แหล่งข่าวระดับสูงในแวดวงยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความไม่ชอบมาพากลนี้ว่า คดีนี้เป็นความมากว่า 5 ปี โดยตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ ใช้เวลารวบรวมหลักฐานนานร่วม 3 เดือน เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทฯ ที่โดนทำร้ายจนพิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ส่งหลักฐานกว่า 507 หน้า แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องแค่ข้ามคืน ยืนยันมีความผิดปกติแน่นอน หลังพบเงินสะพัดเพื่อล้มคดีนี้กว่า 30 ล้านบาท ซึ่งตำรวจแสดงความเชื่อมั่นว่าหากมีการพิจารณาสั่งฟ้อง 2 สามีภรรยาดังกล่าว หลักฐานที่มีชี้ชัดดิ้นไม่หลุดแน่นอนว่าเป้นผู้จ้างวาน
นายตำรวจระดับสูง ของสถานีตำรวจภูธรฉลอง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า “เราจะถามหาความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายได้ที่ไหน หากอัยการที่ทำหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์และดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม คดีนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ตอนนี้พิการตลอดตลอดชีวิต ไม่สามารถทำงานเลี้ยงครอบครัวได้ และบริษัทที่ถูกลอบวางเพลิงเนื่องจากเป็นคู่แข่งธุรกิจของ 2 สามี-ภรรยาดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่มีการรวบรวมหลักฐานและเอกสารกว่า 500 หน้า ทำงานกันกว่า 3 เดือน แต่อัยการสามารถใช้เวลาเพียงข้ามคืนในการสั่งไม่ฟ้องได้"นายตำรวจท่านนี้กล่าว และว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นคดีใหม่เข้าไปในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.60 อัยการสั่งไม่ฟ้องในวันจันทร์ที่ 27 พ.ย.60 เรียกได้ว่าเป็นการช๊อควงการจริงๆ ข่าวช๊อคนี้มาพร้อมกับข่าววงในว่ามีเงินกว่า 30 ล้านบาทเพื่อล้มคดีนี้ ก็เป็นที่น่าตกใจมาก ซึ่งทั้งคนทำผิดที่เป็นผู้ต้องหา ผู้จ้างวาน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำให้คดีนี้บิดเบือนคงจะคิดว่าไม่มีใครจะงัดข้อพวกเขาได้ ดังนั้นอยากให้สื่อมวลชนทุกแขนงช่วยกันขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลของคดีนี้ด้วย”
*************************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น