กระทรวงมหาดไทย
สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด
น้อมนำแนวทางพระราชดำริเรื่องการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืน
มาขยายผลสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
วันนี้ (11ก.ย.59) นายกฤษฎา
บุญราชปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
ตามที่กระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.)
ได้กำหนดมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง
โดยให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนปฎิบัติการ ทั้งก่อนเกิดเหตุ
ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ
รวมทั้งการเยียวยาประชาชนและการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดเหตุไปแล้ว นั้น
โดยที่กระทรวงมหาดไทยได้รับทราบว่าเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม
2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง
ให้แก่ผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมเข้าเฝ้าฯ ในโอกาสดังกล่าวด้วย
ซึ่งพระราชดำริดังกล่าวนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรและแสดงให้เห็นพระอัจฉริยภาพในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง
ที่ ประกอบด้วย มาตรการ
และวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบครบถ้วนสมบูรณ์
สามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อเป็นการน้อมนำพระราชดำริดังกล่าวข้างต้น
มาขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
ได้ทบทวนและปรับใช้แผนการปฎิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง
โดยในหนังสือสั่งการดังกล่าวกระทรวงมหาดไทยได้ส่งคลิปในยูทูปที่เป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้าเฝ้าฯเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ศึกษาและน้อมนำไปปฎิบัติในพื้นที่ด้วย
โดยให้จังหวัดตรวจสอบว่า พื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้มีพระราชกระแสรับสั่งถึงข้างต้นนั้น ในปัจจุบันได้มีการจัดทำโครงการ
หรือดำเนินการตามพระราชดำริดังกล่าวไว้แล้วอย่างไร
มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของโครงการและสถานภาพของโครงการในปัจจุบันเป็นอย่างไร
และรายงานรายละเอียดดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทยทราบ
และให้จังหวัดจัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดโดยเชิญผู้เกี่ยวข้อง
รวมถึงหน่วยงานทั้งหมดที่รับผิดชอบเกี่ยวกับระบบน้ำ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดหรืออำเภอ
รวมทั้ง หน่วยทหารพัฒนาหรือหน่วยทหารช่างในพื้นที่ หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม
หน่วยงานทางด้านอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ ตลอดจนผู้มีประสบการณ์ในพื้นที่
รวมทั้งประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดและอำเภอในพื้นที่โครงการ
ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกองค์กร หอการค้าจังหวัด
และสภาอุตสาหกรรรมจังหวัด ตลอดจนสถาบันการศึกษาที่มีภาควิชาเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ
และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มาร่วมประชุมเพื่อศึกษาและน้อมนำพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งดังกล่าวข้างต้น
มาปรับใช้เพื่อขยายผลให้สามารถดำเนินการในจังหวัดและอำเภอตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่
โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง
ซึ่งมีภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน
รวมทั้งเป็นหัวหน้าส่วนราชการหลักประจำพื้นที่ยึดมั่นในการทำงาน
ถือปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท โดยหมั่นออกพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนอย่างทั่วถึงด้วยตนเอง
เพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน
พร้อมทั้งศึกษาสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ให้ทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ
สามารถอ่านและวิเคราะห์แผนที่เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารและการบูรณาการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อการวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่
และหาวิธีลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกันอย่างยั่งยืนตามแนวทางพระราชดำริ
โดยให้พิจารณาศึกษาหาพื้นที่ระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก และพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งในบริเวณชายตลิ่งลุ่มน้ำหรือแม่น้ำสายต่างๆ
ซึ่งอาจจะเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีอยู่เดิมแล้วนำมาพัฒนาปรับปรุงใหม่โดยทำเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่เรียกว่า
แก้มลิงหรือเหมือง/ฝายชะลอ น้ำขนาดเล็ก (check dam) หรืออ่างเก็บน้ำบ่อน้ำ
สระน้ำ ที่เรียกว่า
หลุมขนมครกก็ได้โดยพิจารณาหาพื้นที่สาธารณะหรือที่ดินของรัฐก่อน
หากไม่มีขอให้พิจารณาพื้นที่ของประชาชนที่อาจใช้ได้
แล้วหาทางช่วยเหลือชดเชยหรือเยียวยาประชาชนที่ให้ใช้พื้นที่ทำโครงการตามระเบียบกฎหมาย
หรือจัดทำเป็นโครงการเสนอให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินโครงการ
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ขณะนี้
เริ่มมีฝนตกตามฤดูกาลมากขึ้น จึงได้แจ้งให้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำและอำนวยการระบบจราจรโดยใกล้ชิด
และมีการติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินการในภาพรวมนั้น
ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จะได้ร่วมกัน ทบทวนแผนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งให้เป็นไปตามพระราชดำริข้างต้น
และปรับให้สอดคล้องกับพื้นที่และสถานการณ์ในปัจจุบัน
และจะพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเหลือจ่าย ปี 2559 หรือ
งบประมาณพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการหรือพิจารณาเสนอของบประมาณของส่วนราชการอื่นๆ
เพื่อสนับสนุนโครงการของจังหวัดที่ส่งมาให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา
รวมไปถึงจะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง เช่น กรมชลประทาน
สำนักงาน กปร. มูลนิธิชัยพัฒนา
มูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
(GISTDA) เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงานดังกล่าวของหน่วยปฎิบัติงานในระดับพื้นที่ต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น