ดร.สุบรรณ
มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด
ครบสูตรทั้ง
‘ศาสตร์’ และ ‘ศิลป์’
คนจริงแห่ง
ต.บางน้ำจืด
คนกล้าคนเก่งฉบับนี้
ภูมิใจนำเสนอคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เก่งทั้งงานธุรกิจและงานบริหารบ้านเมือง
อีกทั้งยังมีไลฟ์สไตล์ของชีวิตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในแวดวงศิลปะปฎิมากรรม
ทั้งในฐานะคนเสพและผู้อุปถัมภ์ศิลปิน
ที่นับว่าหาได้ยากยิ่งนักสำหรับคนที่มีความหลากหลายในสิ่งที่ทำจะมาอยู่ในคน
ๆ เดียว เรียกได้ว่า ครบสูตรทั้ง ‘ศาสตร์’ และ ‘ศิลป์’ ครบรสทั้งลูกบู้และบุ๋น ซึ่งก็คงเป็นใครไม่ได้ในชั่วโมงนี้ที่หลายคนน่าจะทำความรู้จักเขาคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น กับคนจริงแห่ง ต.บางน้ำจืด
……………..ดร.สุบรรณ มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด………………
ล้อมกรอบ
1
ประวัติชีวิต
ช่วยเล่าประวัติชีวิตพอสังเขปด้วยครับ
?
ผมเกิดกรุงเทพ ฯ ที่ห้วยขวาง
เรียนระดับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ปริญญาโท ด้าน ประศาสนศาสตร์
และปริญญาเอกด้านบริหารการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยสยาม ทั้ง 3 ใบเลยครับ
หลังเรียนจบผมก็มาทำการค้า
ชีวิตผมทำการค้ามาตั้งแต่เด็ก งานแรกคือเป็นพนักงานขายถั่วอบกะทิ ทำอยู่ประมาณ 2
ปี ก็ออกมาช่วยพี่ชายที่ประกอบอาชีพเป็นเอเจนซี่ขายโฆษณา
แล้วก็ทำธุรกิจอีกหลายอย่าง ล้มลุกคลุกคลานมาเรื่อย โดยเฉพาะปี 2540 ที่หลายธุรกิจไม่ดีเลย
หลายธุรกิจต้องปิดไป ก็มีเป็นหนี้เป็นสินบ้าง แต่ตอนนี้ก็เคลียร์หมดจบไปแล้ว
ต้องบอกก่อนว่า ก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายก
ฯ บางน้ำจืดนั้น ผมทำธุรกิจปั้นขี้ผึ้งด้วย ธุรกิจตรงนี้เริ่มมาจาก
สมัยก่อนได้ไปทำองค์พระจตุคามรามเทพอยู่ช่วงหนึ่ง ก็ได้ไปรู้จักน้องกลุ่มหนึ่งที่วิทยาลัยเพาะช่าง
มีฝีมือดี แต่โดยศิลปินบ้านเรามักจะถูกทอดทิ้ง เพราะไม่รู้จักการตลาด
ผมก็เลยเอาน้อง ๆ เหล่านี้มาอยู่ด้วย ก็จ้างทำกันมาตลอด ก่อนที่ผันตัวเข้ามาสู่การเมือง
ทำไมถึงสนใจงานด้านศิลปะ
?
ทีแรก ผมไม่ได้สนใจทำหุ่นขี้ผึ้งหรอก
แต่ว่าสมัยนั้นหุ่นขี้ผึ้งราคาค่อนข้างสูง จะไปซื้อก็แพงอยู่ ก็เลยให้น้อง ๆ
กลุ่มนี้เขาทำดู พอทำก็ออกมาสวย ด้วยความเราเป็นนักการตลาด
เราก็รู้สึกว่าตัวนี้น่าจะขายได้ นั้นแหละจึงเป็นที่มา ซึ่งหุ่นที่ปั้นจะเป็นพระเกจิอาจารย์เป็นส่วนใหญ่
ปั้นบุคคลก็มี ล่าสุดก็มีปั้นผู้นำโฮจิมินท์
ส่งไปเวียดนาม
แล้วเป็นมาอย่างไร
จึงมาสนใจการเมืองท้องถิ่น ?
