pearleus

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

อบจ.สุราษฎร์ฯจับมือครูแนะแนว ผู้ปกครอง-เอกชน-เปิดมุมมองใหม่โลกสัมมาชีพ

สมัชชาการศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากการศึกษาดูงาน การเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นสู่โลกการทำงานในสายอาชีพและมหกรรมเปิดโลกสัมมาชีพของ สภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ตเตรียมนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในพื้นที่ ผสานความร่วมมือภาคเอกชน สถาบันอาชีวศึกษา สมาคมผู้ปกครอง และครูแนะแนว เปิดมุมมองใหม่ในการเรียนรู้เพื่อก้าวสู่โลกของการทำงานที่หลากหลายให้กับเยาวชน  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งใน 14 จังหวัดที่ทำงานร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) เพื่อปฏิรูปการศึกษา ภายใต้ โครงการจังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้ หรือ โครงการการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ Area-Based Education (ABE) ที่มี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ สมัชชาการศึกษาจังหวัดฯ เป็นหน่วยงานประสานเชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานในพื้นที่ โดยล่าสุดคณะทำงานฯได้ไปศึกษาดูงานความสำเร็จของสภาการศึกษาภูเก็ต ในการปรับเปลี่ยนทัศนคติและค่านิยมของครู ผู้ปกครอง และการเรียนรู้ของเยาวชนให้สอดรับกับโลกของการทำงานที่เปลี่ยนไป และเตรียมนำมาขยายผลพัฒนาระบบแนะแนวอาชีพในพื้นที่
นายธีรวัฒน์ รัตนกุล ประธานประสานงานจังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้ จ.สุราษฏร์ธานี เปิดเผยว่าคณะกรรมการสมัชชาการศึกษาจังหวัดฯจะนำแนวทางการดำเนินงานและปัจจัยความสำเร็จของภูเก็ตมาปรับใช้ในพื้นที่ โดยเฉพาะการขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และสถาบันอาชีวศึกษา ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนสู่โลกการทำงาน ให้ลูกหลานของชาวสุราษฎร์ฯรู้จักตัวเอง รู้จักการเรียนรู้ที่รูปแบบใหม่ และรู้จักความหลากหลายของงานและอาชีพในปัจจุบัน
          “สิ่งที่สำคัญในการขยายผลในเรื่องนี้ก็คือการทำให้เด็กและเยาวชนได้รู้ตัวเองว่าในอนาคตเขาจะทำอะไรเพื่อประกอบอาชีพ ให้รู้จักตัวเอง โดยต้องทำงานร่วมกับครูแนะแนว ให้ความรู้และความเข้าใจถึงโลกของอาชีพและทางเลือกในการเรียนรู้ในปัจจุบันที่ไม่เหมือนเก่า รวมไปถึงการเปลี่ยนทัศนคติของผู้ปกครองให้ตระหนักว่าการเรียนรู้ในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรียนเพื่อปริญญาบัตรแต่เป็นการเรียนรู้เพื่อการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นโจทย์ที่คณะทำงานจะต้องนำกลับไปพัฒนาต่อ
ด้าน ดร.สมพร เพชรสงค์ คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวเสริมถึงแนวทางการดำเนินงานนับจากนี้ว่า การทำให้เด็กได้รู้จักตนเองและค้นพบตัวเองในเรื่องของการเรียนรู้และเรื่องของอาชีพได้เร็วมากขึ้นเท่าไรก็จะทำให้เด็กไม่หลุดออกนอกระบบหรือเสียเวลาไปในเรื่องที่ตนไม่ถนัด
                "บริบทเชิงพื้นที่ของสุราษฎร์ฯกับภูเก็ตมีความแตกต่างกัน ดังนั้นในเบื้องต้นคณะทำงานของสุราษฏร์ฯจะกลับไปสำรวจข้อมูลใน 2 ประเด็นคือความต้องการในด้านอาชีพของเยาวชนและผู้ปกครองในพื้นที่ และศึกษาถึงสภาพของครูแนะแนว เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาเครื่องมือและกลไกในการพัฒนากระบวนการทำงาน รวมทั้งการให้ความรู้กับครูแนะแนวและผู้ปกครอง รวมถึงการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กและเยาวชนที่จะจัดขึ้นนับจากนี้
        ขณะที่นายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฏร์ธานี กล่าวว่า  ปัจจุบันมีผู้จบปริญญาจำนวนมาก  แต่จบมาแล้วไม่มีงานทำ ตกงาน ทั้งๆที่ มีตำแหน่งงานเปิดรับมากมาย  แรงงานจ.สุราษฏร์ฯ เปิดตลาดนัดแรงงานมีความต้องการ 600 ตำแหน่ง มีผู้มีคุณสมบัติสมัครได้ 200 ตำแหน่ง 

"ถามว่าเป็นเพราะอะไร เรียนเพื่อปริญญา หรือเรียนเพื่อมีอาชีพในอนาคต  เราจึงควรให้ข้อมูลกับนักเรียน ผู้ปกครองว่าเรียนเพื่อการมีงานทำหรืออาชีพ มิใช่เรียนเพื่อปริญญาแผ่นเดียว แต่เรียนแล้วมีงานทำ เรียนแล้วสามารถมองเห็นอาชีพที่ตนเองรัก ซึ่งต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ  เอกชน ผู้ประกอบการจับมือร่วมกันสร้างอนาคตให้เด็กสุราษฏร์ธานีกันครับ”  
นายทนงศักดิ์ ทวีทอง
ดร.สมพร เพชรสงค์
 

คณะทำงานจังหวัดสุราษฎร์ฯบายภาพ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น