งามหน้า ต.นาดี
เพลิงมา รถไม่มี (น้ำมัน) ?
เตือนแล้วเตือนอีก
เตือนอีกเตือนแล้ว จนได้มั้ยล่ะ ผู้บริหารนาดี อวดดีจนได้เรื่อง
เรื่องที่ควรเร่งรัดไม่ทำ ที่ไม่ควรทำนั้นขยันจัง เข้าใจว่าหลายคนยังคงจำกันได้ดีว่า ก่อนหน้านี้ทีมงานหนังสือพิมพ์ชี้ชัดเจาะลึก
โดยการนำของพี่หนวด บก.ใหญ่ ได้เคยออกมาเตือนผู้ดูแลตำบลนาดี พันจ่าเอก อัษฎางค์
วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาล ปฎิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี ให้รีบดำเนินการแก้ไขปัญหา
ต.นาดี ขาดแคลนรถดับเพลิง
อย่างที่เคยบอกกล่าวกันไว้ตรงนี้ว่า
ประเด็นปัญหาของรถดับเพลิงตำบลนาดีนั้น เกิดจาก รถดับเพลิงที่เคยใช้งานอยู่นั้นเกิดเสียขึ้นมา
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ของใช้ย่อมมีเสียมีพัง
แต่เมื่อฝ่ายผู้ปฎิบัติงานอย่างกองดับเพลิงทำเรื่องเสนอซ่อมให้ พันจ่าเอก อัษฎางค์
วิเศษวงศ์ษา รีบดำเนินการแก้ไขปัญหา
แต่เรื่องก็ยังไปไม่ถึงไหน ถึงกระทั่งพี่หนวดชี้ชัดต้องออกกำลังอยู่พักใหญ่ ทางปลัด ฯ จึงยอมออกมาตั้งโต๊ะแถลงถึงสาเหตุที่ทางนาดี
ไม่มีรถดับเพลิงที่ใช้งานได้ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากรถที่มีอยู่ทั้งหมดเกิดเสีย ต้องรองบใหม่ในปีหน้า จะซื้อรถใหม่
ส่วนที่เคยมีการเสนอให้ซ่อมก่อนก็ให้เหตุผลว่า ค่าซ่อมแพงเกินไป
จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตีเรื่องกลับไป
เมื่อพี่หนวดกดดันต้องการคำตอบที่ชัดเจนว่า
แล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ทางปลัดก็ดูเหมือนจะบอกให้ร้องเพลงรอรถใหม่ในปีหน้าไปก่อน เป็นคำตอบที่ได้ใคร ๆจะเชื่อว่าคนระดับปลัดตำบล
จะโชว์ฉลาดได้ถึงเพียงนี้ สุดท้ายก็จำนนต่อหลักฐาน ถูกมอบหมายจากสื่ออย่างชี้ชัด
ให้แบกหน้าไปยืมรถที่อบต.อื่นมาประจำการไว้ก่อน แม้ดูรวม ๆ แล้วน่าสังเวช
และไร้เสน่ห์สิ้นดีก็ตาม
ซึ่งในที่สุดท่านปลัดของพี่น้องก็โชว์ฝีมือการบริหารบ้านเมือง โดยเจรจาขอรถจากที่อื่นมาได้จำนวน
1 คัน ต่อการดูแลโรงงานนับร้อยนับพันโรงงาน ในต.นาดี …5555555
ล่าสุดก็ดั่งที่คาดกันไว้ โดยไม่ต้องสาปแช่ง ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอบต.นาดี ไม่ใช่สิ ในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นาดี ต่างหาก ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตโดยเหตุเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2560 ที่บริษัท พีพีแอล รับเบอร์ แอนด์
ฟุตแวร์ จำกัด อยู่หมู่ที่ 9 ต.นาดี และแน่นอน อบต.นาดีไม่มีปัญญาดับเพลิงได้
จึงต้องขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานอื่นเข้าระงับเพลิง
เพลิงไหม้ครั้งนี้สร้างความฉิ…หาย สมดั่งใจหวัง ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกับรถดับเพลิงเกือบ
20 คันตำบลอื่นที่เข้าช่วยระดมฉีดน้ำภายในโรงงานที่มีเนื้อที่ขนาด
4 ไร่
ท้ายที่สุดราบพนาสูร ซึ่งถ้ามีรถดับเพลิงประจำการเป็นตนเอง อาจจะทำให้เพลิงไหม้ลุกไหม้รุกลามไปมากกว่านี้ และคงไม่สร้างความเสียหายที่ประเมินมูลค่าคร่าว
ๆ น่าจะประมาณ 30 – 40 ล้านบาท
ทราบข้อมูลเลา ๆ
จากวงในว่างานนี้ เกิดจากความขัดแย้งกันระหว่างลูกน้องกับเจ้านายที่ไม่กินเส้นกัน ประมาณมีรถ แต่มีค่าน้ำมัน หรืออะไรประมาณนั้น เรื่องนี้ปล่อยคาราคาซังก็รังแต่จะทำให้บ้านเมืองวอดวาย
ถ้าเรื่องภายในยังเคลียร์กันไม่จบ ก็ไม่ต้องดูแลบ้านเมืองกันแล้ว ลาออกไปเถอะ
อย่างนี้คงต้องถึงมือหัวหน้าสายงานอย่างนายอำเภอหรือระดับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องเข้ามาดำเนินการแล้วล่ะครับ
…………………………………………………………………
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น