สนใจก็คือ
ผมย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ต.บางน้ำจืด เมื่อประมาณปี 49 – 50 ก็เริ่มมีบ้านอยู่
มีที่พัก เริ่มความรู้สึกผูกพันกับพื้นที่ และเชื่อมั่นว่าเรามีความรู้ความสามารถและก็มีการศึกษาพอสมควร
คิดว่าน่าจะทำอะไรให้บ้านเมืองได้บ้าง เข้ามาครั้งแรกผมก็สมัครแข่งเป็นนายกอบต. เลยในปี
2556 ผมชนะคู่แข่งประมาณ 800 คะแนน
การบริหารงานท้องถิ่นแตกต่างอย่างไรกับการบริหารธุรกิจ
?
ถือว่าแตกต่างค่อนข้างมากเลยครับ
ธุรกิจเน้นเรื่องผลประโยชน์เป็นหลัก มีกำไรมั้ย ถ้ามีทำ ถ้าไม่มีก็ไม่ทำ
พอมาเป็นภาครัฐก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีเรื่องผลกำไรแล้ว ดูเรื่องประโยชน์ที่ประชาชนได้สูงสุดมากกว่า
การบริหารบ้านเมืองมีกฎหมายที่ต้องปฎิบัติตาม
มีกระบวนการตรวจสอบ ทำงานได้ยากขึ้น มีรายละเอียดมากขึ้นต้องปรับตัวนิดหนึ่งในช่วงแรก
……………………………………………………………………………….
ล้อมกรอบ
2
งานสร้างคน
คนสร้างคน
ในพื้นที่ต.บางน้ำจืดมีเรื่องอะไรที่ต้องแก้ไขบ้างครับ
?
อย่างที่เล่าให้ฟังผมมาอยู่พื้นที่นี้ก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกอบต.ที่นี้
ก็รับรู้ปัญหามาโดยตลอด ซึ่งเรื่องหลัก ๆ ที่ต้องเข้ามาดูแล
น่าจะเป็นเรื่องน้ำประปา เพราะก่อนที่ผมจะมาทำงานนี้ตรง
ผมเห็นถึงคุณภาพของน้ำประปาที่นี้ ที่จะไหลบ้างไม่ไหลบ้าง คุณภาพน้ำก็ไม่ดี
มีสีเหลือง ขุ่นและมีกลิ่น เนื่องจากเป็นน้ำบาดาล ที่นี้พอหลังจากเข้ามาเป็นนายก ฯ
ทำให้ทราบปัญหาว่าเกิดจากบ่อน้ำประปาที่ใช้มานานจะเกิดการรั่วซึม
ทำให้มีน้ำเค็มเข้า ตะกอนเข้า คุณภาพน้ำจะต่ำไปเรื่อย ๆ การแก้ปัญหาก็ต้องใช้เงินมาก
สิ้นเปลืองงบประมาณ เรียกช่างมาซ่อมแต่ละครั้งล้วนมีค่าใช้จ่าย อีกทั้งทางกรมทรัพยากรน้ำ
ก็ไม่อนุญาตให้ขุดเจาะน้ำบาดาลใหม่แล้ว
ดังนั้นการแก้ปัญหาในระยะยาวควรทำอย่างไร
?
ผมว่าต้องเอาระบบประปาเข้ามาในพื้นที่
พื้นที่เราติดกรุงเทพ ฯ แท้ ๆ กลับมีน้ำบาดาลที่ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่มีคุณภาพ
ผมรู้สึกว่าไม่เท่าเทียมกับในกรุงเทพ ฯ นโยบายผมเลยจะเอาประปาภูมิภาคเข้าพื้นที่
ตอนนี้ผมขยายเขตใหม่เอาระบบประปาเข้าพื้นที่ซึ่งก็เยอะแล้ว
ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ขยาย ต้องรอปีหน้าที่จะดึงประปาภูมิภาคเข้ามา
ตอนนี้ก็มีการใช้ระบบประปาเกิน 50 % แล้ว ปี 61 ก็น่าจะครบ
100 % ถ้างบประมาณผ่านได้ ผมถือว่าประปาเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ปัญหา
เพราะเป็นสาธารณูปโภคเบื้องต้นที่ประชาชนต้องใช้
สิ่งหนึ่งที่ประชาชนต้องตั้งคำถาม
คือ เรื่องราคา ตรงนี้จะอธิบายอย่างไร ?
