191โชว์ผลงาน"จับอาวุธสงคราม"

                                  
ตามนโยบาย  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญาทุกประเภท ตลอดจนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน  เครื่องกระสุนปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องตลอดมา
             วันที่ 3 กรกฎาคม 2558 เวลา 12.00น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต. ชาญเทพ  เสสะเวช, พล.ต.ต. อิทธิพล  พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต. ฉันทวิทย์  รามสูต, พล.ต.ต. จิตติ  รอดบางยาง, พล.ต.ต. เฉลิมพันธุ์  อจลบุญ, พล.ต.ต. สุวัฒน์   แจ้งยอดสุข, พล.ต.ต. นิพนธ์   เจริญผล , พล.ต.ต. ทวิชชาติ   พละศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา
            กองบังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต. ภานุรัตน์   หลักบุญ ผบก.สปพ., พ.ต.อ. ภานุมาศ   บุญญลักษม์, พ.ต.อ. ภีมเสน  ขจรประศาสตร์ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ. สำราญ  นวลมา ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท. กมล   พลสมัคร รอง ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ต. นันทพล  ทองน่วม สว. งานสายตรวจ1ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนงานสายตรวจ 1ได้ร่วมกันทำการจับกุม
            นายสงกรานต์  ธุระยศ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 6 ต.งิม  อ.ปง   จ.พะเยา  เลขประจำตัวประชาชน 3 5606 00115 55 1 ( ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ 861/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 เหตุเกิดในพื้นที่ สน.ท่าข้าม บก.น.9, หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 172/2558 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2558 เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี, หมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ ค. 215/2558 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 )
พร้อมของกลาง
           1. อาวุธปืน เอเค 47(อาก้า)                    จำนวน    1   กระบอก
           2. ซองบรรจุกระสุนเอเค 47 (อาก้า)         จำนวน    2   ซอง
           3. เครื่องกระสุนปืน ขนาด เอเค 47          จำนวน   40 นัด
           4. กระเป๋าผ้าสำหรับใส่อาวุธปืนยาวสีดำ  จำนวน   1   ใบ
           5. กระสอบปุ๋ยสีขาว                               จำนวน   1    ใบ
           6. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.             จำนวน   83   นัด
           7. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .32                 จำนวน   11   นัด
           8. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380               จำนวน    9    นัด
           9. เครื่องกระสุนปืน ขนาด เบอร์ 12          จำนวน    3    นัด
           10. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.65 มม.       จำนวน    1    นัด
           11. รถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฮอนด้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน ธง- 2668 กทม. จำนวน 1 คัน
วันเวลา/สถานที่จับกุม วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 บ้านเลขที่ 558/103 หมู่บ้านราชพฤกษ์ ถนนหทัราษฏร์  

แขวง/เขตคันนายาว  กรุงเทพมหานคร  โดยกล่าวหาว่า " กระทำความผิด ฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิง ซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำและชิงทรัพย์ ( ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ 861/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ) , กระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ( ตามหมายจับศาลจังหวัด กาญจนบุรี ที่ 172/2558 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2558 ) , มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง โดยผิดกฏหมาย "
             พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 58 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา จนกระทั่งสืบทราบว่า นาย สงกรานต์    ธุระยศ  บุคคลตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ 861/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557, หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 172/2558 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2558 ได้หลบหนีมาอยู่บ้านเลขที่ 558/103 หมู่บ้านราชพฤกษ์  ถนนหทัยราษฎร์  แขวง/เขตคันนายาว  กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำ หมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ ค. 215/2558 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 เข้าทำการตรวจค้นเมื่อไปถึงพบนาย สงกรานต์  ธุระยศ บุคคลตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ 861/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557, ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 172/2558 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2558 จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงหมายจับให้ นายสงกรานต์   ธุระยศ บุคคลตามตรวจสอบซึ่งนายสงกรานต์ฯ ได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งต่อ นายสงกรานต์ฯ ว่าต้องถูกจับกุมในข้อหา

 1. กระทำความผิดฐาน  ข่มขืนกระทำชำเราหญิง ซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำและชิงทรัพย์ ( ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ 861/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม  2557 )

2. กระทำความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ( ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 172/2558 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2558 ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ให้ นายสงกรานต์ฯ นำตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว พบกระสุนปืนของกลาง ตามลำดับที่ 6-10 ซุกซ่อน บ้านหลังดังกล่าว ทั้งยังรับว่าตนมีอาวุธสงคราม ( เอเค 47 ของกลางลำดับที 1 ) อีก 1 กระบอก ซึ่งตนเองได้นำไปซุกซ่อนไว้ บริเวณหมู่บ้านแมกไม้มิ่งเมือง  ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง  แขวงบางขัน เขตคลองสามวา  กรุงเทพมหานคร และยินดีนำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปเอาอาวุธปืนดังกล่าวที่ตนเองได้ซุกซ่อนไว้ เมื่อไปถึงหมู่บ้านแมกไม้มิ่งเมือง นายสงกรานต์ฯ ได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ไปที่บ้านเลขที่ 249/18 ซึ่งเป็นบ้านร้างแต่มี รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน ธง-2668 กทม. จอดอยู่และได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในกระโปรงท้ายรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ นายสงกรานต์ฯ เปิดท้ายรถซึ่งไม่ได้ล็อคกุญแจแต่อย่างใด เมื่อเปิดฝาท้ายรถขึ้น เจ้าหน้าที่พบ อาวุธปืน เอเค 47 พร้อมซองกระสุน 2 ซอง ซึ่งบรรจุ

กระสุนอยู่จำนวน 40 นัด บรรจุอยู่ในกระเป๋าใส่ปืนสีดำ อยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้ง ข้อกล่าวหาต่อ นายสงกรานต์ฯว่า" มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย "  และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้นำตัว นายสงกรานต์ฯ  ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

///////วีระวุฒิ ชี้ชัด รายงาน

Posted in: 191โชว์ผลงาน"จับอาวุธสงคราม"