้าภาพ ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านและติดตามความคืบหน้าเป็นระยะ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้ย้ำและเน้นด้านการต้อนรับและการดูแลด้านความปลอดภัย ซึ่งได้รับการตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น