เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 58 เวลา 11.00
น.ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สค.
พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบกฯ
พ.ต.อ.คำรณ บุญเลิศ รอง
ผบก.รรท.ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก สว.สส.ฯ ร.ต.ท.นนทศักดิ์
จันทร์กระจ่าง สว.สส.ฯ ร.ต.ท.สุเชาว์ เหมือนมิ่ง รอง สว.สส.ฯ
และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์
รถจักรยานยนต์ พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซูมเมอร์เอ็กซ์
จำนวน 5 คัน รุ่น เอ็ม เอสเอ็กซ์ จำนวน 3 คัน และผู้ต้องหาสองราย คือนายอดิเทพ หรือ ปู อายุ 43 ปี อยู่ที่ ต.โกรกกราก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร และนายพรนิมิต หรือเอ
อยู่ที่ ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร
เผยถึงพฤติการณ์ผู้ต้องหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่านายอดิเทพฯนำรถจักรยานยนต์ที่ได้จาการกระทำความผิดมาขายให้กับบุคคลในพื้นที่
ต.โกรกกราก และ ต.บางหญ้าแพรก ในราคาคันละ 10,000-15,000
บาท เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการเข้าตรวจสอบที่บริเวณห้องพักของนายอดิเทพฯ
พบรถจักรยานยนต์ของกลางจอดอยู่ภายในห้องเช่าดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถของกลางที่ถูกแจ้งหายไว้ที่
สน.แสมดำ
จากการสอบถามนายอดิเทพฯให้การว่าซื้อรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจากนายพรนิมิต
หรือเอ ในราคา 10,000 บาท
เพื่อมาใช้งานโดยไม่มีหลักฐานการซื้อขาย
โดยนายเอนำรถมาขายให้ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนขยายผลจับกุมตัวนายพรพินิต
หรือเอ พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลาง 1คัน
ซึ่งนายพรพินิตหรือ เอ ให้การว่ารับรถจักรยานยนต์มาจากนายแบงค์
อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นจะนำไปให้นายอดิเทพฯขายต่อให้ลูกค้าในราคาคันละ 10,000-15,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 6 คัน แต่ไม่สามารถจับกุมตัวผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์จากนายอดิเทพฯได้
เนื่องจากผู้ซื้อได้นำรถของกลางมาจอดทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ
จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวน่าแปลกใจพบว่าที่หน้ากากรถจักรยานยนต์
ฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ ทุกคันที่ถูกโจรกรรมมาจะมีสติ๊กเกอร์
"หลวงพ่อปู่วัดโกรกกราก"
และสิ่งศักดิ์มีจริงเจ้าของรถที่ถูกคนร้ายลักรถไปหลังขับรถไปจอดร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์แถววัดบ้านไร่
ต.พันท้ายนรสิงห์ ถึงลงนั่งก้มกราบรูปหลวงพ่อปู่ที่ติดอยู่หน้ารถของเธอ
ทั้งจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของกลางได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.โคกขาม สภ.กระทุ่มแบน
และ สน.แสมดำ โดยจะมีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนสลับกันระหว่างรถที่ถูกโจรกรรมมา
ส่วนผู้ชื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม
และนายแบงค์นั้นเจ้าหน้าตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น