ระบบประปาต้องแพงกว่าบาดาลแน่นอน อธิบายอย่างนี้ครับ ระดับครัวเรือน
สมมุติว่าเสียอยู่ 10 หน่วย เสียประมาณ 50 บาท พอมาเป็นประปาจะเสียอยู่ประมาณ 110 บาท คือแพงขึ้น 60 บาท แต่คุณภาพน้ำต่างกันเลยนะ
อย่างที่ประปาเขาบอก รองจากก๊อกก็ทิ้งไว้สักครู่ ก็สามารถทานได้เลย
ทุ่นเรื่องน้ำขวดไปได้เยอะ แต่น้ำบาดาลทำไม่ได้นะ
ยังมีเรื่องเร่งด่วนอะไรอีกมั้ยครับที่ต้องรีบเข้าไปดำเนินการ ?
ผมว่าเรื่องขยะ เมื่อไหร่มีความเจริญเข้ามา
ขยะน้ำเสียจะตามมา ผมพยายามทำดีที่สุด พยายามจัดเก็บให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องน้ำเสียผมก็บูรณาการในพื้นที่
แต่เนื่องจากเป็นสายน้ำเดียวกัน อย่างต้นน้ำอยู่ในกรุงเทพ พื้นที่ผมเป็นทางผ่านที่จะไหลลงทะเล
ก็มีปัญหาบ้างแต่ก็มีบางจุด แต่บอกตรงๆ การแก้ไขต้องบูรณาการแม่น้ำกันทั้งสาย ตั้งแต่ต้นสายกันเลยทีเดียว
สมัยหน้าจะลงเลือกตั้งอีกมั้ยครับ?
ลงสมัครครับ ในส่วนตัวผมไม่มีปัญหา อยู่ที่รัฐบาลละครับว่าจะให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่
สำหรับผมพร้อมลงสนามทุกเมื่อครับ
……………………………………………………………………………..
ล้อมกรอบ 3
ศิลปกรรม
ทำเพื่อความสุข
ทราบว่าชอบศิลปะด้วย ทำไมถึงชอบงานด้านนี้ ?
คือ ตอนเด็ก ๆ ผมชอบวาดเขียน
แต่ด้วยความที่อยู่ในครอบครัวคนจีนโบราณ ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่เท่าไหร่
ก็เลยไม่ได้ติดตามต่อเนื่อง ผมวาดพอได้ แต่ไม่ได้รับการฝึกฝนเท่าไหร่ ชอบงานศิลปะ
มองออก รู้ว่างานไหนสวยไม่สวย ดิบไม่ดิบ
ละเอียดไม่ละเอียด
มีการสะสมงานศิลปะด้วยหรือไม่
?
ก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่ของศิลปินใหญ่ ๆ
เพราะราคาแพงทั้งนั้น แต่สะสมงานของศิลปินทั่วไป
อย่างที่ผมบอกศิลปินบ้านเราขาดโอกาส ขาดแรงสนับสนุน ขาดการตลาด ศิลปินถูกทอดทิ้งเยอะ
ซึ่งบางคนเก่ง ๆ เยอะนะ
แล้วเป็นอย่างไร
จึงมาจับงานศิลปะอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนถึงขั้นทำเป็นอาชีพ ?
เผอิญผมไปรู้จักน้อง ๆ ที่เพาะช่างที่เก่ง ๆ ให้มาทำงานด้วยกัน
ซึ่งเป็นน้องที่เคยช่วยทำจตุคามด้วยกัน เหมือนจะตอบแทนน้อง ๆ กันน่ะ แรก ๆ ก็ยังไม่คิดจะปั้นหุ่นขี้ผึ้งหรอกครับ พอมาอยู่นานเข้า ก็ถามกันตรง ๆ ว่า ‘แล้วพวกมึงจะทำอะไรกัน’ ผมก็บอกว่างั้นก็ปั้นหุ่นขี้ผึ้งแล้วกัน
เพราะเมื่อก่อนก็เคยคิดกันมา ตกลงก็โอเค วันรุ่งขึ้นก็พากันไปซื้อของที่พรานนก
ต้องบอกก่อนว่า
ในเด็กเพาะช่างที่ปั้นงาน จะมีไม่กี่คนที่สามารถปั้นหุ่นขี้ผึ้งได้
เพราะงานหุ่นขี้ผึ้งมีรายละเอียดเยอะ ที่แตกต่างจากงานปฎิมากรรมแบบอื่น ปั้นหุ่นขี้ผึ้งมีต้นแบบที่ชัดเจนที่ต้องปั้นให้เหมือน
มีตัวเปรียบเทียบ มีดูศิลปะเป็นหรือไม่ก็จะดูว่าเหมือนหรือเปล่า ในความรู้สึกส่วนตัว ผมรู้สึกว่างานปั้นหุ่นขี้ผึ้งเป็นงานที่ละเอียดที่สุดในงานปฎิมากรรมทั้งหมด
มันมีความเป็นมนุษย์
มองแล้วต้องรู้สึกเหมือนมีชีวิต ต้องปั้นชนิดว่า คำแรกที่คนมองแล้วต้องพูดว่า ‘เหมือนมาก’ ถ้าเมื่อไหร่ได้ฟิลอย่างนั้นก็ถือว่าขั้นเทพแล้ว
ราคาหุ่นขี้ผึ้งเป็นอย่างไรบ้าง
ทราบมาว่าแพงเหมือนกัน ?
สมัยก่อนถ้าเป็นพระ
อัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง ก็ราคาเกือบล้านบาท ตอนที่ผมมาทำก็อยู่ระดับ 2 แสน
ถ้าใครจะจ้างก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งเป็นแบบ แค่มาถ่ายรูปทุกมิติ ก็ได้แล้ว ใช้เวลาประมาณ 2
เดือนงานก็เสร็จแล้ว ตอนนี้ผมไม่ได้ทำแล้ว
ปล่อยให้หลานเข้ามาทำแทน ผมวางมือในเรื่องนี้แล้วครับ
สุดท้ายนี้มีอะไรที่จะฝาก
โดยเฉพาะกับคนในพื้นที่บางน้ำจืดบ้างครับ
ผมมาดำรงตำแหน่งนายก อบต.บางน้ำจืด
ผมก็พยายามทำดีที่สุด แม้ผมไม่ได้เติบโตที่นี่ก็จริง แต่ผมก็มาอยู่ที่นี่เป็น 10 ปีแล้ว และก็คิดว่าคงไม่ย้ายไปไหน
แต่สิ่งหนึ่งเลยที่อยากให้พี่น้องประชาชนบางน้ำจืดเชื่อใจสักนิดว่า
ผมตั้งใจที่จะทำให้ตำบลบางน้ำจืดจริง ๆ อย่างอื่นผมไม่สน
มีปัญหาอะไรโทรหาผมได้โดยตรงที่เบอร์ 088 – 1759999 ครับ
……………………………………………………………………..
ก็ต้องถือเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ควรนำไปเป็นแบบอย่างสำหรับความเป็นคนกล้า
คนเก่ง ที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มุ่งมั่นทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ
ก่อนผันตัวเองเข้ามาสนามการเมืองท้องถิ่น
เพื่ออุทิศชีวิตให้กับการตอบแทนแผ่นดินที่มาพักอาศัย ทำงานเพื่อส่วนรวม
ที่แม้จะพบกับอุปสรรคนานัปการ แต่ด้วยนิสัยที่เป็นกล้าได้กล้าเสีย
รักพวกพรรคและไม่ลืมบุญคุณคน ส่งผลให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า ที่แม้จะมีคนชังอยู่บ้าง
จากการทำงานการเมือง แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มใหญ่ที่รักและพร้อมการให้สนับสนุนและอุ้มชูเขาคนนี้ต่อไป
……………………………………………………………..
1 ความคิดเห็น:
ท่านสุบรรณ เป็นบุคคลที่น่าเคารพ กับความเมตตาของท่านที่เข้ามาพัฒนาบางน้ำจืด กับหัวใจของท่านที่ปั้นเกจิอาจารย์ ให้เยาวชนรุ่นหลังได้เคารพ
แสดงความคิดเห็น